เสียงก้องจากนิติราษฎร์ "วรเจตน์" ทวงถาม นิรโทษกรรม "รัฐบาลคิดทำ ศก.ให้ดี ผมว่าแค่นั้นไม่พอ"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1364027334&grpid=09&catid=16
..............................................................................................................
.................................................................................................................
หัวเราะไม่ออกกับการทำงานด้ านการประชาสัมพันธ์ของพรรคเ พื่อไทย (รัฐบาลไทยนั่นแหละ)
เป็นมาตั้งแต่สมัยทักกี้เป็ นนายกฯ แล้ว คือ ไม่มีคนพูดจาพอจะจับประเด็น ได้ว่า "ไอ้นี่หรืออีนี่" มันพูดในนาม "รัฐบาล" นะ
คนๆ นี้ได้รับฉันทานุมัติจาก "นายกรัฐมนตรี" นะ
ทุกคำพูดที่แถลงเสมือนออกมา จาก "ปาก" รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีนะ
เห็นไอ้นี่พูดอย่าง ไอ้นั่นพูดอีกอย่าง พออีกวัน อีนั่นบอกที่ไอ้นั่นพูดไม่ไ ด้หมายความตามที่พูด และที่ไอ้นี่พูดก็ไม่ได้เกี ่ยวข้องกับรัฐบาล และอีนั่นที่ออกมาพูดก็ไม่ไ ด้แถลงการณ์ใดๆ ว่า ไอ้ๆ อีๆ ที่ออกมาพูด ตกลง "ชุดข้อมูล" ใดมันเชื่อถือได้และสมควรนำ เผยแพร่
สมัยทักกี้ ทักกี้ปากเปราะ ปากเร็ว ใครพูดมาก็สวน ก็เป็นทั้งข้อดีข้อด้อย ข้อดีคือไอ้พวกที่ลือๆ หลอนๆ ให้ชาวบ้านฟังจะได้หุบปาก ส่วนข้อด้อยก็อาจจะมีคนไม่พ อใจ
มารัฐบาลชุดนี้ "เลวร้าย" กว่าทักกี้อีก เพราะไอ้อาการ "เงียบ" มันแสดงให้เห็นว่า "โง่"
คุณกลัวอะไรกับการที่ต้องสื ่อสารกับประชาชนครับ?
คุณเป็น "รัฐบาลไทย" มีหน้าที่อะไรก็ทำไป แต่อย่างหนึ่งที่คุณต้องทำ คือทำให้ "บ้านเมือง" นี้ มีชุดข้อมูลที่เป็น "ทางการ" ชุดเดียว
จะมีข้อมูลเท็จ ลวง ลือ กระพือ โหม กี่สิบกี่ร้อยชุด ก็ช่าง
แต่ "คุณ" ต้อง "ประกาศ" ว่ามีชุดข้อมูลที่เป็น "ทางการ" เพียงชุดเดียว
สัปดาห์ที่ผ่านมา "หุ้นตก" เอาง่ายๆ มีคนสนิทยิ่งลักษณ์ฯ บอกว่า "มีคนปล่อยข่าว"
แล้ว "รู้" ด้วย ว่าเป็น "คนในตลาดหลักทรัพย์"
ฮั่นแน่........ ความชิบหาย (ถ้าสมมติว่ามันเกิดนะครับ) มันก็ได้เกิดสำเร็จไปแล้ว ตอนนี้ดันมา "แถลง" ว่า "มีข่าวลือ" มาทุบหุ้น เพื่อ "ขับไล่รัฐบาล"
อีตอนมีข่าวลือ "อม" ส้น.....อะไรไว้ครับ?? ทำไมไม่ออกมา "ให้ข่าว"
ทำไมไม่ให้ข้อมูลเพื่อระงับ ความ "เสียหาย"?
เหมือนสถานะการณ์ในภาคใต้เป ี๊ยบ ระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว คนตายไปแล้ว เผลอๆ ฝังเสร็จไปแล้วด้วย
รัฐมนตรี แม่ทัพนายกอง หัวหน้า ขุน เบี้ย บอกว่า "ได้รับทราบการข่าวทางลึกมา แล้วว่าจะมีการก่อเหตุในช่ว งนี้"
ถ้าสมัยวัยรุ่นผมคงให้ kวย ไปแล้วครับ
คุณรู้มั้ย? (ไม่ไอ้อยากเล็คเช่อร์หรอกเ พราะแต่ละท่านเก่งๆ กันเหลือเกิน เก่งกันจนทำงานกันไม่ได้เรื ่อง) ทำเนียบขาว เขาจะตั้ง Press Secretary เพื่อให้ข่าวอย่างเป็น "ทางการ" กับ "สื่อสารมวลชน"
เหมือน กองโฆษก โฆษกประจำสำนักนายกฯ นี่แหละครับ
แต่เขาทำงานกันเนี๊ยบมาก
ทำเนียบขาวจะมี "หัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบข าว" หรือ White House Chief of Staff เขามีหน้าที่ "กว้างขวาง" และค่อนข้างมี "อิทธิพล" อิทธิพลในที่นี้คือมี "เส้นสาย" และ "รู้จัก" คนเยอะแยะมากมาย
นอกจากหน้าที่ในทำเนียบ เรื่องเล็กเรื่องน้อยเช่นจ้ างใคร ทำอะไร อย่างไร และล็อบบี้สภาฯ แล้ว หน้าที่ที่สำคัญของ "หัวหน้าฯ" คือ "รักษาผลประโยชน์ประธานาธิบ ดี" และ "ให้คำปรึกษาประธานาธิบดี" เพราะเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดป ระธานาธิบดีที่สุด
บ้านเราก็มี เหมือนที่สื่อสารมวลชนให้สม ญานั่นแหละครับ
"นายกฯ น้อย" หน้าที่ก็ไม่ได้แตกต่าง
ไอ้ที่แตกต่างคือ "ศักยภาพ" ของแต่ละบุคคล
ข่าว คนและสายโทรศัพท์ทุกสายที่จ ะถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องผ่าน "หัวหน้าฯ" เพื่อกลั่นกรอง วินิจฉัย และสั่งการ (ในบางเรื่องที่เล็กน้อย)
ผมไม่แน่ใจว่าในเมืองไทย "สายโทรศัพท์" ทุกสายที่เข้ามา ผ่าน "นายกฯ น้อย" หรือไม่ และการทำงานของนายกฯ น้อย ทำอย่างไร มี "อำนาจ" แค่ใหน
แต่ดู "ประสิทธิภาพ" แล้ว "ไม่ผ่าน" ครับ
พวกคุณเป็น "รัฐบาล" จำคำพูดนี้เอาไว้ และ "พูดกรอกหู" ตัวเองทุกเช้าที่หน้ากระจกก ่อนออกจากบ้าน
และสั่งการให้หัวหน้าหน่วยร าชการทุกหน่วยงานในประเทศนี ้ ตั้งแต่ระดับกรมขึ้นมา รายงานเรื่อง "ทุกเรื่อง" ที่ "กระทบ" กับภาพรวม "ในการบริหารงานประเทศ" ให้กับ "นายกรัฐมนตรี"
ถ้า "รัฐบาล" ไม่สั่งให้ทำ "ใคร" ละครับที่จะมีอำนาจสั่ง??
