วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

09/02/2556

ประเด็นที่ 4 ในกระบี่เย้ยยุทธจักร

เหล่าจอมยุทธสำนักต่างๆ เดินทางไปที่คฤหาสน์ตระกูลเล้า เมื่อร่วมพิธีล้างมือในอ่างทองคำของเล้าเจี่ยฮวง 

ที่นอกประตูพลันบังเกิดเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น 2 นัด จากนั้นเสียงมโหรีม้าล่อดังขึ้น แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองใดมาถึง เหล่านักสูงงงงันวูบ เห็นเล้าเจี่ยฮวงสวมชุดใหม่เอี่ยมลออรีบรุดออกจากตึกในอย่างเร่งร้อน

เหล่านักสู้กล่าวแสดงความยินดี เล้าเจี่ยฮวงประสานมือคราหนึ่งเดินออกจากประตู ชั่วครู่ให้หลังชักนำเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบเต็มยศผู้หนึ่งเข้ามา

งักปุกคุ้งและพวกทราบว่า เล้าเจี่ยฮวงเป็นเศรษฐีเมืองฮ่วงซัวปกติคบหาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง วันนี้เป็นวันมงคลของเขา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาแสดงความยินดี ไม่มีใดน่าประหลาด

เห็นเจ้าหน้าที่นั้นเดินตรงเข้ามาหยุดยืนที่กลางห้อง พนักงานกรมเมืองที่ติดตามมาคุกเข่าขวาลง เทิดสองมือขึ้นเหนือศีรษะ เสนอถาดที่ปูแพรเหลืองใบหนึ่ง บนถาดจัดวางม้วนแพรใบหนึ่ง เจ้าหน้าที่นั้นน้อมกายรับม้วนแพรมากล่าวเสียงกังวาน
"มีราชโองการ เล้าเจี่ยฮวงรับราชโองการ"

เหล่านักสู้ใจหายวาบ เล้าเจี่ยฮวงทำพิธีอ่างทองล้างมือแขวนกระบี่ซ่อนตัวเป็นเืรื่องราวในยุทธจักร มีส่วนเำีกี่ยวข้องใดกับบ้านเมืองฮ่องเต้ ไฉนทรงมีราชโองการมาหรือเล้าเจี่ยฮวงวางแผนก่อการกบฏ ถูกทางการสืบทราบเข้า นั่นนับเป็นโทษตัดศีรษะ 9 ชั่วโคตร ดังนั้นผุดลุกขึ้นยืน บ้างถึงกับเลื่อนมือแตะอาวุธแล้

ิมิคาด เล้าเจี่ยฮวงรักษาความเยือกเย็นดุจเดิม งอเข่าทั้งสองคุกลง โขกศีรษะต่อเจ้าหน้าที่นั้น 3 ครั้ง กล่าวเสียงกังวาน
"ข้าพระพุทธเจ้าเล้าเจี่ยฮวงรับราชโองการ ของพระองค์ทรงมีพระชนมายุหมื่นปี หมื่นๆปี"

เจ้าหน้าที่นั้นคลี่ม้วนแพรออก อ่านว่า
"มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ด้วยข้าหลวงมณฑลโอ้วน้ำกราบทูลว่า ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเมื่องฮ่วงซัวเล้าเจี่ยฮวง บำเพ็ญประโยชน์ช่วยราชการบ้านเมือง ควรแก่การใช้สอย ทรงแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางทหาร รับใช้แก่ชาติบ้านเมืองอย่าได้เป็นที่ผิดหวังของข้าฯ"

เล้าเจี่ยฮวงโขกศีรษะอีกครา กล่าวว่า
"ข้าพระพุทธเจ้าเล้าเจี่ยฮวงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอพระองค์ทรงมีพระชนมายุหมื่นปี หมื่นๆปี"
พลางผุดลุกขึ้น น้อมกายกล่าวกับเจ้าหน้าที่นั้นว่า
"ขอบคุณเตี่ยตั่วนั้งสนับสนุน"

เจ้าหน้าที่นั้นยกมือลูบเครา กล่าวว่า
"ยินดีด้วย ที่ปรึกษาเล้า นับแต่นี้พวกเราเป็นข้าในพระองค์เดียวกัน ไยต้องเกรงอกเกรงใจ"

เล้าเจี่ยฮวงยังกล่าวขอบคุณท่านมหาเสนาบดี ท่านข้าหลวงและเตี่ยตั่วนั้งที่สนับสนุน พร้อมกับสั่งเสมียนมองห่อผ้าแพรที่จัดเตรียมไว้ให้กับเตี่ยตั่วนั้งนั้น ของในห่อผ้าแพรหากมิใช่เป็นเงินขาว ก็ต้องเป็นทองคำแล้ว

....................................................................











                                                      "เก็บไว้เตือนตัวเอง"







สำหรับพวกบ้าปีชง...ไรนิดหน่อยก็โยนให้เป็นเรื่องของดวง..บางเรื่องก็เกิดจากความประมาทชัดๆ มันป้องกันได้ ชงเชิงอะไนไม่มีจริงหรอก การตลาดของหมอดูทั้งนั้น อ่ะ นี่...ก็อปปี้มาจากฟักโกส เครดิตคุณบี...แนวเดียวกัน..ถึงอาจจะออกแนวๆหน่อยก็เหอะ..////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
.เมื่อคนเรายังถือเรื่องวัน เรื่องคืน เรื่องเดือน เรื่องปีกันอยู่มาก แม้ว่าเราจะไม่ถือ ก็ต้องพลอยถือกันไปกับเขา เพื่อให้มีโอกาสพูดจากับเขา เพื่อมีโอกาสชักจูงเขาให้ทำอะไรให้ดีเป็นพิเศษในวันนั้น ในเวลานั้น หรือในคราวนั้น เพราะว่า เรายังต้องอยู่ร่วมกัน ยังต้องเกี่ยวข้องกัน

จนพูดได้ว่าเมื่ออยู่กับคนโง่ ก็ต้องพลอยทำเป็นคนโง่ไปด้วย มันจึงจะไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไร ลองไปทำเป็นคนฉลาดอยู่กับคนโง่ เดี๋ยวเดียวมันก็เกิดเรื่อง ฉะนั้นเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องยึดมั่นถื่อมั่น เรื่องเวลา เรื่องฤกษ์เรื่องยาม เรื่องอะไรเหล่านี้ มันก็มีปัญหาขึ้นมา

แม้เราไม่ยึดมั่นถือมั่น ก็ต้องพลอยทำไปอย่างกับคนยึดมั่นถือมั่น เหมือนกับคำสุภาษิตที่ว่า อยู่กับคนตาเหล่ ก็ต้องเหล่ตาตามไปด้วย เพื่อให้มันไม่มีเรื่องเท่านั้นเอง

ผู้ที่ฉลาดถึงขนาดไม่ยึดมั่น ก็ยังจะต้องฉลาดต่อไปถึงข้อที่ว่าฉลาดทำ เป็นการยึดมั่นถือมั่นในบางโอกาส สำหรับจะเข้ากันได้กับคนที่ยึดมั่นถือมั่น แล้วสอนเขาให้ทำอะไรให้มันดีขึ้นๆ จนพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น

ธรรมะเล่มเล็กจากสวนโมกข์ โลกนี้มีแต่คนบ้า ๒๘-๒๙
หลองพ่อพุทธทาส อินทปัญโญ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น