วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

01/06/2556

..........................................................................................................................



จริงจังกันหน่อยค่ะ ซีเรียส
...........................................................................................................................

...........................................................................................................................


มีวันนี้ ... เพราะมีครู

สำหรับตัวผมแล้ว กระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย คือ กระบวนการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมได้มากที่สุด และเปลี่ยนแปลงชีวิตผมไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

จากไม่เคยคิดถึงชีวิต ... ก็ถูกสอนให้คิด

จากไม่เคยคิดอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน (นอกจากเรียนแล้วก็สอบ) ... ก็ถูกสอนให้คิดเป็น มองเป็น อย่างมีระบบ ระเบียบ เป็นแบบแผน (เห็นเค้าเรียกกันว่า Systematic Thinking จริงหรือเปล่าไม่รู้)

ไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรเพื่อคนอื่น ... ก็ถูกสอนให้คิดถึงสังคม ส่วนรวม และคนรอบข้าง

6 ปี ที่อยู่ในรั้วปราสาทสีแดง (ผมเรียนนาน เพื่อความชัวร์ 555) ผมได้อะไรมากกว่าปริญญาใบเดียวเยอะเลย ทั้งประสบการณ์ในห้องเรียน และนอกห้องเรียน (555)

แม้วันนี้ผมจะวางงานด้านวิศวกรรมไปแล้ว (หลังจากทำมา 10 กว่าปี) แต่วิถีคิด วิถีการมอง และแนวคิดการดำรงชีวิตของผมนั้น ...

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ... ถูกหล่อหลอมมาจากสถาบันอันเป็นที่รักแห่งนี้

แม้แต่คติในการดำรงชีวิตของผมในทุกวันนี้ ก็ยังยึดมั่นในคำของพระเจริญวิศวกรรม ซึ่งเป็นเสมือนพ่อของผมทุกคนนั่นคือ

MIND MOVES MATTERS ... หรือ "จิต เคลื่อน สสาร"

"ด้วยความคิดของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้"

เนื่องในโอกาสครบ 100 ปีของสถาบัน ขอถือโอกาสวันนี้ขอบพระคุณ และอวยพรให้สถาบันอันเป็นที่รัก ผลิตบุคลากรเพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติในทุกด้านสืบไปครับ
..................................................................................................................


คำถาม
เหมือนตายทั้งเป็น เค้าเดินจากไป ขอโทษคำสั้นๆว่าเราไม่ใช่คนที่ใช่ของเค้า(เมื่อก่อนไม่เห็นพูดหยั่งงี้) ทิ้งอนาคตที่วางแผนกันมาแสนนานกับสายเลือดตัวน้อยๆของเค้า ทุกวันนี้ยังไม่กล้าไปสู้หน้าแม่ ทั้งๆที่แม่ก็หน้าสงสารเพราะไม่ได้อยู่กับพ่อ หาคำตอบให้ตัวเองไม่เจอจิงๆ ไอ้เพื่อนรักก้อบอกว่าร้องไห้ทุกวันอย่างงี้ตาไม่มีทางมองเห็นคำตอบหรอก น้ำตาบังตาหมด คุณมีคำตอบบ้างมั้ย /for get me not
......................

คำตอบ
ผมไม่มีคำตอบให้หรอกครับ แต่เคยแต่งเพลงชื่อคำตอบ
http://www.youtube.com/watch?v=s9nQEcxBRT0

..............................................................................................................



กรรมเก่า T_T

A New Fern แอบ แทง ใจดำ นิดๆ

...............................................................................................................................



» แนวคิด จาก..."นามบัตร"

ใครที่เคยทำธุรกิจ หรือติดต่อกับชาวญี่ปุ่น คงพอที่จะจำท่าทางและวัตถุสิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ "นามบัตร"

คนญี่ปุ่น มักจะสนใจและใส่ใจอย่างมากกับกระดาษชิ้นเล็ก ๆ นี้ ซึ่งสำหรับเขาแล้ว มันมีความหมายกว่า ชื่อ ตำแหน่ง และหน่วยงานที่เขาสังกัด ซึ่งไม่ได้หมายถึงความสวยงาม หรือแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะโดยส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นนามบัตรของคนญี่ปุ่น ที่หรู เริ่ด อลังการเลย

แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างในนามบัตรของเขา คือ...

