ก็จะรอดูผลงานนะครับว่า 4 ปี ต่อจากนี้ จะดำเนินนโยบายตามที่ประกาศไว้ได้มากน้อยแค่ไหน? จะพัฒนากรุงเทพฯได้มากน้อยแค่ไหน?
(อย่าให้เป็นแบบสมัยแรกที่แทบจะไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงเลยนะครับ)
.................................................................................................................................
» 14 คำถามสำคัญ สำหรับ "การศึกษากระแสหลัก"...แห่ง สยามประเทศ
การศึกษากระแสหลัก ที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำด้ วยแนวคิดและแนวปฎิบัติของเศ รษฐกิจเสรีทุนนิยม มีลักษณะดังต่อไปนี้...ใช่ห รือไม่ ?
Q1 - การศึกษาในกระแสหลักเน้นกระ ดาษ (ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร) มากกว่าปัญญา ใช่หรือไม่?
Q2 - สถาบันการศึกษามองผู้เรียนเ ป็นลูกค้า เป็นผู้บริโภค มากกว่าเป็นผู้เรียนรู้ เป็นพลเมือง ใช่หรือเปล่า?
Q3 - หลักสูตร โดยเฉพาะระดับปริญญาโท ปริญญาเอก มีลักษณะสำเร็จรูป เร่งรัด เรียนลัด ใช่หรือเปล่า?
Q4 - สถาบันการศึกษาเป็นแหล่งผลิ ต เป็นตัวกลาง เป็นบันไดสู่การเลื่อนสถานภ าพทางเศรษฐกิจ และสังคม ใช่หรือไม่?
Q5 - เน้น “การรู้” และ “การไล่ให้ทัน” การเปลี่ยนแปลง มากกว่า “การรู้เท่าทัน” การเปลี่ยนแปลง ใช่หรือไม่?
Q6 - การศึกษายิ่งระดับสูงมากขึ้ น ยิ่งเน้นเฉพาะทาง แยกส่วน มากขึ้น ใช่หรือไม่?
Q7 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นการแ ข่งขันมากกว่าความร่วมมือ ใช่หรือเปล่า?
Q8 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นความ เป็นหนึ่ง มากกว่าความเป็นหนึ่งเดียวก ัน ใช่หรือไม่?
Q9 - มีผู้สอนกับผู้ถูกสอน แต่ไม่มีผู้เรียนรู้อย่างแท ้จริง ใช่หรือไม่? (ทั้งผู้สอนและผู้เรียน)
Q10 - มีผู้สอบกับผู้ถูกสอบ แต่ไม่มีผู้เรียนรู้อย่างแท ้จริง ใช่หรือเปล่า?
Q11 - เน้นการเรียน เน้นการรู้ แต่ไม่เน้นการเรียนรู้อย่าง แท้จริง ใช่หรือไม่?
Q12 - เน้นการสอน (การบรรยายถ่ายทอดเนื้อหา) มากกว่าการคิด และกระบวนการเรียนรู้ ใช่หรือเปล่า?
Q13 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นปัญห า การหาสาเหตุของปัญหา เพื่อแก้ไขปัญหา มากกว่าการสร้างความสำเร็จใ นอนาคต และการสร้างเหตุของความสำเร ็จ ใช่หรือเปล่า?
Q14 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นเรื่ องการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นมิ ติภายนอกภายใต้กระแสโลกาภิว ัตน์ มากกว่าการการตระหนักรู้ เรียนรู้และรู้เท่าทันมิติภ ายใน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ขั้นพื้นฐาน (Fundamental Transformation) ใช่หรือเปล่า?