นี่ผมไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุไฟ ไหม้ศูนย์อพยพคนตายไปสี่สิบ กว่าคน มีหัวหน้าส่วนราชการไทยคนไห นโทรฯ ไปรายงานนายกฯ หรือยังไม่ทราบ
และถ้ารายงานไปแล้ว ทำไม "กองโฆษก" (สากกะเบือดิน) ทำอะไรบ้าง ให้ข้อมูลใดแก่สาธารณะบ้างว ่า "นายกฯ ได้รับทราบและเร่งให้ทุกหน่ วยงานดำเนินการช่วยเหลือ"
ซึ่ง "มันควร" จะเป็นอย่างนี้
เครื่องไม้เครื่องมือในการส ื่อสารกับประชาชนมีเยอะแยะค รับ ใช้ซิครับ
ทีเวลาถ่ายรูปอาหาร รูปนั่นรูปนี้มาลงได้ แค่ทีมงานกระซิบข้างหูนายกฯ และ "ถ่ายทอด" ออกมาว่า "ผู้นำของพวกตน" คิดเห็นอย่างไร ต่อเหตุการณ์เร่งด่วนใดๆ แล้วพิมพ์ออกมาสู่สาธารณะเป ็น "ออฟฟิเซียล" หน่อยเท่านั้น
คงไม่มีใคร "ตาย" กระมัง
ภาษานิเทศน์ฯ เรียกการสื่อสารล้มเหลวว่า Communication Breakdown แต่ไอ้การ "ไม่สื่อสารห่าอะไรเลย" ไม่รู้ว่าภาษานิเทศน์ฯ เรียกว่าอะไร? - #NO112
เป็นมาตั้งแต่สมัยทักกี้เป็
คนๆ นี้ได้รับฉันทานุมัติจาก "นายกรัฐมนตรี" นะ
ทุกคำพูดที่แถลงเสมือนออกมา
เห็นไอ้นี่พูดอย่าง ไอ้นั่นพูดอีกอย่าง พออีกวัน อีนั่นบอกที่ไอ้นั่นพูดไม่ไ
สมัยทักกี้ ทักกี้ปากเปราะ ปากเร็ว ใครพูดมาก็สวน ก็เป็นทั้งข้อดีข้อด้อย ข้อดีคือไอ้พวกที่ลือๆ หลอนๆ ให้ชาวบ้านฟังจะได้หุบปาก ส่วนข้อด้อยก็อาจจะมีคนไม่พ
มารัฐบาลชุดนี้ "เลวร้าย" กว่าทักกี้อีก เพราะไอ้อาการ "เงียบ" มันแสดงให้เห็นว่า "โง่"
คุณกลัวอะไรกับการที่ต้องสื
คุณเป็น "รัฐบาลไทย" มีหน้าที่อะไรก็ทำไป แต่อย่างหนึ่งที่คุณต้องทำ คือทำให้ "บ้านเมือง" นี้ มีชุดข้อมูลที่เป็น "ทางการ" ชุดเดียว
จะมีข้อมูลเท็จ ลวง ลือ กระพือ โหม กี่สิบกี่ร้อยชุด ก็ช่าง
แต่ "คุณ" ต้อง "ประกาศ" ว่ามีชุดข้อมูลที่เป็น "ทางการ" เพียงชุดเดียว
สัปดาห์ที่ผ่านมา "หุ้นตก" เอาง่ายๆ มีคนสนิทยิ่งลักษณ์ฯ บอกว่า "มีคนปล่อยข่าว"
แล้ว "รู้" ด้วย ว่าเป็น "คนในตลาดหลักทรัพย์"
ฮั่นแน่........ ความชิบหาย (ถ้าสมมติว่ามันเกิดนะครับ)
อีตอนมีข่าวลือ "อม" ส้น.....อะไรไว้ครับ?? ทำไมไม่ออกมา "ให้ข่าว"
ทำไมไม่ให้ข้อมูลเพื่อระงับ
เหมือนสถานะการณ์ในภาคใต้เป
รัฐมนตรี แม่ทัพนายกอง หัวหน้า ขุน เบี้ย บอกว่า "ได้รับทราบการข่าวทางลึกมา
ถ้าสมัยวัยรุ่นผมคงให้ kวย ไปแล้วครับ
คุณรู้มั้ย? (ไม่ไอ้อยากเล็คเช่อร์หรอกเ
เหมือน กองโฆษก โฆษกประจำสำนักนายกฯ นี่แหละครับ
แต่เขาทำงานกันเนี๊ยบมาก
ทำเนียบขาวจะมี "หัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบข
นอกจากหน้าที่ในทำเนียบ เรื่องเล็กเรื่องน้อยเช่นจ้
บ้านเราก็มี เหมือนที่สื่อสารมวลชนให้สม
"นายกฯ น้อย" หน้าที่ก็ไม่ได้แตกต่าง
ไอ้ที่แตกต่างคือ "ศักยภาพ" ของแต่ละบุคคล
ข่าว คนและสายโทรศัพท์ทุกสายที่จ
ผมไม่แน่ใจว่าในเมืองไทย "สายโทรศัพท์" ทุกสายที่เข้ามา ผ่าน "นายกฯ น้อย" หรือไม่ และการทำงานของนายกฯ น้อย ทำอย่างไร มี "อำนาจ" แค่ใหน
แต่ดู "ประสิทธิภาพ" แล้ว "ไม่ผ่าน" ครับ
พวกคุณเป็น "รัฐบาล" จำคำพูดนี้เอาไว้ และ "พูดกรอกหู" ตัวเองทุกเช้าที่หน้ากระจกก
และสั่งการให้หัวหน้าหน่วยร
ถ้า "รัฐบาล" ไม่สั่งให้ทำ "ใคร" ละครับที่จะมีอำนาจสั่ง??