มันหมายถึง ศักดิ์ศรี! ของผู้ให้

ด้วยวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดี คือ การให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีและยอมตายเพื่อมันได้อย่างที่มีให้เห็นมาตั้งแต่อดีต ทุกอย่างในการดำเนินชีวิตของพี่ยุ่นถูกหล่อหลอมด้วยความคิดเช่นนี้ และก็ได้ถูกแสดงและถ่ายทอดออกมาด้วย "นามบัตร"

ซึ่งนามบัตรของคนญี่ปุ่นนั้น จะประกอบด้วยชีวิต และสิ่งที่เขาทำโดยตลอดชีวิต ดังนั้น การให้นามบัตรแก่ใคร ก็คือ การแสดงให้คนอื่นเห็นถึงเกียรติ และศักดิ์ศรี ที่พึงมีของเขา


เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า ถ้าคุณเป็นชาวญี่ปุ่น แล้วไปทานอาหาร แต่ลืมเอาเงินติดตัวไป คุณสามารถมาจ่ายวันหลังได้ โดยที่คุณจะทิ้งนามบัตรเอาไว้แผ่นเดียว และเจ้าของร้านก็จะยินยอมแต่โดยดี

เพราะสิ่งที่เขาทิ้งไว้ คือ เกียรติในชีวิต นั่นเอง

::::::::::::::::::


ถ้าเป็นคนไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ อาจมีวิญญาณจอมยุทธ์เข้าสิง รีบชักกระบี่ออกจากฝักทันที

แล้วนามบัตรของคนไทยล่ะ หมายถึง อะไร ?

"ชื่อ" ยังสำคัญน้อยกว่า "ตำแหน่ง"

แน่นอนคนไทยเวลาให้นามบัตร สิ่งที่คำนึงมากที่สุดไม่ใช่สนใจว่า เรากำลังหยิบยื่นอะไรให้คนอื่น แต่คนส่วนมากมักจะนึกถึงว่า...

เมื่อคนรับ รับนามบัตรเราไปแล้วจะรู้สึกอย่างไร? เมื่อเห็นนามบัตรของเรา เห็นตำแหน่งของเรา เห็นองค์กรของเรา เขาจะเห็นเราตัวใหญ่ขึ้น? หรือ เล็กลง?

เรากำลังใช้นามบัตรของเราเพื่อทำให้ขนาดของตัวเรา ยืด หรือ หด มากกว่า การแสดงตัวตนของเราเอง

ใครอยู่ในองค์กรเล็ก ๆ หรือ ตำแหน่งเล็ก ๆ มักจะอายเวลายื่นนามบัตร บางคนใช้วิธีเลี่ยงในลักษณะต่าง ๆ

"เพิ่งหมดไปเมื่อกี้เองค่ะ" หลายคนคงเคยใช้มุกนี้


เรากำลังเอาวัตถุมาเป็นตัวกำหนดตัวตนที่แท้จริงของเรา ถ้าดูจากพี่ยุ่น

"เอาตัวตนที่เป็น มาแสดงอย่างภาคภูมิใจด้วยนามบัตร"

ดังนั้น ข้อความจึงไม่สำคัญเท่ากับการกระทำ

::::::::::::::::::


ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นซูเปอร์แมน ตัวเป็น ๆ มาแล้วครับ ด้วยตาของตัวเอง ไม่ใช่จากจอภาพยนตร์ ผมเห็นมาจากนามบัตรของคน ๆ หนึ่ง ต้องบอกว่าเห็น เพราะเขาไม่ได้ให้ผม ถึงขอเขาก็คงไม่ให้

ผมแอบไปเห็นที่ร้านทำนามบัตร เห็นครั้งแรกแบบผ่าน จนต้องย้อนกลับมาดูรายละเอียดอีกครั้ง แบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง


ชื่อ ............................................ (Superman)

ผู้เชี่ยวชาญด้าน การตลาด เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ศิลปะ สิ่งแวดล้อม ขายตรง วัฒนธรรม กีฬา เกษตร คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ฯลฯ


ที่ ฯลฯ เพราะผมจำได้ไม่หมดจริง ๆ มันยาวมาก พิมพ์ตัวเล็ก ๆ ยาวขนาด 3 บรรทัด ส่วนที่จำได้แม่น คือ เมื่อหมดบรรทัดสุดท้ายแล้ว สุดท้ายเขาก็ตามด้วย ฯลฯ อีกครั้ง

....ไม่ใช่ซูเปอร์แมนแล้วไม่รู้จะเรียกว่าอะไร!!


