จอห์น วิญญู Spokedark.tv มติชนสุดสัปดาห์ 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2556 หน้า 77
-------------------------- --------
คอร์รัปชั่นกับปัญหาของการ ‘คิดไปเอง’
คุณผู้อ่านที่รักครับ ช่วงนี้คนเรากำลังเห่อเรื่อ งการกำจัดคอร์รัปชั่นกันมาก ๆ เลยนะครับ ไปไหนมาไหนก็เห็นแต่ “โตไปไม่โกง” เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด มีชมรม สมาคม กลุ่มบุคคล คณะบุคคล ตั้งตัวขึ้นมา “ต่อสู้” กับการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่ างหลากหลาย แต่ละกลุ่มก็มีความสามารถใน การช่วงชิงพื้นที่สื่อต่างก ันไป
ใครจะออกสื่อเก่งไม่เก่งก็ต าม --- แต่เราก็รู้อ่ะแหละว่าการต่ อต้านคอร์รัปชั่นเป็น agenda ที่เสียงดังมาก
เรื่องน่าสนใจก็คือ อันที่จริงเรามีความเข้าใจธ รรมชาติของการคอร์รัปชั่นน้ อยมากนะครับ
ที่ผมพูดเช่นนี้ก็เพราะว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นนั้นเมื ่อไปถามแอ๊กติวิสต์ทางการต่ อต้านคอร์รัปชั่น ว่าคอร์รัปชั่นคืออะไร และใครเกี่ยวข้องกับคอร์รัป ชั่นบ้าง และรากเหง้าของการคอร์รัปชั ่นมาจากไหน เราจะได้คำตอบที่ค่อนข้างคล ุมเครือทีเดียว
ถ้ามาจากฝ่ายอุตสาหกรรมคำตอ บก็จะเอียงไปทางการต้องจ่าใ ต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ มีอำนาจควบคุมเรื่องในแวดวง อุตสาหกรรม
ถ้ามาจากพวกที่มาจากฝ่ายราช การก็จะพูดถึงการทุจริตของน ักการเมือง บ้างก็พูดถึงการฮั้วกันของฝ ่ายราชการและฝ่ายการเมือง
ถ้ามาจากฝ่ายธุรกิจ ก็มักจะได้คำตอบในรูปแบบทำน อง “ยุคนี้จะทำงานกับราชการต้อ งจ่ายเงินทองกี่เปอร์เซ็นต์ ๆ” ก็ว่ากันไป
แบบนี้ เป็นต้น
คำตอบทุกอย่างมักถูกแบ่งเป็ นส่วนๆ ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน
เจ้าของโรงงานต้องยัดเงินกี ่บาทให้ลูกได้เข้าโรงเรียนช ื่อดัง?
คนเป็นข้าราชการก็มีชีวิตนอ กงานราชการ มีชีวิตที่ต้องต่อเติมบ้าน หรือ มีคดีความในศาล
คนเป็นชาวบ้านก็มีพ่อแม่พี่ น้องเป็นข้าราชการ
คนเป็นชาวนาก็ต้องลงทะเบียน กับทางราชการว่าตัวเองมีนาก ี่ไร่ ผลิตข้าวได้กี่ถังเพื่อเข้า ร่วมโครงการอุดหนุนต่างๆ
มองไปแบบไม่ต้องลึกมากก็คงเ ห็นได้ว่าไม่มีอะไรตัดขาดจา กอะไร ดังนั้น การชี้ว่าคอร์รัปชั่นมาจากห น่วยงานไหน คนกลุ่มไหนหรือผู้มีอำนาจกล ุ่มไหนแบบโดดๆ ก็คงไม่ต่างอะไรกับการยืนยั นที่จะกวาดตามองโลกอันกว้าง ใหญ่เพียงชั่วอึดใจเดียวแล้ วก็เอาหัวมุดรูไปตลอดกาล ปฏิเสธที่จะพิจารณาสิ่งอื่น ใดอีก
ผมโชคดีสุดๆ เลยครับที่ได้ไปเจองานเขียน ของนักวิชาการชาวอิสราเอลท่ านหนึ่งชื่อว่า Dan Ariely ซึ่งปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาว ิทยาลัย Duke อาจารย์แกทำวิจัยทางพฤติกรร มศาสตร์โดยเน้นไปทางเศรษฐศา สตร์
สิ่งที่แกเปิดหัวมาในการบรร ยาย TED Talk ก็คือคนเราเนี่ย ชอบคิดกันไปเองครับ
และการคิดไปเอง หรือการเชื่อในสัญชาตญาณหรื อสิ่งที่ “คิดว่ารู้” นี่แหละ มันนำมาซึ่งความพัง ความย่อยยับ และการสูญเสียอย่างไม่จำเป็ นมานักต่อนักแล้ว
งานวิจัยที่แกนำมาเล่าให้ฟั งอย่างสนุกแต่ชวนอึ้งนั้นก็ คือ ธรรมชาติของการโกงคืออะไรกั นแน่?
