23/02/2556

http://www.facebook.com/photo.php?v=550523938313401

ผมไม่ได้แสดงความเห็นใน FB เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกใครผิด
แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่ฝ่ายชายตวาดว่า "ไปถอยรถ" ฝ่ายหญิงก็บอกว่า "เออ" และเดินเลี่ยงไปแล้ว
ฝ่ายชายกลับดึงกลับมาด้วยกำลัง

จุดนี้เป็นจุดที่ผิดที่สุดของฝ่ายชาย!!! 

....................................................................................................

 















Teacher & Student
อ่านแล้วตรอง ด้วย หัวใจ
แล้วคุณ..จะค้นพบความจริง
ที่เราอาจไม่เคยยอมรับมัน..

คุณครูทอมป์สัน..โกหกนักเรียนชั้น ป. 5 ของครูทั้งชั้นเสียแล้ว
ตั้งแต่วันแรกเลยด้วย

คุณครูบอกเขาว่าครูรักเด็กๆ เท่ากันหมดเลย แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้...
เพราะว่ามีเด็กตัวเล็กๆ ท่าทางขี้เกียจคนหนึ่ง ชื่อ เท็ดดี้ สต๊อดดารด์
ครูทอมป์สันได้จับตาดูเท็ดดี้มาปีนึงและ สังเกตว่าเขาไม่ค่อยเล่นดีๆ
กับเด็ก คนอื่นเท่าไหร่ เสื้อผ้าของเขาสกปรกและตัวเหม็นหึ่งอยู่ตลอด
เวลา และบางทีเท็ดดี้ก็เกเรด้วย ถึงขั้นที่ว่า..ครูทอมป์สัน สนุกกับการ
ตรวจงานของเท็ดดี้ ด้วยหมึกสีแดง กากบาทไปหนาๆ และใส่ตัว F ตัว
ใหญ่ๆ ลงไปบนหัวกระดาษ ที่โรงเรียนที่คุณครูทอมป์สันสอน -

คุณครูต้องทบทวนประวัติของเด็กแต่ละคนด้วย และครูก็ไม่ยอมตรวจประวัติของเท็ดดี้จนกระทั่งเหลือแฟ้มสุดท้าย แต่เมื่อคุณครูตรวจแฟ้มเข้า ครูทอมป์สันก็แปลกใจใหญ่เลย เมื่อพบว่า ….

ครูชั้น ป. 1 ของเท็ดดี้วิจารณ์มาว่า "น้องเท็ดดี้เป็นเด็กที่ฉลาดและร่าเริง ทำงานเรียบร้อย มารยาทดี เป็นเด็กที่ น่ารักมากทีเดียว"

คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 2 เขียนว่า "เท็ดดี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก เพื่อนๆ ชอบกันทุกคน แต่กำลังมีปัญหา เพราะแม่ของเท็ดกำลังป่วยหนัก และชีวิตทางบ้านต้องลำบากมากแน่ๆ"

คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 3 เขียนว่า "เขาเสียใจมากที่เสียแม่ไป เขาพยายามเต็มที่แล้ว แต่คุณพ่อก็ไม่ค่อยให้ความรัก ความสนใจเขาเท่าไหร่ และชีวิตที่บ้านเขาต้องส่งผลกระทบต่อเขาแน่ๆ ถ้าไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ"

คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 4 เขียนว่า "เท็ดดี้ไม่ยอมเข้าสังคมและไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าที่ควร ไม่ค่อยมีเพื่อน และหลับในห้องเรียน"

ตอนนี้ คุณครูทอมป์สันรู้ถึงปัญหาแล้ว และอับอายในการกระทำของตนเองมาก ครูรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก เมื่อนักเรียนในห้องซื้อของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ห่อในกระดาษสีสดๆ พร้อมผูกโบว์อย่างดี..ยกเว้นแต่ของเท็ดดี้ ของขวัญของเท็ดดี้ถูกห่ออย่างหยาบๆ ในกระดาษลูกฟูกหนาๆ ที่ได้มาจากถุงใส่กับข้าว..