ความจริงผมก็ลืมไป เราน่าจะติดต่อคนนี้ ให้รับงานสำคัญระดับประเทศงานหนึ่ง เพราะคนนี้แหละที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็น

นายกฯ คนต่อไป

::::::::::::::::::


มีข้อน่าสังเกตที่คนส่วนใหญ่ มักให้ความสำคัญกับเปลือกภายนอกมากกว่าการกระทำ พฤติกรรมและความคิดที่มีอยู่ข้างใน หลายคนพยายามทุกทางที่จะทำให้เปลือกภายนอกดูดีที่สุด ทั้งการแต่งกาย เครื่องประดับ รถยนต์ รวมถึงการพูดจา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าทำให้ตัวคุณดูดีขึ้นมาได้ แต่มันก็ดีเฉพาะภาพภายนอกเท่านั้น ถ้าภายในของคุณมันตรงข้ามกับสิ่งที่คุณพูด

ไม่ต่างอะไรกับขนมที่ Packaging สวยหรู น่าทาน เห็นแล้วน้ำลายไหล แต่พอเริ่มทาน รับรู้รสชาติที่ขมขื่นข้างใน ภาพภายนอกที่สวยหรูก็แทบจะลืมไปทันที และไม่สนใจมันอีกต่อไป


ความสวยงาม คุณค่าที่แท้จริงจากภายในต่างหากที่ทำให้คนมีความแตกต่างและโดดเด่น และที่สำคัญ ทำให้คนมีเสน่ห์ น่าดึงดูด

ด้วยความคิดที่ดี มองโลกที่ดี และที่สำคัญ มองคนอื่นด้วยใจเป็นธรรม

::::::::::::::::::


มีอยู่ครั้งหนึ่ง...ผมให้การอบรมพนักงานบริการ ผมถามเขาว่า ให้เขาลองสมมติว่า ถ้ามีลูกค้ามาขอยกเลิกใช้บริการ ให้เขาหาเหตุผลที่จะบอกลูกค้าไม่ให้ยกเลิกบริการ

แต่ละคนหาได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหน้ากระดาษ

แต่พอบอกว่า ให้เขาลองเป็นลูกค้า แล้วบอกเหตุผลที่ต้องยกเลิกการใช้บริการ ผลปรากฎว่า เขากลับคิดกันไม่ค่อยออก หาได้กันคนละข้อสองข้อ

และที่ร้ายกว่า ! กลับมีคนหลายคนคิดว่า มันไม่มีเนี่ยสิ

เราเคยไหมที่จะลองคิดในอีกมุมหนึ่งของคนอื่นว่า เขาคิดอย่างไร เขาทำอย่างนั้นเพราะเหตุผลอะไร เราได้ใช้หัวใจในการมองแล้วตัดสินคนอื่นหรือเปล่า

หรือใช้แค่เพียงอารมณ์ในการตัดสิน

นั่นแหละคือ ที่มาของการมองคนอื่นด้วยใจที่เป็นธรรม และเป็นจุดเริ่มต้นของการมองคนในแง่ดี แล้วจะทำให้วัตถุที่เคลือบอยู่ภายนอกของคุณหลุดออกมา

เพราะคุณไม่จำเป็นอีกแล้วที่ต้องใช้มัน


ความคิดของคุณจะทำให้พฤติกรรมของคุณมีความน่าเชื่อถือเกียรติของคุณจะเกิดขึ้นจากการยอมรับและนับถือจากผู้อื่นไม่ใช่จากนามบัตรโก้หรู

"ถึงตอนนั้น ข้อความบนนามบัตรของคุณอาจมีเพียงแค่ชื่อของคุณเองเท่านั้น ส่วนเกียรติของคุณมันเป็นวิญญาณที่อยู่ในนามบัตรของคุณทุกใบแล้ว

::::::::::::::::::::


Credit : หนังสือ "The Life ชีวิตง่าย ๆ สบายดี" เขียนโดย "คม สุวรรณพิมล"
............................................................................................................