เราเข้าใจธรรมชาติของการโกง ถูกต้องแล้วหรือยัง?
สมมติฐาน ความเชื่อ หรือความรู้สึกของคนที่มีต่ อปัญหาการคอร์รัปชั่นโดยมาก ก็คือ เรามักเชื่อกันว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นหรือการ โกงนั้น เกิดจาก “คนไม่ดี” เพียงไม่กี่คน แต่ “คนไม่ดี” เหล่านี้ พากันโกงแบบมโหฬาร
คนพวกนี้มีความโลภสูงกว่ามน ุษย์โดยทั่วไป คนส่วนใหญ่ในสังคม (ก็คือ “เรา” นั่นเอง) ไม่ได้เป็นคนโกง
และวิธีการจัดการกับปัญหากา รคอร์รัปชั่นก็คือ “จัดการ” กับคนโกง (หรือ “คนไม่ดี”) เหล่านั้นเสียอย่างเด็ดขาด การโกงก็จะหมดไป สังคมเป็นสุข แฮปปี้เอ็นดิ้ง
ตรงไปตรงมาดีจะตาย จริงมั้ยครับ คุณผู้อ่านที่รัก
(ลองให้เวลาตัวเองพิจารณาเร ื่องนี้ซักสองสามนาที แล้วตอบตัวเองดูสิว่าวิธีกา รแบบนี้ถูกใช้มากี่ครั้งแล้ วและได้ผลจริงตามสมมติฐานหร ือไม่)
อาจารย์แดนได้ทดสอบสมมติฐาน ด้วยการเรียกนักศึกษามาทดลอ งครับ
โดยมีการแจกข้อสอบให้กลุ่มต ัวอย่างเป็นข้อสอบเลขง่ายๆ 20 ข้อ แต่ให้เวลาทำเพียง 5 นาที
ใครทำถูกกี่ข้อก็จะได้รับรา งวัลเป็นเงินไปตามจำนวนข้อท ี่ทำถูก
ผลปรากฏว่านักศึกษาในมหาวิท ยาลัยชื่อดังโดยเฉลี่ยแล้วจ ะทำถูกกันราว 3-4 ข้อ แต่เมื่อเปิดโอกาสให้โกง คือ ให้แต่ละคนตรวจข้อสอบของตัว เองว่าถูกหรือผิดอย่างไร ตัวเองได้คะแนนเท่าไหร่แล้ว มาเบิกเงินโดยที่ไม่มีการตร วจสอบว่าผลคะแนนนั้นจริงหรื อไม่จริง เรียกง่ายๆ ว่าให้คนทำข้อสอบ ทำเอง ตรวจเอง สรุปผลคะแนนเอง เบิกเงินเอง นั่นแหละ
ผลเป็นไงรู้ไหมครับ
ค่าเฉลี่ยของการทำข้อสอบถูก ต้อง เพิ่มขึ้นจาก 4 ข้อ เป็น 7 ข้อซะหยั่งงั้น!