ครูทอมป์สันกัดฟันเปิดกล่องของเท็ดดี้ดู กลางกองของขวัญอื่น ๆ เด็กบางคนเริ่มหัวเราะเมื่อเห็นว่าเท็ดดี้..ให้กำไลที่มีลูกปัดไม่ครบเส้น และขวดน้ำหอมที่เหลือน้ำอยู่ก้นขวดแก่เธอ แต่ครูก็หยุดเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ เมื่อครูเอ่ยขึ้นว่ากำไลเส้นนั้นสวยเพียงใดแล้วสวมมันไว้ที่ข้อมือ และฉีดน้ำหอมไปบนข้อมือด้วย..

เท็ดดี้ สต๊อดดารด์ นิ่งอยู่นานพอที่จะพูดว่า
"ครูทอมป์สันครับ วันนี้ครูตัวหอมเหมือนที่แม่ผมเคยหอมเลยครับ"

หลังจากที่นักเรียนทุกคนกลับบ้าน ครูทอมป์สันก็ร้องไห้อยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง ...

นับแต่วันนั้น คุณครูทอมป์สันเริ่มให้ความเอาใจใส่เท็ดดี้เป็นพิเศษ เมื่อครูพยายามช่วยเขา จิตใจของเขาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ยิ่งครูให้กำลังใจเท็ดดี้เท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตอบรับเร็วขึ้นเท่านั้น ภายในสิ้นปีนั้น เท็ดดี้ได้กลายเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในห้อง และแม้ว่าคุณครูจะบอกว่าครูรักเด็กทุกคนเท่ากัน แต่เท็ดดี้ก็ได้กลายไปเป็น "ศิษย์โปรด" ของครู..

หนึ่งปีต่อมา คุณครูพบจดหมายอยู่ใต้ประตู จดหมายนั้นมาจากเท็ดดี้ บอกครูว่าคุณครูยังเป็นครูที่ดีที่สุดที่เขาเคยมี ...
หกปีต่อมาครูก็ได้จดหมายจากเท็ดดี้อีก บอกว่าเขาเรียนจบ ม.ปลายแล้ว ได้ที่สามในทั้งระดับ และคุณครูยังคงเป็นครูที่ดีที่สุดที่เขาเคยเจอมาในชีวิต ...
สี่ปีหลังจากนั้น คุณครูก็ได้จดหมายอีก บอกว่าแม้ว่าชีวิตเขาจะลำบากบ้าง เขาก็ไม่ได้เลิกเรียนหนังสือ และจะจบปริญญาตรีในเร็วๆ นี้ ด้วยเกียรตินิยม อันดับหนึ่ง (เหรียญทอง) และยังย้ำกับครูทอมป์สันว่า คุณครูเป็นครูที่ดีที่สุดและเป็นครูคนโปรดใน ชีวิตเขา จากนั้นสี่ปีผ่านไปแต่จดหมายอีกฉบับหนึ่งก็มา ครั้งนี้เขาอธิบายว่าหลังจากที่เขาได้รับปริญญาตรีแล้ว เขาตัดสินใจที่จะเรียนต่ออีกนิด จดหมายนั้นอธิบายว่าคุณครูยังเป็นครูคนที่ดีที่สุดที่เขาเคยมี...

แต่ตอนนี้ชื่อของเขายาวขึ้นอีกหน่อย จดหมายนั้นลงชื่อว่า
นพ. ทีโอดอร์ เอฟ สต๊อดดารด์ ...

เรื่องยังไม่จบแค่นี้นะ คือว่า ... ฤดูใบไม้ผลินั้นก็ยังมีจดหมายมาอีก เท็ดดี้บอกว่า เขาได้เจอสาวคนนึงและก็จะแต่งงานกัน เขาอธิบายว่าพ่อของเขาได้เสียไปเมื่อสองสามปีก่อน และเขาสงสัยว่าคุณครูทอมป์สัน จะตกลงมานั่งในที่นั่งสำหรับพ่อ-แม่เจ้าบ่าวในงานแต่งงานหรือไม่ แน่นอนที่สุด ครูทอมป์สันก็มา และทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น คุณครูใส่กำไลข้อมือเส้นนั้น เส้นที่มีลูกปัดหายไปหลายลูก และต้องฉีดน้ำหอมที่เท็ดดี้จำได้ว่า แม่เขาฉีดตอนที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาสครั้งสุดท้ายด้วยกัน...