..............................................................................................................................


ยอดวิว (สำหรับยูทูป) หรือยอดผู้เข้าชม (สำหรับเฟสบุ๊ค) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกความนิยมต่อโพสนั้นๆ ครับ
ซึ่งสำหรับบางคน ตัวเลขนี้สามารถใช้อ้างอิงในการหาเงินได้ด้วย

มุกนี้แสดงให้เห็นว่าการเซฟและโพสใหม่จะเกิดผลดีผลเสียอะไรบ้าง ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์

สรุปได้ว่า ถ้าไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว จ้องแต่เจะอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน...
ถ้าแชร์ได้ก็กดแชร์แบ่งยอดวิวกันเถอะครับ จะได้ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย *w*
...................................................................................................................



Hungry Diary w/ Custard & Brownie

ลองซักหน่อย:ลึกๆก็คิดงั้นอะดิ(ภาคจบ)
......................................................................................................................

ชอบทั้งรูปและคำพูดประกอบ ^_^


"เวลาที่เห็น"นก"เกาะอยู่บนเสาไม้ตัวเดียว
เราเองไปคิดแทนมันว่า"มันคงเหงา"
แท้ที่จริงแล้ว"นก"อาจกำลังมีความสุขอยู่ก็ได้"

...เรื่องของความรู้สึก....อย่าคิดนึกแทนใคร...
.............................................................................................................................



รถสกู๊ตเตอร์โดยสาร

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยางของสิงคโปร์ ได้ออกแบบรถสกู๊ตเตอร์โดยสารไฟฟ้าขึ้นมา มีความคล่องแคล่วแบบรถสกู๊ตเตอร์ แต่มีห้องผู้โดยสารที่แข็งแรง ป้องกันอันตรายได้แบบรถยนต์ ขณะนี้กำลังหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้น ก่อนที่จะผลิตออกมาจำหน่าย (โลกาภิวัตน์, ไทยรัฐออนไลน์, 31-05-56)
..........................................................................................................................

คือว่า...มีคำอธิบายชัดเจนทุกอัน!


นี่มันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ชัดๆ

  • Ice Nachai นี้มันสำหรับนักการเมืองยุคนี่เลย แบบนี้น่าจะถูกกว่า

  • Supapong Wanitpongpan อยากบอกว่าทุกยุคเลยล่ะ ของไทยนะ 

  • Ice Nachai ยัง ยุคอนาคตอาจมีหวัง55

  • Thinnakorn Tankaya ประชาธิปัตย์='งักปุกคุ้ง

  • Supapong Wanitpongpan เห็นด้วยครับ
    แต่ผมว่าเพื่อไทยก็พอๆกับยิ่มอั้วเกี่ยนะ 

  • Ice Nachai นึกว่าเป็นตงฟางปุกป่าย^^

  • Supapong Wanitpongpan ความแตกต่างอย่างแรกคือ ตงฟางขึ้นมาแบบไม่ชอบธรรมครับ เปรียบเทียบก็คือรัฐประหารขึ้นมาครองอำนาจ ในขณะที่ยิ่มอั้วเีกี้ยขึ้นมาอย่างชอบธรรม
................................................................................................................


Did you know that body language is more than 93% of our communication? How to Read Body Language:http://positivefoodie.com/how-to-read-body-language/
...............................................................................................................



ลูกโป่งกับน้ำ ผมว่าก็ศิลปนะ 
..............................................................................................................


"ที่จริงแล้ว เมื่อไหร่ที่คนกล่าวขานกันว่า หุ้นตัวนั้นตัวนี้ จะเป็นตัวต่อไปของอะไร มันมักจะเป็นเครื่องหมายของการสิ้นสุดความรุ่งเรือง ไม่ใช่เฉพาะสำหรับบริษัทที่่เลียนแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทต้นแบบอีกด้วย"
- ปีเตอร์ ลินซ์ -

"In fact, when people tout a stock as the next of something, it often marks the end of prosperity not only for the imitator but also for the original to which it is being compared."
- Peter Lynch -
........................................................................................................................

