วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

22/02/2556




สลิ่มศรี : นี่เธอรู้ข่าวมั๊ย อีเด็ก ม.รังสิต ที่มันรับปริญญาแล้วทำมือ I love you. เกลียดมันมากว่ะ ไม่เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีเลย
คนธรรมดา : เฮ้ย บ้าป่าว ศักดิ์สิทธิ์ บ้าบออะไร พิธีแบบนี้เราก็รับมาจากตะวันตกนะ ไม่เห็นเค้าจะทำให้มันศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน
สลิ่มศรี : แต่การทำแบบนี้มันเท่ากับทำลายระเบียบสังคมนะ บัณฑิตแบบนี้มีเยอะๆ บ้านเมืองถึงไม่เจริญ ฉิบหาย
คนธรรมดา : ก็เห็น Harvard ใส่รองเท้าแตะไปรับปริญญากัน มหาลัยในยุโรป ออสเตรเลียก็ทำแบบนี้หลายที่ ในญี่ปุ่นยิ่งหนักใส่ cosplay การ์ตูนแปลกๆไปรับปริญญายังได้ ไม่เห็นประเทศพวกนี้จะไม่เจริญ หรือฉิบหายตรงไหน
สลิ่มศรี : งั้นงานศพพ่อเมิงก็ใส่ชุดสีแดง ส้ม ชมพู ไปดิ
คนธรรมดา : โอ้ยยยยย อิ ตรรกะอักเสบ แยกแยะออกมั๊ย ว่าแต่ละงานมีจุดประสงค์ไม่เหมือนกัน งานรับปริญญาของเกือบทุกประเทศบนโลกจริงๆ เค้ามีไว้เพื่อให้บัณฑิตได้ภาคภูมิใจ และแสดงความเป็นตัวของตัวเอง เป็นวันของเค้า แต่งานศพ จุดประสงค์คือ แสดงความเสียใจ
สลิ่มศรี : แต่ประเทศไทยไม่เหมือนที่ใดในโลกนะ
คนธรรมดา : เมิงย้ายออกนอกโลกไปเหอะ แสรด

....................................................................................................



...................................................................................................................


Supapong Wanitpongpan มีคนพูดถึงเรื่องกฎแห่งกรรม โน่น นี่ นั่น 

สุดท้าย มีคุณ Chae Ho Shin เข้ามาถาม (น่าจะต่างชาติ)
คนไทยก็ใจดีอธิบายว่าเป็นกฎแห่งกรรม ( Law of Karma)

จนสุดท้าย...

@Chae Ho Shin 

Well... I almost got franked out before I found original photo of that fish. Look at this. (http://www.ismycv.com.ph/resources/jobs/agricultural-and-farming/aquaculture-farmer.aspx) So this is what you call "Law of Karma"? FXXX off.


Chakkapong Chamroon กะเรื่องหญิงสาวชาวพม่าถีบแม่ขณะไหว้พระอีกเรื่อง ... ไม่ไหวจะเคลียร์ครับ

Phongsakorn Thavornan เพลีย

Pipat Posawad แฉแบบนี้ก็วงแตกสิครับ 555

...........................................................................................................




เรื่องของขยะ

ผมคิดว่า คุณคงเคยได้ยินเรื่องราวของการกำจัดขยะมาหลายครั้ง และอาจจะบ่อยจนคุณคิดว่า ก็ไม่เห็นมีอะไร เรื่องกำจัดขยะ ง่ายนิดเดียว ถ้าจะให้หรูหน่อยก็เอามารีไซเคิลสิ จะได้อยู่ในกระแสรักษ์โลกเหมือนคนอื่นๆ เขา

ที่ผมจะพูดถึงวันนี้ ไม่ใช่ขยะธรรมดาครับ แต่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งในความหมายทั่วไป มันคือ เจ้าอุปกรณ์ไอทีที่ไม่ใช้กันแล้วอย่างพวกโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือครับ แต่ที่ผมจะเล่าในวันนี้ เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในรูปของแข็งจับต้องได้ขนาดโน้ตบุ๊กหรือโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นขยะในรูปของไฟล์ หรือแม้กระทั่งอยู่ในรูปของข้อมูล ซึ่งพวกเราไม่ได้ใช้ แต่ยังเก็บไว้คาเครื่องอยู่อย่างนั้นเคยคำนวณกันเล่นๆ ไหมครับว่า เรามีไฟล์ที่เก็บไว้ในเครื่องซึ่งไม่ได้ใช้เป็นปริมาณเท่าไร

