วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10/02/2556

ประเด็นที่ 5 ในกระบี่เย้ยยุทธจักร

หลังเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกลับไป เล้าเจี่ยฮวงก็เริ่มทำพิธีล้างมือในอ่างทองคำ ปรากฏว่ามีเสียงห้ามไม่ให้เล้าเจี่ยฮวงทำพิธี พร้อมกับชายเสื้อเหลือง 4 คนเข้าประตูมา จากนั้นชายเสื้อเหลืองอีกคนหนึ่งพร้อมกับยกธงประกาศิตประมุข 5 สำนักกระบี่ขึ้นเทิดทูน ก็เข้ามาในคฤหาสน์ ทั้งหมดเป็นคนของสำันักซงซัว

เล้าเจี่ยฮวงหน้าเคร่งขรึมจริงจังกล่าวว่า 
"ครั้งกระโน้นห้าสำนักกระบี่เรารวมเป็นสหพันธ์ ทำความตกลงว่าจะร่วมรุกร่วมถอย ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรมบู๊ลิ้ม หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสำนักทั้ง 5 ทั้งหมดต้องรับฟังคำสั่งเม่งจู้ ธงประกาศิตห้าสีนี้จัดสร้างโดยสำนักทั้ง 5 พบธงประกาศิตเท่ากับเม่งจู้ แต่พิธีอ่างทองล้างมือของเราในวันนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของเราผู้แซ่เล้า ทั้งไม่ขัดกับคุณธรรมบู๊ลิ้ม และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้าสำนักกระบี่ ย่อมไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของธงประกาศิต ขอให้จ้อซือเฮียให้อภัยด้วย" 
พลางเดินไปยังอ่างทอง

ซือเต็งตั๊ก ฉายาสนพันวา ผู้ถือธงประกาศิต ขยับขวางหน้าอ่างทองพร้อมชูธงสูง ยืนกรานให้ระงับพิธีล้างมือในอ่างทอง เตี่ยอิดซือไถ่จึงเสนอหน้าออกไกล่เกลี่ย เล้าเจี่ยฮวงค่อยกล่าวว่า 
"เตี่ยอิดซือไถ่เมื่อกล่าวเช่นนี้ เรื่องอ่างทองล้างมือของเรา ขอเลื่อนไปเป็นเที่ยงวันพรุ่งนี้ สหายทุกท่านอย่าเพิ่งไป โปรดพักที่ฮ่วงซัวอีกวันหนึ่ง ให้เราถามไถ่หลานสำนักซงซัวทั้งหลายโดยละเอียด"

แต่มีเสียงโต้เถียงกันดังจากตึกหลัง และเสียงบุรุษพูดว่า
"เล้าโกวเนี้ย โปรดรออยู่ที่นี้สักครู่"
เล้าเจี่ยฮวงยิ่งฟังยิ่งมีโทสะ ไม่ทราบเป็นผู้ใดกระทำสามหาวในบ้านตนเองกลับกล้าล่วงเกินแชยี้ บี้อุ้ยหงีศิษย์ของเล้าเจี่ยฮวงรีบรุดไปตึกหลังพบชายชุดเหลืองผู้หนึ่ง กางแขนขวางหน้าเล้าแชกับเค็กฮุยอิงไว้

บี้อุ้ยหงีพอเห็นอาภรณ์ฺการแต่งกายของคนผู้นี้ จดจำออกว่าเป็นศิษย์สำนักซงซัวอดมิโทสะมิได้ ส่งเสียงกระแอมกล่าวว่า
"ซือเฮียท่านเป็นศิษย์สำนักซงซัวกระมัง ไยไม่ไปนั่งที่ห้องโถง?"

คนผู้นั้นกล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโสว่า
"ไม่ต้องแล้ว เราได้รับคำสั่งเม่งจู้ ให้เฝ้าดูคนในครอบครัวตระกูลเล้า อย่าได้ปล่อยให้ผู้ใดหนีรอดไป"

เล้าเจี่ยฮวงรับฟังจนเดือดดาลเป็นการใหญ่ ขุ่นแค้นจนร่างสั่นระริกเล็กน้อย กล่าวเสียงกังวาน
"สำนักซงซัวส่งศิษย์มามากน้อยเท่าใด ทั้งหมดล้วนปรากฏกายเถอะ"

เพิ่งขาดคำ บนหลังคาห้อง นอกประตูใหญ่ มุมห้องโถง ลานตึกหลัง ปรากฏผู้คนหลายสิบคนรับคำว่า 
"ทราบแล้ว ศิษย์สำนักซงซัวคำนับเล้าซือเจ่ก"

เตี่ยอิดซือไถ่ไม่อาจสะกดกลั้นใจได้เป็นบุคคลแรก ร้องว่า
"นี่หมายความอย่างไร ออกจะคุกคามคนไปแล้ว"

