บัฟเฟตต์ ได้เขียนเอาไว้ว่า "ตลาดหุ้นนั้นไม่มี ที่มีอยู่ตรงนั้น ก็เพียงเพื่อให้เราเห็นว่า ใครกำลังทำอะไรที่โง่ๆ อยู่"
- ปีเตอร์ ลินซ์ -
เหนือกว่าวอลล์สตรีท
Buffett has written, "the stock market doesn't exist. It is there only as a reference to see if anybody is offering to do anything foolish."
- Peter Lynch -
One Up On Wall Street
- ปีเตอร์ ลินซ์ -
เหนือกว่าวอลล์สตรีท
Buffett has written, "the stock market doesn't exist. It is there only as a reference to see if anybody is offering to do anything foolish."
- Peter Lynch -
One Up On Wall Street
......................................................................................................................
..................................................................................................................
นาย ก : ไม่เห็นหลายวันไปไหนมาครับ ?
นาย ข : ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาครับ
นาย ก : เป็นยังไงบ้างครับ บ้านเมืองเขาไฮเทคไหมครับ ?
นาย ข : สุดยอดเลยครับ ผมนั่งรถไฟชินคันเซ็น เร็วมากแป๊บเดียวถึงครับ
นาย ก : โอ้ โห ยอดเยี่ยมจริงๆ
นาย ข : มันสุดยอดมากครับ แล้วดูเมืองไทยสิครับ ไม่พัฒนา ร้อยปีก่อนเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น
นาย ก : อื่มมมม ทำไมเป็นงั้นละครับ ?
นาย ข : ก็เรายังมีผู้นำโง่ๆ นักการเมืองเหี้ยๆ เต็มไปหมดแบบนี้ มันจะไปพัฒนาอะไรได้ครับ !!
นาย ก : ได้ข่าวว่า รัฐบาลนี้เขาเริ่มโครงการรถไฟฟ้ าความเร็วสูงแล้วนะครับ
นาย ข : พี่น้องคู่นี้มันเก่งจริงๆนะครั บ ถนัดแต่โครงการใหญ่ๆ เล็กๆมันกินไม่อิ่ม
นาย ก : อืม.....
นาย ข : นี่ไม่รู้จะไปก่อหนี้ทิ้งไว้ให้ ประเทศชาติอีกเท่าไหร่ แล้วเดี๋ยวแม่งก็มาเก็บภาษีกับเ ราเพิ่มครับ
นาย ก : ปีนี้เขาปรับอัตราจัดเก็บภาษีลด ลงมาด้วยนะครับ
นาย ข : เอาอีกแล้วซื้อเสียงเชิงนโยบาย หลอกได้แต่ไอ้พวกควายโง่ๆเท่านั ้นแหละครับ ลองดูดีๆ พวกที่ได้ประโยชน์คือพวกคนรวยคร ับ
นาย ก : ..... ได้ข่าวพบโครงการสนามกีฬาทั่วปร ะเทศ สมัยรัฐบาลปชป. ไหมครับ ?
นาย ข : โครงการนี้มีประโยชน์นะครับ เสริมสร้างสุขภาพให้กับเยาวชน สนับสนุนการกีฬา
นาย ก : คือมันสร้างไม่เสร็จอีกแล้วนะคร ับ ซ้ำรอยกทม.เลย
นาย ข : รัฐบาลชุดที่แล้วเขาริเริ่มมาดี แล้ว มันเป็นเรื่องการบริหารสัญญา ทำไมรัฐบาลที่เข้ามาไม่สานต่อโค รงการดีๆแบบนี้ละครับ
นาย ก : .......
นาย ข : ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาครับ
นาย ก : เป็นยังไงบ้างครับ บ้านเมืองเขาไฮเทคไหมครับ ?
นาย ข : สุดยอดเลยครับ ผมนั่งรถไฟชินคันเซ็น เร็วมากแป๊บเดียวถึงครับ
นาย ก : โอ้ โห ยอดเยี่ยมจริงๆ
นาย ข : มันสุดยอดมากครับ แล้วดูเมืองไทยสิครับ ไม่พัฒนา ร้อยปีก่อนเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น
นาย ก : อื่มมมม ทำไมเป็นงั้นละครับ ?