นี่ผมไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุไฟ
และถ้ารายงานไปแล้ว ทำไม "กองโฆษก" (สากกะเบือดิน) ทำอะไรบ้าง ให้ข้อมูลใดแก่สาธารณะบ้างว
ซึ่ง "มันควร" จะเป็นอย่างนี้
เครื่องไม้เครื่องมือในการส
ทีเวลาถ่ายรูปอาหาร รูปนั่นรูปนี้มาลงได้ แค่ทีมงานกระซิบข้างหูนายกฯ
คงไม่มีใคร "ตาย" กระมัง
ภาษานิเทศน์ฯ เรียกการสื่อสารล้มเหลวว่า Communication Breakdown แต่ไอ้การ "ไม่สื่อสารห่าอะไรเลย" ไม่รู้ว่าภาษานิเทศน์ฯ เรียกว่าอะไร? - #NO112
......................................................................................................
วันนี้ทีมงาน Life 101 ได้รับโอกาสจากบริษัท `ทีวีบูรพา´ให้มาร่วมเรียนร ู้ ในช่วงบันทึกเทป-ถ่ายทำรายก าร `ถอดรหัสชีวิต...คนค้นฅน´
โดยมีไอดอลของเรามาเป็นผู้ถ อดรหัสในวันนี้ ...พี่เช็ค สุทธิพงษ์ และ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ (ผู้เขียนหนังสือ เดินสู่อิสรภาพ ที่เพจเราเคยนำเสนอไปเมื่อ February 18 ) และมี พี่ประสาน เป็นพิธีกร
วันนี้ `ฅนต้นเรื่อง´ ที่ทางรายการฯ หยิบยกมาถอดรหัส คือ...
`ปู่เย็น´ เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี ผู้ล่วงลับ
◌◌◌◌◌◌◌◌
`ปู่เย็น´ ชายชราอายุร้อยกว่าปี ที่นั่งอยู่ในใจใครหลายๆ คนทั่วประเทศ ผู้มีลำตัวงองุ้ม ศีรษะโพกผ้าสะระบั่นเพื่อยื นยันความเป็นมุสลิม
ชอบนั่งหัวเราะ อ้าปากหวอ กระดูกไม่ค่อยดี เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยหอ บ ผิวหนังเหี่ยวย่นใช้เหงือกแ ทนฟันในการบดข้าว
มีวิถีชีวิตอยู่บนเรือลำเล็ กๆ ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 5 เมตร ซึ่งแกใช้เป็นทั้งเรือนงานแ ละเรือนนอนต่อเนื่องเป็นเวล าหลายสิบปี
จวบจนวันที่ปู่เย็นสิ้นลมหา ยใจ จากโลกนี้ไปในวัย 108 ปี พร้อมกับฝากตำนานผู้ไม่เคยย อมแพ้เป็นแบบอย่างที่ดีงามใ ห้พวกเราอีกตราบนานเท่านาน. ..
◌◌◌◌◌◌◌◌
ย้อนกลับไปคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 รายการ "คนค้นฅน" ได้หยิบยกชีวิตชายชรา ซึ่งขณะนั้นอายุ 105 ปี ที่อยู่อย่างพอเพียง เรียบง่าย และทรนงตน มานำเสนอให้เป็นข้อคิด กับประโยคเด็ดๆ...
"ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากิ นเองได้ ประสาอะไรกับคน มีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย"
นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เป็นชาวเพชรบุรี นับถือศาสนาอิสลาม บิดาชื่อนายสุข แก้วมณี มารดาชื่อนางชม แก้วมณี เดิมประกอบอาชีพรับจ้างเลี้ ยงวัว
สำหรับชีวิตครอบครัวปู่เย็น แต่งงานใช้ชีวิตอยู่กินกับ "ย่าเอิบ แก้วมณี" ชาวไทยพุทธแถวจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ โดยไม่มีฝ่ายใดได้เปลี่ยนศา สนา ซึ่งทั้งสองครองรักกันยืนยา ว
ชีวิตบั้นปลายของปู่เย็น หวังเพียงแค่จะมีความสุขในบ ้านเช่าหลังเล็กๆ กับคู่ชีวิต แต่ทว่า...จู่ๆ ย่าเอิบก็ล้มป่วยลง และเสียชีวิตจากปู่เย็นไปใน วัย 94 ปี
ตอนนั้นชายชราคนหนึ่ง ร้องไห้กับการจากไปของหญิงช ราคนหนึ่งนาน 3 เดือน
และนับจากวันที่ย่าเอิบจากไ ป ปู่เย็นก็ออกจากบ้านเช่าราค าเดือนละ 800 บาท
ขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่ กี่ชิ้น มาอยู่บ้านหลังใหม่ ไม่มีเสา ไม่มีหลังคา ยาว 5 เมตร กว้าง 1 เมตร
ซึ่งบ้านของปู่เย็นเป็นเพีย งเรือลำเล็กๆ ลอยลำอยู่ในแม่น้ำเพชรบุรีน ับตั้งแต่นั้น...
◌◌◌◌◌◌◌◌
ปู่เย็นใช้ชีวิตอยู่บนเรือ และ เลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหา ปลา เหลือกินก็ขายถูกๆ ไม่ต้องมีตาชั่ง
20-30 บาท ปู่ก็ขายแลกกับเงินเพื่อประ ทังชีพโดยไม่นึกว่าจะต้องพึ ่งใคร ทั้งๆ ที่ปู่เย็นเองก็มีญาติสนิทม ิตรสหาย แต่ปู่เย็นให้เหตุผลง่ายๆ ว่า "เกรงใจเขา"
ทุกวันปู่จะจอดเรือนั่งๆ นอนๆ อยู่ใต้สะพานลำใย ซึ่งทอดเชื่อมระหว่างบ้านหม ้อกับตลาดวัดท่อ
พอเย็นๆ ก็จะเริ่มพายเรือออกไปหาที่ วางอวน ปู่จะกู้อวนคืนละ 2 ครั้ง ดึกๆ ครั้งหนึ่ง ...รุ่งเช้าอีกครั้งหนึ่ง
พอได้ปลา... ปู่ก็จะเอาใส่กะละมังหิ้วขึ ้นมาขายที่ตลาดวัดท่อในตอนเ ช้า ก่อนเดินกลับลงไปพักผ่อน ชมเวลาเลือนผ่านชีวิตไปโดยไ ม่วิตกทุกข์ร้อน หรือไม่ก็ซ่อมอวนอยู่ในเรือ นเรือ
ปู่ไม่ชอบให้ใครสงสารปู่ ...แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น
ปู่มักจะขายปลาที่นับวันยิ่ งหายากในราคาถูกๆ คนที่มาซื้อเห็นปู่ขายถูก ยิ่งขอซื้อให้ถูกเข้าไปอีก ....แต่ปู่ก็ไม่ว่าอะไร
นานปีทีหน จึงจะมีคนใจดีซื้อปลาไม่กี่ ตัวให้เงินเกินมา ไม่เอาเงินที่ปู่ทอนกลับไป
แบบนี้ปู่ไม่ว่าอะไร ....แต่ถ้าใครให้ปู่ฟรีๆ มีปัญหาทันที
◌◌◌◌◌◌◌◌
มีคนเคยถามว่า ทำไมปู่ไม่ไปขอความเมตตาจาก ใครๆ เขา คนแก่ๆ ยังไงๆ ใครๆ ก็สงสาร
ปู่บอกว่า...