◌◌◌◌◌◌◌◌
Life 101 นำเสนอ...ตัวอย่าง การตกผลึก-ใคร่ครวญ-ทบทวน 'ชีวิตการศึกษา" ของ 'ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน' แห่งคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ
"การศึกษาระดับประถมและมัธย ม ผมได้รับการปลูกฝังให้เป็นค นขยัน ตั้งใจเรียน ให้เรียนให้เก่ง จะได้เรียนต่อให้สูง เพื่อจะได้มีงานทำที่ดี มีฐานะดี มีชื่อเสียง
การเรียนของผมส่วนใหญ่ใช้กา รท่องจำมากกว่าความเข้าใจ เพื่อให้สอบผ่านและได้คะแนน ดี
ในระดับปริญญาตรี วิชาเอกของผมคือคณิตศาสตร์ วิชาโทคือภาษาอังกฤษ ผมยังคงใช้ความจำมากกว่าควา มเข้าใจ
โดยเฉพาะวิชาเอกของผม ผมเรียนด้วยความทุกข์และกัง วลใจเกรงว่าจะสอบตก ในวิชาเอกหลายวิชา ผมถามอาจารย์ว่าเรียนไปทำไม คำตอบที่เป็นมาตรฐานคือ เอาไว้เรียนต่อขั้นสูงต่อไป
การศึกษาระดับประถมถึงปริญญ าตรี ยิ่งสูงขึ้นยิ่งห่างจากชีวิ ตและสังคมมากขึ้น เป็นวิชาการมากขึ้น เฉพาะทางมากขึ้น เตรียมตัวเพื่อการประกอบอาช ีพมากขึ้น แข่งขันและเห็นแก่ตัวมากขึ้ น
ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ผมเรียนทางด้านจิตวิทยาการศ ึกษา ผมรู้สึกสนุก และท้าทายมากขึ้นเพราะเริ่ม เข้าใกล้ชีวิต เข้าใจมนุษย์และสังคมมากขึ้ น
แต่หลักสูตรสมัยที่ผมเรียนเ น้นการวิจัยและให้ความสำคัญ กับการวิจัยเชิงทดลอง เน้นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ผมคิดเป็นระบบเพิ่มมาก ขึ้น มีความก้าวร้าวทางวิชาการมา กขึ้น มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเรียน และรู้ เชื่อว่าสิ่งที่เรียน สิ่งที่รู้เป็นสิ่งที่ถูกต้ อง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
แต่เมื่อได้ทุนจุฬาฯ ไปเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทย าลัยมินนิโซต้าทางด้านปรัชญ าการศึกษา มุมมองเกี่ยวกับชีวิต โลก ความจริง ความดี ความงามของผมก็เปลี่ยนไป
กว้างขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น ตั้งคำถามมากขึ้น หาคำตอบที่หลากหลายมากขึ้น อะไรควร อะไรไม่ควร อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรงาม อะไรไม่งาม เริ่มเป็นคำถามสำคัญมากกว่า ความรู้และวิธีแสวงหาความรู ้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพิ่มมากขึ้น
ยิ่งเมื่อมีโอกาสได้เรียนเก ี่ยวกับการศึกษาและการวิจัย อนาคต ความคิดความเชื่อเกี่ยวกับค วามจริงก็เปลี่ยนไปอีก ยิ่งมองกว้างและไกลออกไปในอ นาคตมากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้แยกอนาคตออกจากป ัจจุบันและอดีต ทุกอย่างรวมทั้งเวลาล้วนสัม พันธ์เชื่อมโยงเป็นองค์รวมแ ละไหลเลื่อนเคลื่อนไป
อดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและ ผ่านไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ อนาคตเป็นสิ่งที่สามารถสร้า งได้ โดยเริ่มตั้งแต่ปัจจุบัน
แต่การศึกษากระแสหลักดูเหมื อนจะเน้นเนื้อหาความรู้ในอด ีตมากกว่าแนวโน้มในอนาคต เน้นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ ้นมากกว่าการสร้างอนาคต ใช่หรือไม่
...ยิ่งเรียนสูง ยิ่งรู้ลึก แต่โง่กว้าง ใช่หรือเปล่า"
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน
การศึกษากระแสหลัก ที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำด้
Q1 - การศึกษาในกระแสหลักเน้นกระ
Q2 - สถาบันการศึกษามองผู้เรียนเ
Q3 - หลักสูตร โดยเฉพาะระดับปริญญาโท ปริญญาเอก มีลักษณะสำเร็จรูป เร่งรัด เรียนลัด ใช่หรือเปล่า?
Q4 - สถาบันการศึกษาเป็นแหล่งผลิ
Q5 - เน้น “การรู้” และ “การไล่ให้ทัน” การเปลี่ยนแปลง มากกว่า “การรู้เท่าทัน” การเปลี่ยนแปลง ใช่หรือไม่?
Q6 - การศึกษายิ่งระดับสูงมากขึ้
Q7 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นการแ
Q8 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นความ
Q9 - มีผู้สอนกับผู้ถูกสอน แต่ไม่มีผู้เรียนรู้อย่างแท
Q10 - มีผู้สอบกับผู้ถูกสอบ แต่ไม่มีผู้เรียนรู้อย่างแท
Q11 - เน้นการเรียน เน้นการรู้ แต่ไม่เน้นการเรียนรู้อย่าง
Q12 - เน้นการสอน (การบรรยายถ่ายทอดเนื้อหา) มากกว่าการคิด และกระบวนการเรียนรู้ ใช่หรือเปล่า?