ซือเต็งตั๊กกล่าวว่า
"เตี่ยอิดซือแป๊ะโปรดให้อภัย ซือแป๋เรามีคำสั่ง ไม่ว่าอย่างไร ต้องห้ามปรามไม่ให้เล้าซือเจ่กล้างมือในอ่างทอง ด้วยเกรงว่าเล้าซือเจ่กไม่ยอมรับคำสั่ง ได้แต่ล่วงเกินแล้ว"

ยามนั้นตึกหลังปรากฏผู้คนอีกสิบกว่าคนเดินออกมา กลับเป็นฮูหยินเล้าเจี่ยฮวง บุตรชายเยาว์วัยทั้งสอง และศิษย์ตระกูลเล้าอีก 7 คน ทุกผู้คนล้วนมีศิษย์สำนักซงซัวผู้หนึ่งถือมีดสั้นจ่อกับกลางหลัง

เล้าเี่จี่ยฮวงกล่าวเสียงกังวาน
"สหายทุกท่าน มิใช่ผู้แซ่เล้าดื้อดึงยืนกราน แต่จ้อซือเฮียข่มขู่คุกคามเช่นนี้ ผู้แซ่เล้าหากยอมสยบ จะแบกหน้าพบพานคนได้อย่างไร จ้อซือเฮียห้ามไม่ให้ผู้แซ่เล้าล้างมือในอ่างทอง ผู้แซ่เล้ายอมให้ศีรษะถูกปลิดปลง ไม่ยอมก้มหัวให้"
พลางสืบเท้าไปก้าวหนึ่ง ยื่นสองมือไปในอ่างทอง 

ซือเต็งตั๊กร้องคำ "ช้าก่อน" แล้วโบกธงประกาศิตขวางหน้า
จึงประมือกับเล้าเจี่ยฮวง ด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ทำให้ซือเต็งตั๊กต้องถอยออกไป ศิษย์สำนักซงซัวที่ยืนหลังบุตรชายเล้าเจี่ยฮวงร้องว่า 
"เล้าซือเจ่ก ท่านหากไม่หยุดมือ เราจะฆ่ากงจื้อท่านแล้ว"

เล้าเจี่ยฮวงเหลียวหน้าไป มองดูบุตรชายแวบหนึ่ง กล่าวเสียงเย็นชา
"นักสู้ทั้งแผ่นดินอยู่ที่นี้ เจ้ากล้าแตะต้องบุตรชายเราแม้สักขุมขนหนึ่ง ศิษย์สำนักซงซัวทั้งหลายสิบคนต้องถูกสับร่างแหลกเละ"
แล้วหันกายยืนมือไปยังอ่างทองอีกครา เห็นแน่ชัดว่าครั้งนี้ไม่มีผู้ใดขวางได้ ทันใดประกายสีเงินวูบขึ้น อาวุุธลับเล็กละเอียดชิ้นหนึ่งแหวกอากาศมาถึง เล้าเจี่ยฮวงถอยไป 2 ก้าว ได้ยินเสียงติงเบาๆ อาวุธลับนั้นต้องขอบอ่างร่วงสู่พื้น เงาสีเหลืองกระโดดจากหลังคา เหยียบใส่ก้นอ่างบี้แบน 

เล้าเจี่ยฮวงจดจำออกว่า คนผู้นี้เป็นสี่ซือตี๋ของเจ้าสำนักซงซัวจ้อแนเซี้ยง เรียกว่าฮุยปิง มีฉายา มือสุริยัน อ่างทองเมื่อถูกมันเหยียบบี้แบน ก็ไม่อาจทำพิธีล้างมือในอ่างทองได้ มีแต่ต่อสู้สักครา หวนนึกถึงสำนักซงซัวแม้เป็นผู้ถือธงประกาศิตของห้าสำนักกระบี่ แต่คุกคามคนปานนี้ นักสู้ผู้กล้านับพันในที่นี้ ล้วนไม่เสนอหน้าออกมากล่าววาจายุติธรรมสักคำ
...............................................................


ความทรงจำ ของอังเปา อาจเพราะความยิ่งใหญ่และ เรืองอำนาจจนผู้คนไม่อาจต่อกรได่หรือขวางทางก็รังแต่จะทำให้ลำบาก ดังเช่นสมัยนี้คนตีกันก็ยังยากที่จะหาคนสอดแทรกห้ามปราม

Supapong Wanitpongpan The world is a dangerous place to live; not because of the people who are evil, but because of the people who don't do anything about it.

~Albert Einstein~










สำหรับผู้ปกครองวันนี้ .................
ผมเชื่อว่าสิ่งที่เราหวังคือ ลูกของเรา
จะ มีงานที่มั่นคง
มีความสุข และเป็นคนดี
ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้มาจากการ ท่องจำ และกวดวิชา 
เพื่อแข่งขันกันทำเกรด 
ความมั่นคง ในอนาคต มาจาก
การที่เขาได้เรียนสิ่งที่ชอบ
ได้ทำงานที่เขารักและถนัด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น