...........................................................................................................................

ล้วงเคล็ดลับศูนย์ DC เซเว่นฯ ส่งด่วน 7 พันสาขาได้ใน 24 ชม.
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000064396
..........................................................................................................................



ขอกินบ้างดี้!!
............................................................................................................................



That's easy.
..........................................................................................................................


ฝัน..ที่ไม่ต้องรอ

ทุกๆคนมี “ความหวัง” ทุกๆความหวังมากจาก “ความฝัน” ดังนั้นแล้ว เรามาทำความฝันให้เป็น “ความจริง” กันดีกว่า...

ผมเชื่อว่าคนที่ทำอะไรสักอย่างโดยมีพื้นฐาน เริ่มต้นมาจากความฝันและความหวังของตนเองแล้ว เมื่อได้เริ่มลงมือทำมันจริงๆแล้ว ย่อมจะทำได้ดีกว่าคนทั่วไปครับ

เพราะอะไร...เพราะเค้าได้มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เค้า “ฝัน” ให้กลายเป็น “จริง” ยังไงหล่ะครับ
ในทางกลับกัน... เมื่อมีขาวย่อมมีดำฉันใด เมื่อมีคนทำสิ่งที่หวังได้ ก็ย่อมต้องมีคนที่ทำไม่ได้ฉันนั้น

หากคุณคือคนกลุ่มนี้ คือคนที่ได้พยายามทำแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็จงอย่าได้ย่อท้อครับ เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้ “พยายาม” และ “ลองทำ” ไปแล้ว

แต่หากว่า!! คุณเป็นกลุ่มคนที่ได้แต่หวัง ได้แต่ฝัน แต่..ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้คิดแม้แต่จะเริ่มเลยเนี่ย...ชาตินี้ ชาติหน้า หรืออีกสิบชาติ...

..คุณก็จะไม่มีวันที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนครับ..
เชื่อผมซิว่า…มันคือความจริง..

โอเคว่า..คุณอาจจะพอมีพอกิน มีงานการทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่เดือดร้อนใดๆ แต่ถามว่าสิ่งที่คุณกำลังทำหรือคิดจะทำอยู่นั้น มันคือ สิ่งที่คุณ “ฝัน” และ “หวัง” ไว้หรือไม่

ถ้าใช่...คุณคือคนที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้ทำในสิ่งที่คุณฝันเอาไว้ (ทำได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง)
ถ้าไม่…ผมก็อยากจะแนะนำและเชียร์ให้คุณได้ลองทำในสิ่งที่คุณเคย “ฝัน” เอาไว้

เพราะสำหรับผมแล้ว การที่เราได้เกิดมาครั้งนึง ก็ควรจะได้ลองทำในสิ่งที่ตั้งใจและฝันเอาไว้ เพื่อที่ว่าอย่างน้อย เราก็จะไม่ต้องมานั่งเซ็งและมาคิดเสียดายเมื่อสาย..ว่า “ทำไมเมื่อก่อน เราไม่ลองทำมันดู เผื่อมันจะดีก็ได้”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่ (ก็รุ่นเดียวกับผมแหล่ะ แหะแหะ) คุณยังมีโอกาสให้ลองผิดลองถูกได้ ภาระความรับผิดชอบของคุณก็ยังน้อยนักเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ที่มีครอบครัว หรือมีภาระต่างๆที่ต้องรับผิดชอบ จนมิอาจได้ลองทำในสิ่งที่เขาได้ฝันเอาไว้

แล้วจะมัวลังเลหรือทำไมครับ...ทำในสิ่งที่คุณ “ฝัน” ดูสักครั้ง อย่าปล่อยให้มันเป็นแค่ “ฝันลมๆแล้ง” “ฝันกลางวัน” หรือ “ฝันเปียก” อีกเลยครับ...ผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไรก็อย่าได้ไปแคร์ครับ คุณได้ลงมือทำไปแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ “ฝีมือ” และ “โชคชะตา” แล้วกันครับ หุหุ