Q13 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นปัญห
Q14 - การศึกษาในปัจจุบันเน้นเรื่
◌◌◌◌◌◌◌◌
Life 101 นำเสนอ...ตัวอย่าง การตกผลึก-ใคร่ครวญ-ทบทวน 'ชีวิตการศึกษา" ของ 'ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน' แห่งคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ
"การศึกษาระดับประถมและมัธย
การเรียนของผมส่วนใหญ่ใช้กา
ในระดับปริญญาตรี วิชาเอกของผมคือคณิตศาสตร์ วิชาโทคือภาษาอังกฤษ ผมยังคงใช้ความจำมากกว่าควา
โดยเฉพาะวิชาเอกของผม ผมเรียนด้วยความทุกข์และกัง
การศึกษาระดับประถมถึงปริญญ
ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ผมเรียนทางด้านจิตวิทยาการศ
แต่หลักสูตรสมัยที่ผมเรียนเ
แต่เมื่อได้ทุนจุฬาฯ ไปเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทย
กว้างขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น ตั้งคำถามมากขึ้น หาคำตอบที่หลากหลายมากขึ้น อะไรควร อะไรไม่ควร อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรงาม อะไรไม่งาม เริ่มเป็นคำถามสำคัญมากกว่า
ยิ่งเมื่อมีโอกาสได้เรียนเก
แต่ก็ไม่ได้แยกอนาคตออกจากป
อดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและ
แต่การศึกษากระแสหลักดูเหมื
...ยิ่งเรียนสูง ยิ่งรู้ลึก แต่โง่กว้าง ใช่หรือเปล่า"
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน
...........................................................................................................
Fedexfc Jjronnote
ไอ้ความคิดที่ว่า แพ้เพราะโกงเนี่ย มันไม่สร้างสรรค์นะครับ แล้วสุดท้าย แม่งจะเป็นการริดรอนคุณค่าของระบอบประชาธิปไตยเสียเปล่าๆ คือถ้าคุณมีหลักฐานว่ามีการโกงอะไร ก็ไปแจ้ง กกต. แจ้งความดำเนินคดี กันตามหลักฐานครับ ไอ้การพูดกันลอยๆแบบนี้ แม่งไม่มีเหี้ยอะไรดีเลย สุดท้าย มันจะสนับสนุนความคิดบ้าๆ ที่ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ทางออก เสียเปล่าๆ ตรึกตรองดูให้ดี
และที่สำคัญ แม่งเป็นสันดานที่แมงสาปใช้กันเป็นประจำ ... ตกลงเสื้อแดงต่างกับแมงสาปตรงที่ไหน ตรงที่ว่าเป็นฝุ่นใต้ตีนอำมาตย์ หรือฝุ่นใต้ตีนทักษิณ แค่นั้นหรือ ?
--มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวไว้--
......................................................................................................
Prapas Cholsaranon
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเรียกมันได้หลายชื่อ
ในวันที่เรารวดร้าว เราเคยเรียกขานมันว่า"ความผิดพลาด"
แต่ในวันที่มันเป็นผู้ถือธงนำเราสู่ความสมหวัง
เรากลับตั้งชื่อมันใหม่ว่า"ประสบการณ์"
ถ้าวันนี้มันโผล่มาในชื่อแรก อย่าเพิ่งชังมันเร็วนัก
กอดคอมันไว้ แล้ววันหนึ่งเราจะได้หาเสาไม้เล็กๆ และผ้าสักผืน เย็บเป็นธงให้มัน
...................................................................................................................
...................................................................................................................
คดีปรส.จะหมดอายุความ 21 มิถุนายน 2556 เหลือเวลาอีก 109
ในเรื่องคดีความของ ปรส. ที่ขายทรัพย์สินมูลค่า 851,000 ล้าน ประมูลขายไปเพียง 190,000 ล้าน