ครูกับศิษย์กอดกันกลม และ...คุณหมอเท็ดก็กระซิบข้างหูคุณครูทอมป์สันว่า

"ขอบคุณมากนะครับคุณครูที่เชื่อในตัวผม ขอบคุณมากที่ทำให้ผมรู้สึกสำคัญ และแสดงให้ผมเห็นว่าผมสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้"

ครูทอมป์สันกระซิบตอบพร้อมน้ำตานองหน้าว่า

"หมอเท็ด เธอเข้าใจผิดแล้วแหละเธอต่างหากที่สอนครูว่า
ครูสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
ครูไม่รู้จักการสอนจนกระทั่งครูได้พบ ได้รู้จักเธอนั่นแหละ"

เติมเต็มหัวใจของคนอื่นด้วยความรักเสียแต่วันนี้...........

โปรดจำว่า ไม่ว่าคุณจะไปไหนหรือทำอะไร
คุณจะมีโอกาสที่จะ สัมผัส
และเปลี่ยนอนาคตของคนอื่นเสมอครับ

Cr: Ting Budsaraporn
Via: เพจ สมุดปกขาว

ไม่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ผมก็ชอบมาก ^^

...................................................................................................................

[Myth Buster] เปรียบเทียบราคาน้ำมันไทย-อเมริกา คนไทยถูกปตท.ขูดรีดจริงหรือ?

โดย Faris PHar Yothasamuth

หลายวันที่ผ่านมามีกลุ่มทวงคืนปตท.อะไรซักอย่างทำภาพนี้ออกมา

ซึ่งมั่วนิ่ม และผมได้เขียนชี้แจงไปแล้วลงในเพจ "สำนักวิเคราะห์และต่อต้านข่าวลือ" ตามลิงก์ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=395829453847482&set=a.215663825197380.47100.215631051867324&type=1&relevant_count=1

ประเด็นที่ต้องการแย้งก็คือ ราคาขายปลีกน้ำมันนั้นจะมีโครงสร้างราคาเฉพาะของแต่ละประเทศ ทำให้ไม่สามารถเอาราคาขายปลีกมาเทียบกันทื่อๆแบบนี้ได้ (และแน่นอนว่ามีพวกกะลาครอบหลายคนที่ "อ่านแต่ไม่ได้อ่าน" เข้ามาแถซ้ำซากเยอะแยะ)

ทีนี้ผมก็เลยนึกสนุกขึ้นมาว่า เฮ้ย ในภาพนั้นพูดถึงอเมริกา อเมริกานี่แม้จะผลิตน้ำมันได้มหาศาล แต่ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเหมือนประเทศไทยเลยนะ งั้นลองเปรียบเทียบราคากันดูจริงๆดีไหม ว่าน้ำมันเราแพงเกินจริงๆหรือเปล่า ปตท.มันขูดรีดเราจริงมั้ย.... 

............................................................

แรกสุด เราไม่อาจเอาราคาขายปลีกหน้าปั๊มมาเทียบกันได้ เพราะโครงสร้างภาษีและเงินเพิ่มอื่นๆไม่เท่ากัน ดังนั้นราคาที่ต้องเอามาใช้คือราคาน้ำมันสำเร็จหน้าโรงกลั่นที่ยังไม่ได้บวกเงินอื่นๆเข้าไป

ข้อมูลที่ผมจะใช้ก็คือ ราคาของน้ำมันเบนซิน 95 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดของไทย กับราคาน้ำมันเบนซิน Regular ซึ่งเป็นเกรดถูกสุดของอเมริกา (จริงๆเค้ายังมี Mid-grade แล้วก็ Premium ซึ่งราคาสูงกว่าอีก แต่เนื่องจากหาโครงสร้างราคาได้แต่ของ Regular จึงขอ "ต่อให้" น้ำมันไทยสักเล็กน้อย) โดยจะใช้ราคาอ้างอิงวันที่ 18/2/2013 มาเทียบกัน