"ไม่เอาไม่ชอบที่สุด ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือมีตีนมันยังหากินได ้เอง (รู้จักมั้ยหอยน่ะ…ปู่ย้ำ) ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย"
ปู่คิดและเชื่อแบบนี้ แต่มีคนมากมายที่ไม่ได้คิดแ ละเชื่อแบบปู่ ปู่อาจดูโง่และน่าดูหมิ่นดู แคลนในสายตาของคนเหล่านั้น ...แต่ปู่ไม่มีวันหมิ่นแคลน ตัวเอง
ขณะปู่อยู่ในเรือ...คนเหล่า นั้นอาจกำลังนั่งถือขันอยู่ ตามสะพานลอย หรือไม่ก็กำลังข่มขู่ทุบตีเ พศแม่ที่เป็นเมีย ตอนที่ตัวเองกำลังเมากำลังข ูดรีด โก่งราคา จี้ปล้นฉ้อ โกง ฮั้วสัมปทาน เล่นแร่แปรหุ้นในตลาดเงิน
ไม่ว่าความฉลาด ความโง่ ความดี ความชั่ว ความนับถือ และการให้ค่าในการมีชีวิตแน ่นอนว่าคนพวกนั้นต่างกับปู่
ขณะที่ปู่คิดว่า...คนเราไม่ ว่าเฒ่าชะแรแก่ชราแค่ไหน หากยังมีลมหายใจ ก็ต้องพยายาม อยู่ให้ได้ด้วยลำแข้งของตัว เอง โดยไม่เอารัดเอาเปรียบและเบ ียดเบียนใคร
◌◌◌◌◌◌◌◌
ปู่อาจไม่รู้จักคำว่า `ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์´ ในหัวสมองปู่อาจไม่มีคำว่า. .ชีวิตที่สง่างาม ความหยิ่งทะนง
แต่ปู่มีสิ่งเหล่านี้อยู่ใน ชีวิต ซึ่งบางทีคนที่ใช้คำเหล่านี ้บ่อยๆ เสียอีกที่ชีวิตไม่มีสิ่งเห ล่านี้
ปู่เบียดบังชีวิตตัวเองได้ แต่ไม่เคยเอาเปรียบเบียดบัง ชีวิตคนอื่น
หน่วยกิตสุดท้ายที่ปู่ตั้งใ จว่าจะทำให้ได้ คือ หาเงินอีก 3 พันบาทเพื่อไปรวมกับที่มีอย ู่แล้ว 7 พันบาท จากการเก็บสะสมมาชั่วชีวิตเ พื่อให้ได้ครบหมื่น
ปู่คิดว่าถ้ามีเงินถึงหมื่น กินแบบเขียมๆ คงจะพอกินไปจนตาย
ไม่รู้ปู่คิดในใจไว้แล้วรึย ังว่าจะตายตอนอายุเท่าไหร่ เพื่อให้ได้เงิน 3 พัน ...ปู่ต้องพายเรือจากอำเภอท ่ายางมายังเมืองเพชร เป็นระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร
ซึ่งต้องแวะค้างอ้างแรมริมฝ ั่งหนึ่งคืน ปู่บอกแบบไม่อนาทร ไปเรื่อยๆ อยากนอนตรงไหนก็จอดนอนตรงนั ้น
ไม่ร้อนใจ...จอดนอนตรงไหนก็ ลงอวนตรงนั้น ...ปล่อยวาง ...ได้ก็ช่าง ไม่ได้ก็ช่าง
◌◌◌◌◌◌◌◌
» สรุป สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก `ปู่เย็น´
โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากม าย ทั้งการสื่อสารที่ทันสมัย ทั้งความเจริญก้าวหน้าทางวั ตถุ ปัญหาสังคมก็ทวีความรุนแรงย ิ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่ภาพของความน่ารักของปู่เ ย็น ผู้เฒ่าผู้มีจิตใจงดงาม ทำให้พวกเราได้ชื่นใจ ได้รู้สึกสะดุดใจ และประทับใจกับคำพูดของปู่ ที่ดูจะพูดอย่างตรงไป ตรงมาแต่ก็แฝงไว้ซึ่งแนวคิด ที่น่าสนใจมากมาย....
- พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่ละโมบโลภมาก อยากได้ อยากมี
- คิดถึงใจเขาใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเร าอย่างไร...ก็อย่าทำอย่างนั ้นกับเขา
- มีความทะนงในศักดิ์ศรีของตน ไม่รับของใครง่ายๆ โดยปราศจากเหตุผลหรือ เหตุแห่งน้ำใจ เพราะเราไม่ใช่ขอทาน
- มีน้ำใจ ...ยินดีแบ่งต้นยาในกระถางใ ห้คนอื่นจนเกือบหมด
- มัธยัสถ์ของเก่ายังใส่ได้ปู ่ไม่ทิ้งเลย....บอกว่าอยู่ด ้วยกันมานาน (ชอบคำนี้จัง)
- อดทนแม้จะเจ็บบ้าง ถ้าเป็นคนแก่ทั่วไปจะต้องกา รการเอาใจใส่ แต่ปู่บอกว่าแผลนิดเดียว เดี๋ยวก็หาย
- รู้จักกาละเทศะ ตอนที่พยาบาลมาทำแผลให้แกไม ่ยอมให้ทำแผลที่เท้า ปู่บอกว่าเท้าเป็นของต่ำ ไม่ให้เขาทำหรอก
- คำนึงถึงคนอื่น ...อย่างกลัวคนมาเยี่ยมลำบา ก แกจะไปนั่งรออยู่บนสะพาน อย่างถ้าปู่จะไม่รับของก็กล ัวคนอื่นจะคิดมาก
- พอใจในสิ่งที่ตนมี ปู่ไม่เห็นอยากได้อะไรมากกว ่าที่แกมีอยู่เลย ทั้งๆ ที่มีคนอยากเอามาให้เยอะแยะ แต่ปู่ดูจะมีความสุขกับที่แ กเป็นอยู่
- มีอารมณ์ขันตลก จริงใจ พูดตรงไปตรงมา
◌◌◌◌◌◌◌◌
นี่แหละ ...ชีวิตที่มีคุณค่า
ทีมงาน Life 101
ยิงสดจาก...สตูดิโอ ทีวีบูรพา
โดยมีไอดอลของเรามาเป็นผู้ถ
วันนี้ `ฅนต้นเรื่อง´ ที่ทางรายการฯ หยิบยกมาถอดรหัส คือ...