เฉลี่ย นะครับ
ไม่ใช่ว่ามี “คนไม่ดี” ไม่กี่คนลุกขึ้นมาโกงว่าตัว เองตอบถูกได้สิบห้าข้อ แต่มีคน “ทั่วๆ ไป” จำนวนมากนี่แหละ ที่พากันโกงแบบกว้างขวาง
แต่ครับแต่---ไม่ว่าจะทดสอบ กี่ครั้งและจะเพิ่มเงินรางว ัลสูงขึ้นนมากเท่าไหร่ อัตราการโกงก็ยังคงเป็นเท่า เดิม คือ ตอบถูกราวๆ 7 ข้อ
หมายความว่า ไม่ว่าผลตอบแทนจะมากหรือน้อ ย คนส่วนมากก็เลือกที่จะโกงเท ่าเดิม ไม่ใช่ว่ามีโอกาสได้เงินมาก ขึ้นแล้วจะโกงมากขึ้น!
อาจารย์แกสรุปได้น่าฟังครับ ว่า ที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพร าะว่าคนเรานั้นมีความต้องกา รที่ขัดแย้งกันอยู่ ด้านหนึ่งก็อยากจะได้เงิน เพราะใครๆ ก็ชอบเงินกันทั้งนั้น แต่ในขณะเดียวกันคนเราก็ต้อ งการจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเ ป็นคนดี ยังมองหน้าตัวเองในกระจกได้ อย่างเต็มภาคภูมิ ยังอยากนอนหลับสบายในตอนกลา งคืน ดังนั้น เราก็จะโกงอ่ะแหละ แต่โกงแค่นิดๆ หน่อยๆ
เราจะโกงแค่เท่าที่การโกงนั ้นจะไม่ทำให้เรารู้สึกรังเก ียจตัวเอง ซึ่งพื้นที่ของการอนุญาตให้ ตัวเองโกงได้นี้ จะขอเรียมันว่า “พื้นที่หยวนๆ” ก็แล้วกัน
ดังนั้น หากเราจะลดอัตราการโกงในสัง คมโดยรวมลงได้ เราน่าจะมุ่งที่จะไปลดพื้นท ี่ “หยวนๆ”ที่ว่า ให้เหลือเนื้อที่น้อยที่สุด มากกว่าที่จะมุ่งไปกำจัด “คนไม่ดีไม่กี่คน” ที่เอาเข้าจริงๆ แล้ว อาจจะไม่มีจริงเสียด้วยซ้ำ
อีกหนึ่งการทดลองที่น่าสนใจ มากๆ ของอาจารย์แดนที่อาจจะตอบคำ ถามคาใจอีกอย่างให้ใครหลายๆ คนได้ก็คือ ในการทดลองข้อสอบเลข 20 นี้
กลุ่มคนที่รับค่าตอบแทนเป็น เงินสดจะไม่โกงมากเท่ากลุ่ม คนที่รับค่าตอบแทนเป็นคูปอง ครับ หมายความว่าพวกที่ได้รับค่า ตอบแทนเป็นคูปองเพื่อที่จะเ อาคูปองนั้นไปแลกเงินสดมาอี กที มีการโกงตัวเลขมากกว่าพวกรั บเงินสดถึง 3 เท่า
ซึ่งอาจารย์แกก็สรุปว่า ยิ่งการโกงนั้นห่างไกลจากขอ งตอบแทนที่เป็นเงินสดมากเท่ าไหร่
คนเราก็จะรู้สึกสบายใจที่จะ โกงมากขึ้นเท่านั้น
แล้วคุณคิดดูว่า ในกรณีของคูปองที่จะไปแลกเง ินสดแค่ทอดเดียว การโกงยังเพิ่มขึ้นตั้ง 3 เท่าตัว
แล้วถ้ามันเป็นของจำพวก ของขวัญ ของฝาก ตราสารอนุพัน์ หุ้น โฉนดที่ดิน ไดโฟน สมาชิกคันทรี่คลับ บัตรอาบน้ำ ทัวร์ยุโรป บัตรของขวัญ ความช่วยเหลือ การเคลียร์ หรือสัมปทาน ความรู้สึกผิดมันจะลดลงไปมา กมายขนาดไหน