นาย ข : ก็เรายังมีผู้นำโง่ๆ นักการเมืองเหี้ยๆ เต็มไปหมดแบบนี้ มันจะไปพัฒนาอะไรได้ครับ !!
นาย ก : ได้ข่าวว่า รัฐบาลนี้เขาเริ่มโครงการรถไฟฟ้
นาย ข : พี่น้องคู่นี้มันเก่งจริงๆนะครั
นาย ก : อืม.....
นาย ข : นี่ไม่รู้จะไปก่อหนี้ทิ้งไว้ให้
นาย ก : ปีนี้เขาปรับอัตราจัดเก็บภาษีลด
นาย ข : เอาอีกแล้วซื้อเสียงเชิงนโยบาย หลอกได้แต่ไอ้พวกควายโง่ๆเท่านั
นาย ก : ..... ได้ข่าวพบโครงการสนามกีฬาทั่วปร
นาย ข : โครงการนี้มีประโยชน์นะครับ เสริมสร้างสุขภาพให้กับเยาวชน สนับสนุนการกีฬา
นาย ก : คือมันสร้างไม่เสร็จอีกแล้วนะคร
นาย ข : รัฐบาลชุดที่แล้วเขาริเริ่มมาดี
นาย ก : .......
.........................................................................................................................
....................................................................................................................
» คำถามสำคัญของชีวิต : "Who am I?" / อะไรเล่าคือ "ฉัน" ที่แท้?
'มูลลา นัสรูดิน' เดินทางไกลผ่านเมืองในชนบท หลังจากเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้ งวัน และถึงเวลาพลบค่ำแล้ว จึงจำเป็นต้องหาที่พักค้างค ืน ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง...
วันนั้นมีผู้คนเดินทางเป็นจ ำนวนมากจนห้องพักไม่พอ ทางโรงแรมจึงได้จัดให้ผู้มา พักนอนชิดติดเป็นแถวเรียงกั นไป
ก่อนนอนคืนนั้น นัสรูดินนึกกังวลไปว่า หากปิดไฟในโรงนอนจนมืดแล้วจ ะมองไม่รู้ว่าคนไหนเป็นตัวเ อง เพราะนอนเรียงติดกันเป็นพืด
เขาจึงใช้ลูกโป่งสีแดงผูกเช ือกไว้กับปลายเท้าของตัวเอง เพื่อให้บอกได้ว่าคนที่นอนต รงนี้นั้นคือตัวเขา คือนัสรูดินนั่นเอง
แต่ในช่วงดึกของคืนนั้นมีชา ยคนหนึ่งเดินมาเห็นเข้าและค ิดอยากแกล้งนัสรูดิน จึงได้ย้ายเชือกลูกโป่งไปผู กไว้กับปลายเท้าของอีกคนที่ นอนข้างๆ
พอถึงเวลาเช้ามืด เมื่อนัสรูดินตื่นขึ้นและมอ งไปรอบๆ เห็นลูกโป่งผูกอยู่ปลายเท้า ของชายที่นอนข้างๆ เขาจึงรีบลุกขึ้นไปจับมือชา ยคนนั้น พร้อมกับทักทายด้วยความดีใจ อยางกระตือรือร้นว่า...
"สวัสดีๆ ฉันรู้จักเธอ เธอคือนัสรูดิน แต่ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่า ฉันคือใคร..."