ราคาของไทย อ้างอิงจาก http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html

ราคาของอเมริกา อ้างอิงจาก http://www.eia.gov/petroleum/gasdiesel/

สำหรับของไทยนั้นกระทรวงพลังงานแจกแจงโครงสร้างราคาไว้ให้เรียบร้อย โดยน้ำมัน 95 ราคาขายปลีก 48.95 บาท/ลิตร หักภาษี เงินกองทุน ค่าการตลาดไปแล้ว จะได้ "ราคาน้ำมันสำเร็จหน้าโรงกลั่น" ซึ่งก็คือต้นทุนน้ำมันเพียวๆอยู่ีที่ 26.34 บาท

ส่วนของอเมริกานั้นต้องแปลงหน่วยกันเล็กน้อย ราคาเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 3.75 ดอลลาร์/แกลลอน น้ำมัน 1 แกลลอน = 3.79 ลิตร ดังนั้นจับหารกันจะได้ราคาขายปลีกของปั๊มที่อเมริกาอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์/ลิตร แปลงกลับมาเป็นเงินไทยโดยอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30 บาท/ดอลลาร์ จะได้ว่าน้ำมันที่อเมริกาขายกันที่ 29.70 บาท/ลิตร

ทีนี้เราต้องมาถอดโครงสร้างราคาน้ำมันของอเมริกาออกเพื่อให้ได้เฉพาะราคาน้ำมันเพียวๆมาเทียบกับของไทย โดยในลิงก์อ้างอิงข้างต้นระบุโครงสร้างราคาของอเมริกาไว้ดังนี้ครับ

นั่นคือโครงสร้างราคาประกอบด้วย ภาษีต่างๆ 13% ค่าการตลาด 11% ค่าการกลั่น 8% ต้นทุนน้ำมันดิบ 68% ดังนั้น สิ่งที่จะเอามาเทียบกับน้ำมันหน้าโรงกลั่นของไทยได้ ก็คือเอาต้นทุันน้ำมันดิบบวกค่าการกลั่นนั่นเอง ได้ตัวเลข 68+8= 76%

เราเอาราคาน้ำมัน 29.70 มาคิดต้นทุนกันครับ จะได้ว่า 29.70*76% = 22.57 บาท นี่คือราคาน้ำมันสำเร็จเพียวๆที่จะเอามาเทียบกับของไทยครับ เราจะได้ว่า

น้ำมันสำเร็จของไทย ตกลิตรละ 26.34 บาท

น้ำมันสำเร็จของอเมริกา ตกลิตรละ 22.57 บาท

สรุปแล้วน้ำมันของไทยแพงกว่าอเมริกาลิตรละ 3.77 บาท หรือคิดเป็น 16.70%

เห็นข้อมูลตรงนี้พวก "ทวงคืนปตท." คงตีปีกผางๆเลยใช่มั้ยครับ ดีใจโห่ร้อง ฮูเร่ๆกันแล้วแน่เลย คงคิดว่า "นั่นไง แพงกว่าจริงๆ ปตท.มันฟันส่วนต่างแพงกว่าเมกาตั้งลิตรละ 4 บาท แม่งขูดรีด แม่งโกง บลาๆๆๆๆ" 

แต่อย่าเพิ่งดีใจกันไปครับ ผมจะบอกว่าต้นทุนน้ำมันดิบของอเมริกากับของไทยไม่เท่ากันนะครับ อย่าลืมว่าอเมริกาเป็นตลาดค้าน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังมีการผลิตน้ำมันดิบได้ในปริมาณมหาศาลต่อวัน ทำให้ตลาดในภูมิภาคนี้ (อเมริกาเหนือ) มีราคาน้ำมันสำหรับคำนวณต้นทุนเป็นของตัวเอง ที่เรียกว่า WTI หรือ West Texas Intermediate ควบคู่ไปกับตลาด Brent ที่ลอนดอน และ Dubai ซึ่งใช้อ้างอิงในแหล่งตะวันออกกลาง และถ้าเราไปดูกันจริงๆ จะเห็นว่าราคาน้ำมันในแต่ละตลาดก็ไม่เท่ากัน อันเนื่องมาจากสภาพอุปสงค์-อุปทานในแต่ละภูมิภาค คุณภาพน้ำมัน และสภาพทางเศรษฐภูมิศาสตร์ของแต่ละภูมิภาค 