คำว่า “ปล้นชาติ” มีความหมายเบาบางมากในระบบค วามสัมพันธ์อันซับซ้อนในสัง คมเรา
อีกเรื่องที่ผมว่ามันสุดยอด ไปเลยจริงๆ ก็คือ การทดสอบเรื่องการโกงเป็นหม ู่คณะครับ นั่นก็คือ อาจารย์แกได้ทำการทดลองแบบเ ดิมกับข้อสอบเลข 20 ข้อ แต่คราวนี้แกได้เตี๊ยมกับนั กศึกษาคนหนึ่งให้ลุกขึ้นยืน หลังแจกข้อสอบไปได้แค่หนึ่ง นาทีและประกาศต่อหน้าธารกำน ัลว่าทำข้อสอบเสร็จครบทุกข้ อแล้ว และทำถูกทั้งหมดอีกต่างหาก
การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะทด สอบปฏิกิริยาของนักศึกษาที่ เหลือครับ
ผลปรากฏออกมาว่าสิ่งที่จะชี ้วัดการโกงของคนที่เหลือได้ ก็คือ สีเสื้อของคนโกง
แฮ่ หูผึ่งกันหมดล่ะสิท่า แต่มันเป็นความจริงนะครับ แต่สีเสื้อที่ว่านี้ หมายถึงสถาบันหรือหมู่พวกต่ างหาก (เอ๊ะ มันดีขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?)
หมายความว่า ถ้านักศึกษาที่โกงอย่างชัดแ จ้งผู้นั้นเป็นนักศึกษาต่าง สถาบันกับนักศึกษาที่เหลือ อัตราการโกงโดยรวมจะลดลง
แต่ถ้านักศึกษาที่โกงอย่างช ัดแจ้งผู้นั้นเป็นนักศึกษาส ถาบันเดียวกันกับนักศึกษาที ่เหลือล่ะก็ อัตราการโกงก็จะเพิ่มขึ้นอย ่างมโหฑารเลยทีเดียว----
กล่าวคือ การเห็นพวกเดียวกันโกงแล้วไ ม่ถูกลงโทษเป็นการส่งเสริมใ ห้คนพากันโกงต่อ
แต่ถ้าคนโกงนั้นเป็นคนละพวก กับตัวเองล่ะก็ ตัวเองจะอยาก “โชว์เหนือ” เป็นคนดีมีศึลธรรมสูงกว่าขึ ้นมาซะหยั่งงั้น
ไม่ว่าคุณจะเห็นว่างานวิจัย นี้เชื่อถือได้หรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยมันก็เป็นการพยายา มศึกษาและตั้งคำถามกับ “ความเชื่อ” หรือ “สิ่งที่เราคิดว่าเรารู้” อย่างจริงจัง
เพลาๆ เรื่องคิดเองเออเองกันลงบ้า งก็น่าจะดีนะครับ
ไม่งั้นทุกเรื่องมันจะกลายเ ป็นมหกรรมปาหี่พายเรืออยู่ใ นอ่างซ้ำแซะ
วนไปวนมา หาทางออกไม่เจอ ฮิฮิฮาฮา
--------------------------
คอร์รัปชั่นกับปัญหาของการ ‘คิดไปเอง’
คุณผู้อ่านที่รักครับ ช่วงนี้คนเรากำลังเห่อเรื่อ
ใครจะออกสื่อเก่งไม่เก่งก็ต
เรื่องน่าสนใจก็คือ อันที่จริงเรามีความเข้าใจธ
ที่ผมพูดเช่นนี้ก็เพราะว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นนั้นเมื
ถ้ามาจากฝ่ายอุตสาหกรรมคำตอ