◌◌◌◌◌◌◌◌
หากใคร่ครวญดีๆ แล้วจะพบว่า คำถามนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ต่อชีวิตของคนเรา เพราะความไม่รู้ว่า "ฉันคือใคร" ฉันจึงไปหลงและอิงอาศัยอยู่ กับสิ่งที่ตนเองหยิบยื่นให้ ด้วย
นับตั้งแต่ชื่อ (บางคนเปลี่ยนแล้วหลายครั้ง ) ชื่อเล่น คุณวุฒิ ตำแหน่งงาน ฐานะ บทบาททางสังคม อารมณ์ ความรู้สึก ลึกลงไปอีก
ฉันคือความคิดความเห็น จุดยืน นิสัยใจคอ บุคลิก และความเชื่อของฉันในเรื่อง ต่างๆ แล้วอะไรเล่าคือ "ฉัน" ที่แท้
มีครูอาจารย์หลายท่านได้ให้ ความรู้และคำสอนถึงธรรมชาติ แท้จริงของชีวิต ...เพื่อชี้ทางให้พวกเราสาม ารถหาคำตอบของคำถามนี้ได้
หนึ่งในนั้นที่ให้คำอธิบายไ ด้อย่างแจ่มแจ้งละเอียดลออท ี่สุดคือ หลวงพ่อพิชัย สุธัมมสุชาโต ...แห่งสำนักปฏิบัติธรรม วนานุรักษาราม จังหวัดบุรีรัมย์
ท่านให้การอบรมธรรมะเพื่อรู ้ทางสู่ความสุขอันแท้จริงอย ่างอิสระ และจากหนังสือทางสู่ความพ้น ทุกข์ ซึ่งได้ให้คำตอบต่อคำถามว่า "ฉันคือใคร" อย่างชัดเจน
◌◌◌◌◌◌◌◌
หลวงพ่อพิชัยท่านสอนว่า...
"ตัวตนแท้จริงของเราคือใจ เดิมนั้นเป็นใจบริสุทธิ์ผุด ผ่องใส เป็นธรรมชาติ ในใจบริสุทธิ์ผุดผ่องใสซึ่ง เป็นธรรมชาติเดิมนั้นมีคุณส มบัติคือ รู้ คิด และจำอยู่ในใจ"
"ใจเป็นคำไทย จิตเป็นคำบาลี มีความหมายอย่างเดียวกัน จิตที่เป็นธรรมชาติเดิม อยู่ในภาวะภวังคจิต คือสงบนิ่ง จิตนี้เป็นอวิชชา คือความไม่รู้จริง ไม่รู้รอบ ก็ชื่อว่า จิตนี้โง่"
"ความจริงจิตเดิมนั้นไม่มีร ูปร่าง ไม่มีตัวตน ไม่เป็นสัตว์ ไม่เป็นชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นภาวะที่รู้ - คิด - จำ เหมือนกับเป็นพลังงานที่เล็ กและละเอียดที่สุดยิ่งกว่าพ ลังงานใดๆ
เมื่อจิตนี้ยังโง่ จึงหลงเข้าใจผิดคิดว่าถ้ามี ร่างกายเป็นอุปกรณ์เครื่องใ ช้คงจะดีมีความสุข จึงได้เพ่งพลังจิตด้วยความอ ยากมีร่างกาย สร้างให้เกิดร่างกาย แล้วจิตก็เข้าไปสถิตในนั้นเ รียกว่าวิญญาณ"
(ใครที่มีความรู้ทางธรรมคงท ราบดีว่าหลวงพ่อกำลังอธิบาย เรื่องปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง)
นี่จึงเป็นที่มาของ...ความย ึดมั่นถือมั่นว่ารูปที่จิตส ร้างขึ้นนั้นจะมีความยั่งยื น ทั้งที่ในความจริงคือสิ่งใด ที่ถูกสร้างขึ้น สิ่งนั้นก็ย่อมสลายหายไปตาม กฎของอนิจจังคือความไม่เที่ ยง
รูปที่สร้างขึ้นตอนแรกนั้นย ังบอบบางอ่อนแอ แต่จิตก็ยังมีความรักหลงใหล ต่อรูปนั้นอย่างลึกซึ้ง เมื่อไม่สามารถคงทนต้องสลาย ไป จิตก็จะเกิดความโศกเศร้าเสี ยใจและพยายามเพ่งพลังให้ได้ รูปที่ซับซ้อนมากขึ้น
จนเกิดเป็นอนุภาค อะตอม ธาตุ โมเลกุล สารประกอบ และเซลล์ต่างๆ จนกลายเป็นชีวิตขึ้นในเวลาต ่อมา
ยิ่งรูปนั้นมีความซับซ้อนมา กขึ้นเพียงใด จิตก็ยิ่งต้องทุกข์ในการสร้ าง คอยรักษาไว้ทั้งยังต้องกังว ลหวงแหน...กลัวว่าจะสูญเสีย ไป
◌◌◌◌◌◌◌◌
หากเรากลับมาเพ่งพินิจที่ใจ ตัวเอง ก็จะพบว่า...จริงดังที่หลวง พ่อสอน คือ เรายังมีความกลัวลึกๆ อยู่ในใจตลอดเวลา ได้แก่...