`ปู่เย็น´ เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี ผู้ล่วงลับ
◌◌◌◌◌◌◌◌
`ปู่เย็น´ ชายชราอายุร้อยกว่าปี ที่นั่งอยู่ในใจใครหลายๆ คนทั่วประเทศ ผู้มีลำตัวงองุ้ม ศีรษะโพกผ้าสะระบั่นเพื่อยื
ชอบนั่งหัวเราะ อ้าปากหวอ กระดูกไม่ค่อยดี เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยหอ
มีวิถีชีวิตอยู่บนเรือลำเล็
จวบจนวันที่ปู่เย็นสิ้นลมหา
◌◌◌◌◌◌◌◌
ย้อนกลับไปคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 รายการ "คนค้นฅน" ได้หยิบยกชีวิตชายชรา ซึ่งขณะนั้นอายุ 105 ปี ที่อยู่อย่างพอเพียง เรียบง่าย และทรนงตน มานำเสนอให้เป็นข้อคิด กับประโยคเด็ดๆ...
"ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากิ
นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เป็นชาวเพชรบุรี นับถือศาสนาอิสลาม บิดาชื่อนายสุข แก้วมณี มารดาชื่อนางชม แก้วมณี เดิมประกอบอาชีพรับจ้างเลี้
สำหรับชีวิตครอบครัวปู่เย็น
ชีวิตบั้นปลายของปู่เย็น หวังเพียงแค่จะมีความสุขในบ
ตอนนั้นชายชราคนหนึ่ง ร้องไห้กับการจากไปของหญิงช
และนับจากวันที่ย่าเอิบจากไ
ขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่
ซึ่งบ้านของปู่เย็นเป็นเพีย
◌◌◌◌◌◌◌◌
ปู่เย็นใช้ชีวิตอยู่บนเรือ และ เลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหา
20-30 บาท ปู่ก็ขายแลกกับเงินเพื่อประ
ทุกวันปู่จะจอดเรือนั่งๆ นอนๆ อยู่ใต้สะพานลำใย ซึ่งทอดเชื่อมระหว่างบ้านหม
พอเย็นๆ ก็จะเริ่มพายเรือออกไปหาที่
พอได้ปลา... ปู่ก็จะเอาใส่กะละมังหิ้วขึ
ปู่ไม่ชอบให้ใครสงสารปู่ ...แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น
ปู่มักจะขายปลาที่นับวันยิ่
นานปีทีหน จึงจะมีคนใจดีซื้อปลาไม่กี่
แบบนี้ปู่ไม่ว่าอะไร ....แต่ถ้าใครให้ปู่ฟรีๆ มีปัญหาทันที
◌◌◌◌◌◌◌◌
มีคนเคยถามว่า ทำไมปู่ไม่ไปขอความเมตตาจาก
ปู่บอกว่า...
"ไม่เอาไม่ชอบที่สุด ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือมีตีนมันยังหากินได
ปู่คิดและเชื่อแบบนี้ แต่มีคนมากมายที่ไม่ได้คิดแ
ขณะปู่อยู่ในเรือ...คนเหล่า
ไม่ว่าความฉลาด ความโง่ ความดี ความชั่ว ความนับถือ และการให้ค่าในการมีชีวิตแน
ขณะที่ปู่คิดว่า...คนเราไม่
◌◌◌◌◌◌◌◌
ปู่อาจไม่รู้จักคำว่า `ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์´ ในหัวสมองปู่อาจไม่มีคำว่า.
แต่ปู่มีสิ่งเหล่านี้อยู่ใน
ปู่เบียดบังชีวิตตัวเองได้ แต่ไม่เคยเอาเปรียบเบียดบัง
หน่วยกิตสุดท้ายที่ปู่ตั้งใ
ปู่คิดว่าถ้ามีเงินถึงหมื่น
ไม่รู้ปู่คิดในใจไว้แล้วรึย
ซึ่งต้องแวะค้างอ้างแรมริมฝ
ไม่ร้อนใจ...จอดนอนตรงไหนก็
◌◌◌◌◌◌◌◌
» สรุป สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก `ปู่เย็น´
โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากม
แต่ภาพของความน่ารักของปู่เ
- พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่ละโมบโลภมาก อยากได้ อยากมี
- คิดถึงใจเขาใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเร
- มีความทะนงในศักดิ์ศรีของตน
- มีน้ำใจ ...ยินดีแบ่งต้นยาในกระถางใ
- มัธยัสถ์ของเก่ายังใส่ได้ปู
- อดทนแม้จะเจ็บบ้าง ถ้าเป็นคนแก่ทั่วไปจะต้องกา
- รู้จักกาละเทศะ ตอนที่พยาบาลมาทำแผลให้แกไม
- คำนึงถึงคนอื่น ...อย่างกลัวคนมาเยี่ยมลำบา
- พอใจในสิ่งที่ตนมี ปู่ไม่เห็นอยากได้อะไรมากกว
- มีอารมณ์ขันตลก จริงใจ พูดตรงไปตรงมา
◌◌◌◌◌◌◌◌
นี่แหละ ...ชีวิตที่มีคุณค่า
ทีมงาน Life 101
ยิงสดจาก...สตูดิโอ ทีวีบูรพา
......................................................................................................................
ครูบ่น สมศ. เอากระดาษมาวัดความเป็นครู
ผู้ปกครองบ่น เด็กโดนอัดการบ้านตั้งแต่ปอ หนึ่ง
เด็กบ่นเบื่อโรงเรียน
ผู้บริหารบ่น กระทรวงเอาแต่สั่งไม่ดูสภาพ จริง
กระทรวงบ่น การศึกษาล้มเหลว
ผู้ประกอบการบ่น เด็กจบปอตรีทำงานไม่เป็น
สังคมบ่น ยาเสพติด ความรุนแรงในเยาวชน
แล้วจะรอทำไมครับ
ผู้ปกครองบ่น เด็กโดนอัดการบ้านตั้งแต่ปอ
เด็กบ่นเบื่อโรงเรียน
ผู้บริหารบ่น กระทรวงเอาแต่สั่งไม่ดูสภาพ
กระทรวงบ่น การศึกษาล้มเหลว
ผู้ประกอบการบ่น เด็กจบปอตรีทำงานไม่เป็น
สังคมบ่น ยาเสพติด ความรุนแรงในเยาวชน
แล้วจะรอทำไมครับ
......................................................................................................................