ถ้ามาจากพวกที่มาจากฝ่ายราช
ถ้ามาจากฝ่ายธุรกิจ ก็มักจะได้คำตอบในรูปแบบทำน
แบบนี้ เป็นต้น
คำตอบทุกอย่างมักถูกแบ่งเป็
เจ้าของโรงงานต้องยัดเงินกี
คนเป็นข้าราชการก็มีชีวิตนอ
คนเป็นชาวบ้านก็มีพ่อแม่พี่
คนเป็นชาวนาก็ต้องลงทะเบียน
มองไปแบบไม่ต้องลึกมากก็คงเ
ผมโชคดีสุดๆ เลยครับที่ได้ไปเจองานเขียน
สิ่งที่แกเปิดหัวมาในการบรร
และการคิดไปเอง หรือการเชื่อในสัญชาตญาณหรื
งานวิจัยที่แกนำมาเล่าให้ฟั
เราเข้าใจธรรมชาติของการโกง
สมมติฐาน ความเชื่อ หรือความรู้สึกของคนที่มีต่
คนพวกนี้มีความโลภสูงกว่ามน
และวิธีการจัดการกับปัญหากา
ตรงไปตรงมาดีจะตาย จริงมั้ยครับ คุณผู้อ่านที่รัก
(ลองให้เวลาตัวเองพิจารณาเร
อาจารย์แดนได้ทดสอบสมมติฐาน
โดยมีการแจกข้อสอบให้กลุ่มต
ใครทำถูกกี่ข้อก็จะได้รับรา
ผลปรากฏว่านักศึกษาในมหาวิท
ผลเป็นไงรู้ไหมครับ
ค่าเฉลี่ยของการทำข้อสอบถูก
เฉลี่ย นะครับ
ไม่ใช่ว่ามี “คนไม่ดี” ไม่กี่คนลุกขึ้นมาโกงว่าตัว
แต่ครับแต่---ไม่ว่าจะทดสอบ
หมายความว่า ไม่ว่าผลตอบแทนจะมากหรือน้อ
อาจารย์แกสรุปได้น่าฟังครับ
เราจะโกงแค่เท่าที่การโกงนั
ดังนั้น หากเราจะลดอัตราการโกงในสัง
อีกหนึ่งการทดลองที่น่าสนใจ
กลุ่มคนที่รับค่าตอบแทนเป็น
ซึ่งอาจารย์แกก็สรุปว่า ยิ่งการโกงนั้นห่างไกลจากขอ
คนเราก็จะรู้สึกสบายใจที่จะ
แล้วคุณคิดดูว่า ในกรณีของคูปองที่จะไปแลกเง
แล้วถ้ามันเป็นของจำพวก ของขวัญ ของฝาก ตราสารอนุพัน์ หุ้น โฉนดที่ดิน ไดโฟน สมาชิกคันทรี่คลับ บัตรอาบน้ำ ทัวร์ยุโรป บัตรของขวัญ ความช่วยเหลือ การเคลียร์ หรือสัมปทาน ความรู้สึกผิดมันจะลดลงไปมา
คำว่า “ปล้นชาติ” มีความหมายเบาบางมากในระบบค
อีกเรื่องที่ผมว่ามันสุดยอด
การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะทด
ผลปรากฏออกมาว่าสิ่งที่จะชี
แฮ่ หูผึ่งกันหมดล่ะสิท่า แต่มันเป็นความจริงนะครับ แต่สีเสื้อที่ว่านี้ หมายถึงสถาบันหรือหมู่พวกต่
หมายความว่า ถ้านักศึกษาที่โกงอย่างชัดแ
แต่ถ้านักศึกษาที่โกงอย่างช
กล่าวคือ การเห็นพวกเดียวกันโกงแล้วไ
แต่ถ้าคนโกงนั้นเป็นคนละพวก
ไม่ว่าคุณจะเห็นว่างานวิจัย
เพลาๆ เรื่องคิดเองเออเองกันลงบ้า
ไม่งั้นทุกเรื่องมันจะกลายเ
วนไปวนมา หาทางออกไม่เจอ ฮิฮิฮาฮา
เราคิดกันไปเองหรือแค่เชื่อจริงๆหรือ?