กลัวหิว กลัวเมื่อย กลัวเหนื่อย กลัวเจ็บป่วยไม่สบาย กลัวไม่มีคนรัก กลัวไร้ค่า กลัวจน กลัวแก่ และกลัวที่สุด คือ กลัวตาย แต่ไม่ว่าจะกลัวตายแค่ไหนก็ ต้องตายอยู่ดี แล้วจะกลัวตายไปทำไม ใช่ไหมครับ
ในความจริงนั้น ใจเป็นอมตะคือไม่เกิดไม่ตาย ความกลัวที่ติดไปกับใจก็จะน ำให้ไปสู่การเกิดภพชาติต่าง ๆ ไปอย่างไม่มีสิ้นสุด
คนเราจึงพยายามนำเอาโลกธรรม คือ ฐานะ ยศ ชื่อเสียง ความสุขสบาย เข้ามาเป็นเครื่องมือปกป้อง ชีวิต แต่ก็ต้องทุกข์และผิดหวังอย ู่ดี
เพราะทุกสิ่งที่แสวงหามาเพื ่อให้กับจิตนั้นที่ล้วนตกอย ู่ในสภาพเดียวกัน คือความต้องเสื่อมสลายหายไป หมด
หลวงพ่อพิชัยจึงสอนให้เราหย ั่งใจ (fathom) นำความเข้าใจความจริงนี้เอง สู่ใจให้ลึกที่สุด ...ลึกจนสามารถทำลายความหลง ผิดของจิตที่ต้องการอะไรที่ มากไปกว่าจิต แล้วกลับมาสู่จิตเดิมที่ผ่อ งใสบริสุทธิ์อีกครั้ง
แต่คราวนี้จะกลับสู่จิตเดิม พร้อมกับวิชชา...หรือความรู ้ว่า "ฉันคือจิต" จะไม่หลงสร้าง หลงยึด หลงรักษา จนต้องหลงกลัวและหลงทุกข์จอ มปลอมเช่นเดิมอีก
เรียกว่าพ้นทุกข์กันในชีวิต นี้เลยทีเดียว...ดีไหมครับ?
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : รศ.นพ.ธวัชชัย กฤษณะประกรกิจ | คอลัมน์ Mind Management นิตยสาร ซีเคร็ต ฉบับเดือนเมษายน 2554
'มูลลา นัสรูดิน' เดินทางไกลผ่านเมืองในชนบท หลังจากเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้
วันนั้นมีผู้คนเดินทางเป็นจ
ก่อนนอนคืนนั้น นัสรูดินนึกกังวลไปว่า หากปิดไฟในโรงนอนจนมืดแล้วจ
เขาจึงใช้ลูกโป่งสีแดงผูกเช
แต่ในช่วงดึกของคืนนั้นมีชา
พอถึงเวลาเช้ามืด เมื่อนัสรูดินตื่นขึ้นและมอ
"สวัสดีๆ ฉันรู้จักเธอ เธอคือนัสรูดิน แต่ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่า ฉันคือใคร..."