ขณะที่อเมริกามีตลาดน้ำมันของตนเองและมีราคาที่จะคำนวณต้นทุนต่างจากภูมิภาคอื่น แต่ของไทยเราเราไม่ได้ซื้อน้ำมันจากตลาดที่อเมริกานะครับ น้ำมันกว่า 75-78% ของไทยนำเข้ามาจากตะวันออกกลาง ดังนั้นราคาต้นทุนในการซื้อน้ำมันดิบที่เราต้องคำนวนจึงต้องใช้ราคากลาง Dubai แทนครับ และหลายปีที่ผ่านมาราคาน้ำมัน WTI นั้นต่ำกว่า Dubai มาตลอด ทำให้กล่าวได้ว่า "อเมริกามีต้นทุนน้ำมันดิบที่ต่างไปจากประเทศไทย"

ถ้าอ้างอิงราคาน้ำมันในตลาดโลกจากบ.ไทยออยล์ีที่แสดงในเว็บ http://www.iwebgas.com/oil/oil.htmlณ วันที่ 19 ก.พ. ของไทย ราคาน้ำมัน WTI= 96.66 Dubai=111.86 USD/Barrel ดังนั้นถ้าพิจารณาความต่างของราคาระหว่างสองตลาดนี้จะได้ตัวเลขว่าน้ำมันดิบดูไบแพงกว่าน้ำมันที่ตลาดอเมริกาอยู่ = 15.73%

สรุปได้ว่า ไทยขายน้ำมันแพงกว่าอเมริกา 16.70% แต่ไทยมีต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่แพงกว่าอเมริกา 15.73%!!!!!!!!!!!!!!!

16.70 กับ 15.73 คุณว่ามันต่างกันมากมายมหาศาลมั้ยครับ และนี่ผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายการขนส่งที่ต่างกัน อำนาจต่อรองของผู้ซื้อรายใหญ่-รายเล็กเลยนะครับ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าน้ำมัน WTI มีคุณภาพดีกว่าน้ำมัน Dubai ทำให้มีต้นทุนการกลั่นที่ต่ำกว่าด้วย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (อ้างอิง http://www.scbeic.com/THA/document/knowledge_dubai/ )

ข้อมูลนี้บอกอะไรแก่เราครับ? มันก็บอกว่าราคาขายปลีกน้ำมันระหว่างไทยกับอเมริกาที่พวก "ทวงคืนฯ" ชอบยกมาอ้างนั้นโดยแท้จริงแล้วแทบจะไม่ต่างอะไรกันเลย ตัวเลขความแตกต่าง 1% มันมากหรือครับ ไม่เลย ถ้าเอาต้นทุนขนส่งมาร่วมด้วยความต่างอาจกลายเป็น 0% หรือกลายเป็นว่าอเมริกาขายน้ำมันแพงกว่าไทยก็ได้!!!!!!!!!!

นอกจากนั้นแล้วถ้าเอาค่าการตลาดหรือ Marketing margin ของไทยไปเทียบกับอเมริกาจะเห็นว่าค่าการตลาดน้ำมันเบนซินของเค้าอยู่ที่ 11% แต่ของไทยอยู่แค่ประมาณ 5% เท่านั้นเอง!!!!!!! แล้วยังงี้ปตท.จะไปเอาที่ไหนมาขูดรีดครับถามหน่อย? เลิกดราม่าเรื่องปตท.เอาเปรียบ/ขูดรีดได้แล้ว การที่น้ำมันในบ้านเรามันแพงหรือเรา"รู้สึก"ว่ามันแพงเป็นเพราะ

หนึ่ง-ราคาขายปลีกเราโดนเพิ่มภาษีและเงินกองทุนเข้าไปมาก

สอง-ไทยเราต้องนำเข้าน้ำมันดิบมาก และมีต้นทุนการนำเข้าแพงกว่าบางประเทศ

จบมั้ย!