จริงที่สังคมเรา มันโกงกันทุกระดับชั้น ใช่มันเน่าทั้งระบบ
แต่กลุ่มคนที่โกงแบบมโหฬาร ไม่ใช่กลุ่มคนที่มีอำนาจเพียงไม่กี่คนหรือ?
ระหว่างตำรวจจราจรกับผบตร ถ้าจะโกง ใครโกงได้มโหฬารกว่า?
แล้วใครเยอะกว่า ระหว่าง ตำรวจจราจรกับผบตร?
... คนไม่ดีมันมีเยอะ แต่อำนาจมันช่วยให้โกงมโหฬารไม่ใช่หรอ?
แล้วคนที่มีอำนาจ ตามกฏ80/20
เค้าอยู่ส่วนไหนละ
Supapong Wanitpongpan ไอซ์แน่ใจหรือครับ ว่าการคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินทั้งหมดทั่วประเทศ เมื่อรวมกันในแต่ละปี จะน้อยกว่า ที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคอรับชั่น ในแต่ละปี (ถ้าจะโกง)
แล้วแน่ใจมั๊ยว่า พวกที่มีอำนาจทั้งหมดรวมกัน เทียบกับพวกที่ไม่มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ เจ้าหน้าที่ พนักงานองค์การ รัฐวิสาหกินต่างๆ ทั้งหมดรวมกันทั้งประเทศ ฝ่ายไหนจะคอรัปชั่นเยอะกว่าในแต่ละปี
อย่าลืมว่าพวกมีอำนาจแล้วจะโกงก็ต้องเป็นโครงการใหญ่ๆ แต่ละปีมีมากน้อยแค่ไหน
แต่พวกเจ้าหน้าที่เล็กๆแต่คอรัปชันมันทำได้เรื่อยๆ และจำนวนคนก็เยอะมาก
อย่าดูแยกส่วนอย่างเดียวสิครับ ดูภาพโดยรวมด้วยครับ
หมากล้อมสอนให้มองส่วนรวมเป็นหลักครับ!
แล้วการโกงไม่ได้เกี่ยวกับอำนาจ
แต่มันเกี่ยวกับสันดาน!!
การโกงข้อสอบ การให้คนอื่นทำงานวิจัยให้
ก็ไม่ได้จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการมีอำนาจ (ไม่ใช่เฉพาะกรณีเฉลิม ที่อาจบอกว่ามีอำนาจ แต่นักศึกษาอื่นๆก็ทำกันเยอะ)
คนที่มีสันดานไม่โกง แม้มีโอกาสก็ไม่โกง
คนที่มีสันดานโกงแต่เก็บไว้ เมื่อมีโอกาส มันก็โกง
.........................................................................................................
ดนตรีกับการออกกำลังกาย
.........................................................................................................