◌◌◌◌◌◌◌◌
หากใคร่ครวญดีๆ แล้วจะพบว่า คำถามนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
นับตั้งแต่ชื่อ (บางคนเปลี่ยนแล้วหลายครั้ง
ฉันคือความคิดความเห็น จุดยืน นิสัยใจคอ บุคลิก และความเชื่อของฉันในเรื่อง
มีครูอาจารย์หลายท่านได้ให้
หนึ่งในนั้นที่ให้คำอธิบายไ
ท่านให้การอบรมธรรมะเพื่อรู
◌◌◌◌◌◌◌◌
หลวงพ่อพิชัยท่านสอนว่า...
"ตัวตนแท้จริงของเราคือใจ เดิมนั้นเป็นใจบริสุทธิ์ผุด
"ใจเป็นคำไทย จิตเป็นคำบาลี มีความหมายอย่างเดียวกัน จิตที่เป็นธรรมชาติเดิม อยู่ในภาวะภวังคจิต คือสงบนิ่ง จิตนี้เป็นอวิชชา คือความไม่รู้จริง ไม่รู้รอบ ก็ชื่อว่า จิตนี้โง่"
"ความจริงจิตเดิมนั้นไม่มีร
เมื่อจิตนี้ยังโง่ จึงหลงเข้าใจผิดคิดว่าถ้ามี
(ใครที่มีความรู้ทางธรรมคงท
นี่จึงเป็นที่มาของ...ความย
รูปที่สร้างขึ้นตอนแรกนั้นย
จนเกิดเป็นอนุภาค อะตอม ธาตุ โมเลกุล สารประกอบ และเซลล์ต่างๆ จนกลายเป็นชีวิตขึ้นในเวลาต
ยิ่งรูปนั้นมีความซับซ้อนมา
◌◌◌◌◌◌◌◌
หากเรากลับมาเพ่งพินิจที่ใจ
กลัวหิว กลัวเมื่อย กลัวเหนื่อย กลัวเจ็บป่วยไม่สบาย กลัวไม่มีคนรัก กลัวไร้ค่า กลัวจน กลัวแก่ และกลัวที่สุด คือ กลัวตาย แต่ไม่ว่าจะกลัวตายแค่ไหนก็
ในความจริงนั้น ใจเป็นอมตะคือไม่เกิดไม่ตาย
คนเราจึงพยายามนำเอาโลกธรรม
เพราะทุกสิ่งที่แสวงหามาเพื
หลวงพ่อพิชัยจึงสอนให้เราหย
แต่คราวนี้จะกลับสู่จิตเดิม
เรียกว่าพ้นทุกข์กันในชีวิต
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : รศ.นพ.ธวัชชัย กฤษณะประกรกิจ | คอลัมน์ Mind Management นิตยสาร ซีเคร็ต ฉบับเดือนเมษายน 2554
....................................................................................................................
.....................................................................................................................
.....................................................................................................................
ที่มาของ มาร์ค ม.7 - #NO112 #WTT #สกน
...................................................................................................................
หรือต้องขยายเพิ่มเป็น ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของชาติ
.........................................................................................................
.................................................................................................................
......................................................................................................................
นายชวนได้ออกมาตอบโต้แล้ว
โดยกล่าวว่า เป็นโครงการที่นายชวนคิดมาก
นี่คือ ประชาธิปัตย์ ผิดจากนี้ ..ไม่ใช่
...................................................................................................................
"ชูวิทย์"จัดทำหนังสือ"ท่อง
คลิกอ่านรายละเอียด http://www.matichon.co.th/
................................................................................................................
................................................................................................................
ผบ.ทอ.เชื่อรัฐบาลกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อการพัฒนาให้เกิดประโยช
ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเกร
...................................................................................................................
.....................................................................................................................
....................................................................................................................
"วิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้สมบู
คาร์ล เซแกน
...................................................................................................................
......................................................................................................................
สาระ+ภาพ 3 มุม 3 ปากคำ ใครเผาเซ็นทรัลเวิลด์
http://prachatai.com/journal/2013/03/45942
.........................................................................................................................