เรื่องนรกสวรรค์และเรื่องเว ียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระหร ือ? หรือมีไว้สำหรับหลอกคนโง่?
เป็นเรื่องจริงที่สุด ช่วยเป็นพยานด้วยว่า อาตมาพูดเรื่องนรกเรื่องสวร รค์นี่เป็นเรื่องจริงที่สุด เรื่องเวียนว่ายตายเกิดนี่จ ริงที่สุด แต่มันมีความหมายไม่เหมือนก ับที่เขารู้ หรือเขาพูด หรือเขาสอนกันอยู่ก็ได้ ร้อนเป็นไฟคือนรก สนุกสนานพอใจก็เป็นสวรรค์ เวียนว่ายตายเกิดนี้เปลี่ยน อยู่เสมอ เรามีความคิดอย่างนี้ เราเป็นคนชนิดนี้ เดี๋ยวเราก็เปลี่ยนความคิดอ ย่างอื่น เป็นคนชนิดอื่น แม้ไม่ต้องตายเข้าโลง มันก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่ภ ายในนี้จริงกว่า จริงกว่าที่ว่าจะมีหรือจะถึ งต่อตายแล้ว ที่มันรู้สึกอยู่กับใจนี้จร ิงกว่านรก จริงกว่าสวรรค์ จริงกว่าเวียนว่ายตายเกิด จริงกว่า ส่วนนรกสวรรค์เวียนว่ายตายเ กิด ชนิดที่ต่อตายแล้วหลังจากตา ยแล้วนี่ เราไม่มีหน้าที่ที่จะพูด เพราะว่า เขาพูดกันอย่างนี้ก่อนพุทธก าล
เราไม่อยากพูดขัดแย้งกับคนเ หล่านั้น นั่นจริง สำหรับคนพวกนั้น ที่จริงสำหรับคนพวกนี้แล้วก ็ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ถ้ามองในแง่ศีลธรรมก็ไม่ ได้มีไว้หลอกใครหรอก มีไว้สั่งสอนด้วยความหวังดี ให้เขามีศีลธรรมไม่ได้เจตนา หลอก ส่วนทางปรมัตถธรรมยิ่งไม่หล อก เพราะว่ามันรู้สึกได้จริง ความทุกข์ที่ร้อนเป็นไฟอยู่ ในใจก็รู้สึกได้จริง ไม่ทุกข์ก็รู้สึกได้จริง จึงไม่ใช่เรื่องหลอกเรา คำอธิบายมีหลายอย่าง
พุทธทาส อินทปัญโญ
เป็นเรื่องจริงที่สุด ช่วยเป็นพยานด้วยว่า อาตมาพูดเรื่องนรกเรื่องสวร
เราไม่อยากพูดขัดแย้งกับคนเ
พุทธทาส อินทปัญโญ
....................................................................................................................
เจาะข่าวตื้น ตอน 94 ไส้กรอกแมว Gwiyomi
ขำ สนุก มีประเด็นน่าสนใจ ^^
http://jorkawteun.spokedark.tv/
...................................................................................................................
The Ammat Strikes Back: หน้าเหล้าหน้าข้าวจะเสิร์ฟแล้ว พวกที่ถูกกันอยู่นอกภัตตาคารจึง กระเหี้ยนกระหือรือจะคว่ำโต๊ะ
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ปฏิกิริยาของเครือข่ายอนุรักษนิ ยมขวาจัดฝ่ายค้านต่อกรณีรายการต อบโจทย์, กรณีปปช.สอบสวนการแจ้งสินทรัพย์ ของนายกฯยิ่งลักษณ์, กรณีกกต.กทม.จะตรวจสอบนายกฯยิ่ง ลักษณ์ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศหาเสียง ผู้ว่าฯกทม., กรณี ๔๐ สว.และศาลรธน.แสดงท่าทีต่อการเส นอแก้ไขรธน.รายมาตราและพรบ.เงิน กู้๒ล้านล้านบาท ฯลฯ เหล่านี้
เอาเข้าจริง เป้าหลักที่แท้คือขัดขวางหรือโค ่นรัฐบาลไม่ให้ผ่านพรบ.กู้เงิน ๒ ล้านล้านเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานคมนาคม (ดู 40 ส.ว. ค้านแน่ แก้รธน.-กู้๒ล้านล้าน รอจังหวะชงศาลตีความhttp://www.thairath.co.th/ content/pol/333951)
เพราะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้น ฐานขนาดยักษ์มูลค่ารวม ๔ ล้านล้านบาท (กู้ ๒ ล้านล้าน, งบฯของหน่วยราชการต่าง ๆ สมทบอีก ๒ ล้านล้าน) นี้มีศักยภาพจะเปลี่ยนไม่เพียงร ะบบเศรษฐกิจไทย (จากประเทศรายได้ปานกลาง --> ประเทศรายได้สูง) แต่อาจพลิกโฉมภูมิทัศน์การเมือง ไทยในระยะยาวไปเลยทีเดียว
กล่าวคือโอกาสความมั่งคั่งทางเศ รษฐกิจและการเลื่อนชั้นทางสังคม ที่จะถูกสร้างและแผ่กระจายออกไป จะยกฐานะชาวนารายได้ปานกลาง/ คนชั้นกลางระดับล่างจำนวนมากขึ้น ไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะกลางเป็นฐานเสียงและฐานนโ ยบายอันแน่นหนามั่นคงแก่พรรคเพื ่อไทย/ เครือข่ายทักษิณไปอีกเป็นสิบปี.. .สิบ ๆ ปี
ฝ่ายตรงข้ามทักษิณย่อมไ่ม่อยากเ ห็นการพลิกเกมขึ้นเป็นต่อทางยุท ธศาสตร์การเมืองเศรษฐกิจระยะยาว ดังกล่าว และหาทางขัดขวางทุกวิถีทาง ตั้งแต่ล้มรัฐบาล ขัดขาให้สะดุด ไปจนถึงชุบมือเปิบเข้ามาบริหารจ ัดการเงินกู้มหาศาลนี้เอง
ชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม .ช่วยเพิ่มความมั่นใจที่ถดถอยไป พักใหญ่ของเครือข่ายอนุรักษนิยม ขวาจัดให้ฟื้นคืนมาหลังความปราช ัยหมดรูปของม็อบเสธฯอ้าย อย่างไรก็ตาม การรุกนี้มีทั้งจุดอ่อนจุดแข็งเ ชิงพื้นฐานบางอย่างอยู่
จุดอ่อน: กลุ่มทุนต่าง ๆ และสังคมเศรษฐกิจ/ ธุรกิจไทยโดยรวมมีท่าทียินดีต้อน รับโครงการเมกะโปรเจคต์ลอจิสติค ส์ ๔ ล้านล้านบาทดังกล่าว หลังจากเศรษฐกิจชะงักงันเสียโอก าสไปเพราะรัฐประหารและความขัดแย ้งการเมืองเสื้อสีแบบอนาธิปไตยห ลายปี อาการเบื่อการเมืองสุดโต่งขัดแย ้ง และรู้สึกว่าได้เวลาเดินหน้าทาง เศรษฐกิจโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐ านที่ไม่ได้ลงทุนพัฒนามาหลายปี สอดรับกับจังหวะ AEC ที่กำลังจะเข้ามา ให้ความหวังและโอกาสใหม่ ๆ ที่ยั่วใจล่อใจพวกเขาให้ยอมรับย ุทธศาสตร์และการนำทางเศรษฐกิจขอ งรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างมาก