เคยมีคนวิเคราะห์ speech ของ Hitler เวลาพูดที่ Reistag(ไรช์ทาก - รัฐสภาเยอรมัน) หรือที่สาธารณะอื่นๆ ประเด็นใน speech ของ Hitler ที่ดูทรงพลัง ฟังแล้วฮึกเหิม ใช้ในการโน้มน้าวคนให้เข้าสู่ลั
- ความยิ่งใหญ่ของ Prussia(ชื่อเก่าของเยอรมัน) ที่ถูกทำลายไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ชาวเยอรมันต้องร่วมมือกับนาซีทำ
- ที่สภาพบ้านเมืองเยอรมันนีเสื่อ
- คนทรยศขายชาติ คนไม่รักชาติเป็นตัวถ่วงประเทศ ชาติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนื
- ฝ่ายซ้ายซึ่งมีหลายพรรค ตั้งแต่คอมมิวนิสต์ พรรคแรงงาน พรรคเสรีนิยม เป็นพวกคดโกงเผาบ้านเผาเมือง (ตอนนั้นมีคดีเผา Reistag ใน Berlin ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจร
แว้กกกกกก อ่านไปอ่านมาแล้ว อิสามสี่ประเด็นเนี่ยยังกะ คำปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมือ
http://www.youtube.com/
Supapong Wanitpongpan คุณ "Fedexfc Jjronnote" บอกว่า
เว็บนี้รวบรวม speech สำคัญๆของ ฮิตเลอร์ที่พูดทุกครั้ง ตั้งแต่ปี 1921-1945 ใครมีเวลา ลองเข้าไปอ่านดูครับ แล้วจะเห็นถึงประเด็นที่ผมเขียนถึง http://der-fuehrer.org/redenen.htm
Ice Nachai ผมว่าประโยคคุ้นๆเหมือนกันนะ
"And the same is true of democracy."
""what we need if we are to have a real People's State is a land reform."
"We want to liberate Germany from the fetters of an impossible parliamentary democracy"
Ice Nachai อย่าง"ที่สภาพบ้านเมืองเยอรมันนีเสื่อมทรามลงเพราะมีคนไม่ดี ไม่มีคุณธรรมมาก" แปลมาจากตรงไหน?
ประโยคที่แปลมาเค้าเอามาจากยูทูปที่ให้หรือป่าว?
Supapong Wanitpongpan 555++
นั่นสินะ ที่จริงก็เริ่มตั้งแต่เสียงส่วนน้อยไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ แล้วว่าเสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้แปลว่าประชาธิปไตยแล้วนะ
และปลดแอกจากระบบทักษิณ
เริ่มได้ยินที่ไอซ์ว่าคุ้นๆจากอันนั้นนะ
ส่วนเรื่องสภาพบ้านเมืองเยอรมันตอนนั้น
เอามาจาก link ด้านบนที่เขา link speech ของ ฮิตเลอร์ไว้ครับ
...............................................................................................................
[a day] "ผมไม่ต้องการลงแข่งขันด้วย
Oscar Pistorius
นักวิ่งไร้ขาคนแรกที่ลงสนาม
(ภาพประกอบ > พัฒนพงศ์ มณเฑียร จากคอลัมน์ main course | a day 149)
............................................................................................................................
http://www.facebook.com/photo.php?v=141735902653952
การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมาก
...........................................................................................................................
จากข่าวที่มีคนมา post ว่า foreignpolicy ยกย่องอดีตนายกอภิสิทธิ์เป็
และให้เหตุผลว่า
Why he's got to go: Politicking when he should be governing. Aiding the poor through the downturn should be a bigger priority than scrapping with rivals.
พร้อมกับ Story ว่า
The story: Thailand has been in a state of political turmoil since 2006, when a military coup ousted then Prime Minister Thaksin Shinawatra. Ever since, Thaksin, a wealthy businessman with strongly populist tendencies, has continued to broadcast potent political messages to his supporters in the country.
For the past month or so, up to 100,000 "red shirt" protesters who support Thaksin have rallied against Abhisit and periodically forced Bangkok to shut down. This month, protesters forced the government to call off a summit of leaders from the ASEAN trade bloc -- a tremendous embarrassment for Abhisit -- and provoked a military response that left two dead.
In all likelihood, Thaksin's Keynesian economic policies would benefit Thailand more than Abhisit's. But regardless of which man seizes power, one thing is certain: Their perpetual infighting has severely harmed the country. An Asian Development Bank economist said political turmoil may cause the economy to contract 5 percent this year, revising his estimate from 2 percent. If neither of the two men can gain control and provide peace, at least they should find a way to protect the Thai economy instead of driving away foreign investment, tourism, and assistance.
ก็ได้ไปเจอบทความในรูปนี้
เลยเก็บมาเป็นข้อมูลเพิ่มเต
..........................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น