Supapong Wanitpongpan ส่วนตัวผมเบื่อการโยงแบบนี้ฉิบหายเลยว่ะ ... คือมึงโยงกันได้ยังไงว่ะ ... โหนทหารชัด ๆ ทุกวันนี้มันจะมีประโยคแบบ "ทำรถไฟความเร็วสูงทำไมเพิ่มเงินให้ทหารดีกว่าไหม", "สร้างถนนทำไมเพิ่มเงินให้ทหารดีกว่่าไหม" ... แทบจะเรียกว่า ทำเหี้ยอะไรก็ต่อท้ายด้วยเพิ่มเงินให้ทหารดีกว่าไหม ??? คือแม่งงั้นก็ไม่ต้องทำเหี้ยอะไรแล้วครับ ... แล้วผมสงสัยว่ะ ... งี้อีกหน่อย มีคนเรียกร้องให้เพิ่มเงินให้ ...ตำรวจ, คนกวาดถนน ฯลฯ ด้วยทำไงว่ะ ประเทศนี้เลยหยุดพัฒนาจนกว่าจะเพิ่มเงินให้คนบางกลุ่มเหรอไงว่ะ
ที่จริงคุณต้องโต้แย้งว่า ทำไมควรเพิ่มเงินให้ทหาร ... และทำไมเค้าควรได้ฐานเงินเดือนเกินอาชีพอื่น (อย่าลืมว่าประเทศเราใช้ระบบฐานเงินเดือนที่เท่ากันทุกอาชีพ) นี่เป็นประเด็น ไม่ใช่ห้ามทำโน่นทำนี่ ควรเอาเงินมาเพิ่มให้กลุ่มนี้ดีกว่า มันฟังไร้เหตุผลสัส ๆ
ส่วนตัวผมแม่งเห็นด้วยว่ะกับการมีกำไลนักโทษ แต่ก่อนด่าควรเข้าใจก่อนว่าในต่างประเทศเค้าทำแบบนี้ เพราะ ประหยัดเงิน (คือนักโทษอยู่บ้านก็หาแดกเอง จ่ายค่่าน้ำค่าไฟเอง ไม่ได้ใช้ของรัฐ ไม่ต้องเสียเงินจ้างผู้คุมเยอะ ๆ เพื่อมาคุมนักโทษจำนวนมาก ๆ ) ลดความหนาแน่นในคุก ลดปัญหาการเข้าคุกแล้วมาเรียนวิชาโจรมากขึ้น ... แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเค้าไม่ได้ใช้ทุกคน เค้าใช้เฉพาะโทษเบา ๆ เช่น เช็คเด้ง โทษจำคุกจากคดีแพ่ง เมาแล้วขับ ... หรือไม่งั้นก็ใช้กับพวกที่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว เค้าไม่ใช่เอาพวกโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตมาใช้ว่ะ
จาก Status : ตรรกะ
Korn Supa ถ้าจะเอาเหตุผลจริงๆ
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาตราชั่งอะไรมาวัดได้หรอกนะว่าอะไรมันเหมาะกว่ากัน
แต่ผมแปลกใจว่า ถ้าทหารไม่พอใจนี่ เขาลาออกไม่ได้เหรอครับ?
................................................................................................................
คน100คนมองเห็น"สิ่งเดียวกั
เพราะฉะนั้น อย่าไปคิดมาก ถ้ามีคนตัดสินคุณ...ด้วยควา
100PIPERS
..................................................................................................................
"ยาที่ดีที่สุด คือ การมองโลกในแง่ดี"
"The best medicine is look at things optimistically."
.................................................................................................................
...............................................................................................................
เอามาให้พวกโง่ ๆ ดู ซะ ว่า ธนบัตรในช่วงก่อนหน้านี้ไม่
.................................................................................................................
"เอาใจเขามาใส่ใจเราคือศาสน
ศาสนาด้วยความรักและความรู้
กับ วินทร์ เลียววาริณ
เรื่อง : ศศิ วัน
ภาพ : รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์
สานแสงอรุณ ฉบับ ๙๓
...........................................................................................................................................