...แล้วความฝันของนักลงทุนและเทรดเดอร์ในตลาดหุ้นหล่ะ คืออะไร?..
เชื่อแน่ว่า ความใฝ่ฝันและความตั้งใจอันดับต้นๆ ของนักลงทุนทุกๆคน ไม่ว่าจะรายเก่า รายใหม่ หรือคนที่กำลังจะเข้ามาผจญภัยในตลาดหุ้น ก็คือ “อยากรวย”

ผมเองก็เป็น...แน่นอนครับ ไม่มีใครอยากจะเข้ามา เพราะ “อยากจน” หรอกครับ ฮ๋าๆ
แทบจะทุกคน ย่อมฝันที่อยากจะรวยแบบ วอเรนน์ บัฟเฟตต์, จอร์จ โซรอส, ดร.นิเวศน์ หรือเซียนหุ้นหลายๆท่าน ซึ่งบางคนอาจจะทำได้ บางคนก็อาจจะแค่ได้ทำ แต่ทำไม่ได้ ก็แล้วแต่ความสามารถครับ

ที่ผมอยากจะบอกคือ เมื่อคุณฝันที่จะทำให้ได้ อยากจะรวยในตลาดหุ้นให้ได้..
คุณห้ามหวัง คุณห้ามฝัน แล้วคุณไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย!!

ที่ผมอยากเชียร์ให้ทำก็คือ คุณควรรีบทำฝันของคุณให้เป็นจริง หรือใกล้เคียงสิ่งที่คุณฝันไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาตลาดหุ้นอย่างจริงจัง การทุ่มเทให้กับมันทั้งแรงกายและแรงใจ โอเคว่า..โลกแห่งความจริง มันอาจจะไม่สวยหรูและไม่ใช่ถนนอันราบเรียบให้คุณผ่านไปได้อย่างง่ายดาย เหมือนเช่นที่คุณฝันเอาไว้

แต่....

“สิ่งใดที่ได้มาโดยง่าย ย่อมไร้ค่าในท้ายสุด
สิ่งใดที่ได้มาด้วยความยากลำบาก สิ่งนั้นแหล่ะคือสิ่งที่มีค่าที่สุด”

คุณอาจจะใช้เวลาศึกษาการลงทุน แล้วลงสนามจริง อาจจะเจ๊ง อาจจะกำไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่คุณเชี่ยวชาญแล้ว.....คุณคือผู้ชนะ!

ไม่จำเป็นต้องรวยเป็นอัครอภิมหาเศรษฐีก็ได้ครับ เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้เอาชนะความฝันของคุณเรียบร้อยแล้ว

เพราะ...คุณได้ทำความฝันของคุณแล้ว...

มีคำกล่าวโดย สุดยอดจิตรกรระดับตำนานของโลกนาม ลีโอนาร์โด ดาวินชี ที่ว่า

“He who wishes to be rich in a day will be hanged in a year”

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับว่า

“ผู้ที่หวังจะรวยภายในวันเดียว ย่อมจะได้แค่หวังอยู่อย่างนั้นตลอดไป”

ผมเองก็กำลังทำตามสิ่งที่ผมได้ฝันและได้หวังเอาไว้ มีละขั้นตอนตามที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการได้มาทำงานในสายตลาดหลักทรัพย์ ได้มาเป็นเทรดเดอร์สมดั่งที่ตั้งใจไว้ และได้มีโอกาสแชร์ประสบการณ์ ในฐานะของการเป็น “ผู้ให้” และอีกหลายๆอย่างที่กำลังจะตามมา ถึงแม้จะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร ผมก็ไม่เสียใจครับ เพราะผมได้ทำมันแล้ว...

แล้วคุณหล่ะ…ได้ลองทำตาม “ความฝัน” ของคุณแล้วหรือยัง?

ถามใจตัวเองดูน่ะครับ...^____^

พีร์ บุญชนะวิวัฒน์ (Wizard Kid)
......................................................................................................................



การพบกันครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน
แอดมินขออุทิศภาพนี้แด่สาวกไททันผู้รอคอยตอน 9
และสาวติ่งผู้รอแซ่บท่าน รีไวล์ ทุกคน

ภาพนี้ได้รับอนุญาตจากเพจ ide-mictzz แล้วนะจ๊ะ
 
............................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น