ใครอยากเปรียบเทียบน้ำมันไทยกับประเทศไหนอีกก็เอาวิธีนี้ไปใช้ได้เลย จะได้รู้กันว่าเราถูกขูดรีดจากปตท.จริงหรือเปล่า? แต่ถ้าจะเปรียบก็ต้องรู้โครงสร้างราคาประเทศนั้น และให้แน่ใจก่อนนะว่าประเทศนั้นๆไม่ได้อุดหนุน (Subsidize) ราคาให้ประชาชนของเค้าอยู่

บทเรียนที่ได้จากการเปรียบเทียบนี้ก็คือ

1.อย่าดราม่าแบบโง่ๆ

2.หัดหาข้อมูลกันซะบ้าง

3.อย่าใช้ข้อมูลโดยปราศจากบริบท ต้องเข้าใจปัจจัยที่กำกับตัวข้อมูลเหล่านั้นด้วย อย่าเชื่อตามตะพึดตะพือ คิดว่าตัวเองฉลาด "รู้ทัน" เสียเต็มประดา แต่สุดท้ายก็โดนเค้าหลอกซ้ำซาก น่าสงสาร...

จบเนอะ!

.............................................................................................................

..............................................................................................................

ถ้าบอกว่า เราจะสามารถชาร์ตมือถือจากความร้อนของถ้วยกาแฟ ได้ เชื่อมั๊ย !! ไม่เชื่อก็ต้องไปดูค่ะ เป็น Kickstarter ที่กำลังมาแรงระดมทุนได้ถึง $100,000 ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ...http://www.iurban.in.th/inspiration/epiphany-puck-charger/

Supapong Wanitpongpan ผมได้เห็นอุปกรณ์นี้ครั้งแรกเมื่อวันพุธ 
ครั้งแรกที่เห็น ผมว่ามันน่าสนใจมาก idea ดีมาก 
ผมชอบ

แต่...

มีบางอย่างที่ผมยังติดใจอยู่ืคือ

1. การชาร์ตด้วยความเย็น!
คือถ้าชาร์ตด้วยความร้อน ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ 
แต่พอมีการชาร์ตด้วยความเย็น 
ตามประสาของคนที่เรียน Thermodynamic มา ผมแปลกใจมาก

2. อุปกรณ์นี้ ใช้วิธีระดมทุน ไม่ใช่การออกวางจำหน่าย 

ยังไม่มีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้ครับ แค่มีข้อสงสัย...!

............................................................................................................

วิรศากดิ์ นิลกาด

วัฎจักรคนกรุงนะครับนะ
1. ต่างจังหวัดเลือกพรรค A เป็นรัฐบาล คนกรุงเสียงน้อยกว่า
2. คนกรุงไม่พอใจ เลือกผู้ว่าจากพรรค B เป็นผู้ว่าเพื่อถ่วงดุลอำนาจ
3. ผู้ว่าเสนอโครงการให้รัฐบาล พรรค A ไม่สานต่อเพราะกลัวพรรค B ได้ผลงาน
4. กรุงเทพไม่คืนหน้า คนกรุงเซ็งด่ารัฐบาล
5. เลือกตั้งครั้งหน้า คนกรุงไม่เลือกรัฐบาลพรรค A
6. วนไป 1 ใหม่นะครัสนะ

......................................................................................................

ในขณะที่คนไทยยังทะเลาะกันไม่เสร็จ...

ต่างชาติกำลังจะไปเหมืองบนดาวเคราะห์น้อย เพื่อค้นหาโลหะ น้ำ และทรัพยากรอื่นๆ โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือมวลมนุษยชาติแล้วล่ะครับ 

- -"

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000012007

.........................................................................................................