จุดแข็ง: คอร์รัปชั่นมีแน่ไม่ต้องห่วง ไม่เชิงเพราะความชั่วช้าทุจริตข องบุคคลหรือกลุ่ม (ซึ่งมีเป็นธรรมดาทุกฝ่ายนั่นแห ละ...) แต่เพราะว่า
๑) รัฐไทยและราชการไทยดังที่เป็นอย ู่อ่อนแอเกินกว่าจะทำโครงการมูล ค่ามหาศาลขนาดนั้นโดยไม่ทุจริตไ ด้ มันเหลือวิสัย เกินสมรรถภาพของรัฐราชการรวมศูน ย์ของไทยที่จะดูแลบริหารจัดการเ งินลงทุนและงบประมาณมหึมาขนาดนี ้อย่าง "สะอาดโปร่งใส" คือไม่มีปัญญาว่างั้นเถอะนะครับ ในความหมายเดียวกับที่รัฐไทยและ ราชการไทยไม่มีปัญญารับมือน้ำท่ วมปลายปี ๒๕๕๔ นั่นแหละ แม้แต่โครงการกระจิบกระจอกเงินร ะดับหมื่นล้านอย่างปรับปรุงก่อส ร้างโรงพักทั่วประเทศของตำรวจเอ ง ยังทำกันตุกติกเลอะเทอะจนเละตุ้ มเป๊ะอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ นั่นแค่หมื่นล้าน แล้ว ๔ ล้านล้านล่ะ? ความโปร่งใส การตรวจสอบถ่วงดุลโดยพลังภาคประ ชาสังคมและภาคประชาชนต่ออำนาจรว มศูนย์ของรัฐบาลและราชการ ศักยภาพในการตามเช็คบิลของปปช., รัฐสภา ฯลฯ ล้วนไม่พอจะรับมือป้องกันการทุจ ริตได้ถี่ถ้วนไหว เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ
๒) ขณะเดียวกัน ฝ่ายธุรกิจเอกชนที่ออกมารณรงค์ต ่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น ก็ย่อมพอใจที่จะหาทางลดค่าธุรกร รมที่ไม่จำเป็นและฉ้อฉลจากการทุ จริตของภาคการเมืองและราชการลง แต่กับโครงการลงทุนใหญ่มูลค่ามห าศาลขนาดนี้ และกับอำนาจรวมศูนย์ที่กุมเหนือ โครงการในมือฝ่ายการเมืองและฝ่า ยราชการประจำขนาดนี้ การใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อหล่อลื ่นการลงทุนให้สะดวกเป็นค่าใช้จ่ ายที่คำนวณไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วแ ละยินดีจ่ายให้ด้วยซ้ำไปเพราะค่ าเสียหายจากความล่าช้าถูกเตะถ่ว งนั้นสูงกว่าเป็นไหน ๆ
ในภาวะเช่นนี้ วาระปฏิรูปเพื่อสิทธิเสรีภาพและ ประชาธิปไตยของประชาราษฎรย่อมถู กจัดวางไว้ชายขอบเวทีต่อไป ขณะที่ตรงใจกลาง จะเป็นเรื่องของศึกยุทธศาสตร์เศ รษฐกิจโครงการ ๔ ล้านล้านบาทที่จะเป็นก้อนเค้กหล ัก โดยมีประเด็นการเมืองกฎหมายอื่น ๆ เป็นการรบย่อยแบบจรยุทธ์และพร่า กำลัง (เสียงก้องจากนิติราษฎร์ "วรเจตน์" ทวงถาม นิรโทษกรรม "รัฐบาลคิดทำ ศก.ให้ดี ผมว่าแค่นั้นไม่พอ"http://www.prachachat.net/ news_detail.php?newsid=13640273 34&grpid=09&catid=16)
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ปฏิกิริยาของเครือข่ายอนุรักษนิ
เอาเข้าจริง เป้าหลักที่แท้คือขัดขวางหรือโค
เพราะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้น
กล่าวคือโอกาสความมั่งคั่งทางเศ
ฝ่ายตรงข้ามทักษิณย่อมไ่ม่อยากเ
ชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม
จุดอ่อน: กลุ่มทุนต่าง ๆ และสังคมเศรษฐกิจ/
จุดแข็ง: คอร์รัปชั่นมีแน่ไม่ต้องห่วง ไม่เชิงเพราะความชั่วช้าทุจริตข
๑) รัฐไทยและราชการไทยดังที่เป็นอย
๒) ขณะเดียวกัน ฝ่ายธุรกิจเอกชนที่ออกมารณรงค์ต
ในภาวะเช่นนี้ วาระปฏิรูปเพื่อสิทธิเสรีภาพและ
...................................................................................................................
..................................................................................................................
...................................................................................................................................
Robson Mendonça เป็นชาวบราซิล ที่อยู่ในเมือง เซา โปโล ตอนนี้เขาอายุ 61 ปีแล้ว
Mendonça เคยถูกลักพาตัวและถูกปล้น ต้องสูญเสียเมียและลูกไปกับ อุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาจึงกลายมาเป็นคนเร่ร่อนบ นถนน
และด้วยความชอบอ่านหนังสือ ทำให้ Mendonça พบการถูกรังเกียจในเวลาที่เ ขาเดินเข้าห้องสมุดสาธารณะ แถมยังไม่สามารถยืมหนังสืออ อกได้ เพราะไม่มีสิทธิทำบัตรห้องส มุด
นี่เอง เขาจึงริเริ่มโครงการที่ชื่ อว่า Bicicloteca (เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า "จักรยาน" และ "ห้องสมุด") โดยใช้สามล้อคันหนึ่งบรรทุก หนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนวนิยาย หนังสือกฎหมาย และศาสนา เขาออกตระเวนไปตามท้องถนน เพื่อให้คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ได้ยืมหนังสือไปอ่าน โดยมีตารางไปตามถนนสายต่างๆ ในวันจันทร์ถึงศุกร์
ตอนนี้ห้องสมุดของเขามีหนัง สือประมาณ 17,000 เล่ม ที่ได้รับบริจาคมาจากที่ต่า งๆ และแต่ละวัน มีคนมายืมหนังสือจากเขาประม าณ 300 เล่ม และ 90% ของหนังสือที่ถูกยืมไปจะได้ รับคืนมาสู่ห้องสมุด
Mendonça เคยถูกลักพาตัวและถูกปล้น ต้องสูญเสียเมียและลูกไปกับ
และด้วยความชอบอ่านหนังสือ ทำให้ Mendonça พบการถูกรังเกียจในเวลาที่เ
นี่เอง เขาจึงริเริ่มโครงการที่ชื่
ตอนนี้ห้องสมุดของเขามีหนัง
................................................................................................................