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่พล เอกชวลิตเป็นนายกรัฐรัฐมนตร ี ช่วงที่ค่าเงินบาทลอยตัวนั้ น และปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ในขณะกำลังวิกฤต พลเอกชวลิตก็ได้สั่งปิดสถาบ ันการเงิน 56 ไฟแนนซ์ แล้วตั้ง ปรส. ขึ้นมาเพื่อที่จะให้มาดูแล 56 ไฟแนนซ์ เพื่อที่จะแยกหนี้ดีและหนี้ เสียออกจากกัน แต่ยังไม่ทันทำเสร็จ รัฐบาลพลเอกชวลิตก็พ้นไป และได้รัฐบาล ปชป. มาเป็นรัฐบาล โดยมีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกและมีนายธานิน นิมมานเหมินท์ เป็น รมว.คลัง และได้มีการประมูลขายทรัพย์ สินของ ปรส. โดยให้เอกชนเข้ามาประมูลทรั พย์สิน มูลค่าทรัพย์สิน 851,000 ล้าน เอกชนประมูลไปแค่ 190,000 ล้าน โดยไม่แยกว่าหนี้ดีมีอยู่เท ่าไร หนี้เสียมีอยู่เท่าไร โดยให้เหมาเข่งไปเลย ผิดกับนโยบายของพลเอกชวลิต ที่ตั้ง ปรส. ให้แยกหนี้ออกมาก่อน ในส่วนหนี้ดีก็จะประมูลขายไ ด้ราคา หนี้เสียก็แยกไว้ ประเทศจะได้ไม่เสียหายเป็นแ สนๆ ล้าน ยกตัวอย่างเคสหนึ่ง ยอดค้างทางบัญชีอยู่ 115,890.96 ล้าน - ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านพฤติกรรมแบบนี้เป็นที่เ ข้าใจได้ว่ามีขบวนการฮั้วปร ะมูลกันใน ปรส. และผู้ประมูลรวมไปถึงนักการ เมืองผู้มีอำนาจในขณะนั้น ได้ร่วมกันวางแผนในการประมู ล
นี่เอาแค่เคสเดียว ขาดทุนไป 93,436 ล้าน คดีนี้อยู่ที่ ปปช. และจะหมดอายุวันที่ 21 มิถุนายน 2556 นี้ เหลือเวลาอีก 3 เดือนกว่า ก็จะหมดอายุความ ถ้า ปปช. ไม่ทำอะไรและปล่อยให้คดีนี้ หมดอายุ ปปช. จะรับผิดชอบอย่างไร ประชาชนกำลังกังวลว่าจะไปเห มือนคดี 258 ล้าน ของTPI และ 29 ล้าน จะปล่อยให้หมดอายุความโดยเป ็นการช่วย ปชป. แบบไร้ยางอายและสังคมรับไม่ ได้
ในเรื่องคดีความของ ปรส. ที่ขายทรัพย์สินมูลค่า 851,000 ล้าน ประมูลขายไปเพียง 190,000 ล้าน
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่พล
นี่เอาแค่เคสเดียว ขาดทุนไป 93,436 ล้าน คดีนี้อยู่ที่ ปปช. และจะหมดอายุวันที่ 21 มิถุนายน 2556 นี้ เหลือเวลาอีก 3 เดือนกว่า ก็จะหมดอายุความ ถ้า ปปช. ไม่ทำอะไรและปล่อยให้คดีนี้
.............................................................................................................................
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1362021476&grpid=03&catid=17&subcatid=1700
............................................................................................................................
................................................................................................................................
การพี้กัญชา เป็นสิ่งปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้จำเพาะตนโดยแท้
ผู้ใดดูดควันเข้าถึงปอด ผู้นั้นเห็นเอง แจ่มแจ้งเอง หมดสงสัยในฤทธิ์คานาบินอยด์ ได้โดยสิ้นเชิง
มิฉะนั้นแล้วจะต้องเดาเอาอย ู่ร่ำไป แม้จะมีไอ้ขี้ยาอธิบายให้ลึ กซึ้งอย่างไร
ก็รู้ได้แบบเดา ไม่อาจเคลิบเคลิ้มเข้าถึงคว ามเบาสบายปลอดโปร่งได้
------
ในทางกลับกัน สิ่งที่มีคุณสมบัติเป็นปัจจ ัตตัง ก็ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าจ ะดีเสมอไป
การผลักภาระในการพิสูจน์ไปใ ห้ผู้ตั้งข้อสงสัย ใครๆ ก็ทำได้ ผู้รู้แจ้งควรทำได้ดีกว่านั ้น
การกล่าวอ้างที่ยิ่งใหญ่ ต้องมาพร้อมการพิสูจน์ที่ยิ ่งใหญ่
ถ้าอวดสรรพคุณไว้วิเศษดีเลิ ศ แต่พอถามแล้วตอบได้เพียงว่า "ลองแล้วจะรู้เอง"
มันคือ โฆษณาชวนเชื่อ
//Virus
ผู้ใดดูดควันเข้าถึงปอด ผู้นั้นเห็นเอง แจ่มแจ้งเอง หมดสงสัยในฤทธิ์คานาบินอยด์
มิฉะนั้นแล้วจะต้องเดาเอาอย
ก็รู้ได้แบบเดา ไม่อาจเคลิบเคลิ้มเข้าถึงคว
------
ในทางกลับกัน สิ่งที่มีคุณสมบัติเป็นปัจจ
การผลักภาระในการพิสูจน์ไปใ
การกล่าวอ้างที่ยิ่งใหญ่ ต้องมาพร้อมการพิสูจน์ที่ยิ
ถ้าอวดสรรพคุณไว้วิเศษดีเลิ
มันคือ โฆษณาชวนเชื่อ
//Virus
.............................................................................................................





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น