ยกตัวอย่างการไปเที่ยวหนึ่งครั้ง เราอาจถ่ายรูปมาประมาณ 100 รูป แต่ละรูปมีขนาด 16 เมกะพิกเซล (กล้องหลายรุ่นมีความละเอียดสูงกว่านี้) ถ้าเก็บเป็น jpeg จะมีขนาดไฟล์ประมาณ 4 เมกะไบต์ (มากน้อยขึ้นกับรายละเอียดของภาพ) ซึ่งคุณไม่เคยคิดจะพิมพ์ภาพของคุณออกมาเป็นภาพขนาดใหญ่เลยเก็บไว้ดูใน ไอแพด เท่านั้น ความละเอียดสูงสุดของ ไอแพด ในปัจจุบัน คือ 2048x1536 ซึ่งถ้าเราจะเก็บภาพขนาดเท่านี้

จริงๆ รูปจะมีขนาดประมาณ 0.5 เมกะไบต์เท่านั้น ต่อการไปเที่ยวหนึ่งครั้ง เราจะใช้พื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์เท่ากับ 3.5 เมกะไบต์คูณ 100 รูป เท่ากับ 350 เมกะไบต์ ถ้าปีหนึ่งคุณไปเที่ยว 20 ครั้ง เท่ากับว่าคุณจะเสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ถึงประมาณ 7 กิกะไบต์ นี่ยังไม่นับรวมถึงรูปที่ถ่ายมาแล้ว เก็บไว้แบบนั้นโดยไม่เคยดูเลยอีกต่างหากครับ

จริงๆ แนวคิดแบบกรีนกับขยะหรือบิตที่ไม่มีประโยชน์เหล่านี้มีมานานพอควร พอๆ กับการพูดเรื่องรีไซเคิลอุปกรณ์ไอทีครับ ยกตัวอย่างงานอันหนึ่งของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ที่อธิบายรายละเอียดเรื่องแบบนี้ไว้ในงานของพวกเขาเมื่อสองปีที่แล้ว (http://goo.gl/R851f) โดยได้แบ่งสาเหตุของข้อมูลขยะเหล่านี้ไว้หลายประการ เช่น ไฟล์ที่เกิดจากการสร้างไฟล์อื่น ข้อมูลดิบที่ผ่านการประมวลผลไปเรียบร้อยแล้วและไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป ไฟล์ของซอฟต์แวร์รุ่นเก่าที่มีไฟล์รุ่นใหม่มาทับ ไฟล์ที่ไม่จำเป็นซึ่งเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้อะไร เป็นต้น

ในงานที่ผมยกมาเล่านี้ ยังได้เขียนโปรแกรมเพื่อหาว่าในระบบปฏิบัติการแต่ละชนิดนั้น มีไฟล์ที่ถูกแก้ไขแต่ไม่เคยได้ถูกอ่านเลยนับจากการแก้ไขครั้งล่าสุดเป็นจำนวนเท่าไร ผลเป็นดังนี้ครับ ในเครื่องแม็คบุ๊ก มีไฟล์จำนวน 20.6% ซึ่งไม่เคยถูกอ่านเลย คิดเป็นปริมาณเนื้อที่ 98.5% ของเนื้อที่เก็บไฟล์ทั้งหมด ในเครื่องลินุกซ์แบบเดสก์ท็อปมีไฟล์จำนวน 47.4% คิดเป็นปริมาณเนื้อที่เท่ากับ 38.1% ในขณะที่เครื่องแบบเซิร์ฟเวอร์มีไฟล์จำนวน 57.1% คิดเป็น 99.5% ของปริมาณเนื้อที่ที่ใช้ทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แม้จะไม่ได้หมายความว่า ไฟล์เหล่านี้เป็นขยะทั้งหมด แต่ตัวเลขเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นว่า ปริมาณข้อมูลที่เราเก็บรักษาไว้ แต่ไม่ได้นำมาใช้นั้น มีมากเพียงใด

ถ้าสนใจจะทำความสะอาดขยะในเครื่องของคุณเอง ก็ลองหาเครื่องมือจำพวก PC Cleaner มาลองใช้ดูนะครับ แต่การใช้เครื่องมือพวกนี้ ก็ต้องระมัดระวังพอสมควร เครื่องมือบางตัวอาจจะไปลบไฟล์ที่อาจจำเป็นต้องใช้อยู่เช่นกันครับ

“ถึงขยะในเครื่องของคุณไม่ได้ลอยไปตามน้ำแน่ๆ แต่มันอาจลอยเลยไปไกลถึงก้อนเมฆโน่น ยังไงก็ช่วยกันรักษ์โลกเสมือนพอๆ กับโลกจริงนะครับ”

สุกรี สินธุภิญโญ sukree.s@chula.ac.th
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
https://www.facebook.com/1001FanPage

คอลัมน์ 1001, เดลินิวส์ออนไลน์
วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556
http://www.dailynews.co.th/technology/186046


.........................................................................................................


...........................................................................................................















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น