...................................................................................................................
"แม้แต่ royalists ยังเห็นไม่เหมือนกันเรื่อง ม.112 แล้วทำไมคนอื่นจะเห็นต่างไม ่ได้?"
หลายคนออกมาโจมตีคนที่เห็นต ่างในเรื่องสถาบันฯและมาตรา 112 เสมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่ องที่คนไทย "ทุกคน" ต้องเห็นเหมือนกัน เห็นต่างไม่ได้เลย แต่หากเราไปดูความเห็นของคน ที่เรียกตัวเองว่า "royalists" เองก็ยังไม่เหมือนกันทั้งหม ดเลย ยกตัวอย่างในประเด็นมาตรา 112 ก็มีทั้งคนที่เห็นว่า "ไม่ควรแก้ไข" จะปกป้องด้วยชีวิต (ไม่แน่ใจว่าหากวันหนึ่งสภาโหวตแก้ไ ขจริงๆคนๆนี้จะทำอย่างไร) และคนที่เห็นว่า "ควรแก้ไข" เองก็มีไม่น้อย แต่ก็ยังเห็นหลากหลายว่าควร แก้เรื่องใดและแก้อย่างไร ตัวอย่าง เช่น
- นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เห็นว่าควรแก้โดยแยกการดูหม ิ่นออกจากอาฆาตมาดร้าย ให้โทษการดูหมิ่นไม่ถึง 3 ปี แต่สำหรับการอาฆาตมาดร้ายคว รเกิน 10 ปี [1]
- อานันท์ ปันยารชุน เห็นว่าควรแก้ในประเด็นใครไ ปแจ้งก็ได้ และเห็นว่าโทษสูงไปไม่เหมาะ สม [2]
- ธงทอง จันทรางศุ เห็นว่าโทษหนักเกินไป และยังมีปัญหาเรื่องการตีคว าม ทำให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือใ นทางการเมือง [3]
ตรงนี้มันสะท้อนอย่างชัดเจน ว่าคนไทยมีความเห็นที่หลากห ลายเรื่องสถาบันฯและมาตรา 112 และ "ความเห็นต่าง" ในประเด็นนี้อาจไม่ได้เกิด "ความเกลียด" หรือ "การอยากล้ม" สถาบันฯ แต่มันเป็นธรรมชาติของสังคม ที่จะเห็นต่างในทุกๆเรื่อง และความเห็นต่างนี้ก็ไม่จำเ ป็นต้องมีเจตนาร้าย แต่หลายข้อเสนอเป็นสิ่งที่พ ิสูจน์มาแล้วในประเทศอื่นว่ าทำให้สถาบันฯสามารถอยู่กับ การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม ่ได้อย่างไม่ขัดแย้งและมีคว ามเข้มแข็งในระยะยาวอีกด้วย
ความรักสถาบันฯอย่างเดียวไม ่อาจทำให้สถาบันฯอยู่อย่างม ั่นคงยืนยาวได้ แต่ต้องเป็นความรัก บวกเหตุผล และความเข้าใจในโลกยุคใหม่ด ้วย
อ้างอิง
[1] http://prachatai.com/ journal/2013/03/45861
[2] http://www.youtube.com/ watch?v=_E_FzeM3zwQ
[3] http://prachatai.com/ journal/2013/02/45056
- Admin AC & Ao
หลายคนออกมาโจมตีคนที่เห็นต
- นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เห็นว่าควรแก้โดยแยกการดูหม
- อานันท์ ปันยารชุน เห็นว่าควรแก้ในประเด็นใครไ
- ธงทอง จันทรางศุ เห็นว่าโทษหนักเกินไป และยังมีปัญหาเรื่องการตีคว
ตรงนี้มันสะท้อนอย่างชัดเจน
ความรักสถาบันฯอย่างเดียวไม
อ้างอิง
[1] http://prachatai.com/
[2] http://www.youtube.com/
[3] http://prachatai.com/
- Admin AC & Ao
..........................................................................................................
นี่เรียกว่าเป็นเรื่องเกิดม าจากอินเดีย จะเรียกว่า ศาสนาฮินดูเป็นแม่ ศาสนาพุทธเป็นพ่อ ก็ได้ ออกมาจากอินเดียทั้งนั้นแหล ะ ที่เรียกว่าไสยศาสตร์ นั้นก็ไม่ใช่เล่น เราถือไสยศาสตร์กันไปเกือบจ ะหมด ของสำหรับคนปัญญาอ่อน ของสำหรับเด็กๆ
เด็กๆไม่อาจจะรู้สูงได้ก็ถื อไสยศาสตร์ไปก่อน ฉะนั้นเด็กๆจึงได้รับคำสั่ง สอนให้เชื่อถืออย่างไสยศาสต ร์ นับถือผีสางเทวดา ภูตผีปีศาจกันไปก่อนแล้วจึง ค่อยมาถืออย่างสูงขึ้นมาเป็ นพุทธะล้วนๆ ไสยศาสตร์จึงฝังอยู่ในจิตใจ มาตั้งแต่เล็ก เรื่องของไสยศาสตร์มันทำให้ หายกลัวได้
ถ้าไม่มีความรู้อย่างพุทธศา สนา แล้วไสยศาสตร์ก็ไม่มี คนนั้นมันก็ว้าเหว่ มันจะเป็นบ้าเอาก็ได้ ไม่มีอะไรจะช่วยระงับความกล ัว ไสยศาสตร์แม้เป็นเรื่องงมงา ยอะไรก็เป็นที่พึ่งแก่คนปัญ ญาอ่อน หรือเป็นที่พึ่งแก่เด็กๆ ที่ในบ้านในเมืองไหนก็ตาม ประเทศไหนก็ตามเถอะ คนปัญญาอ่อนต้องมีมากมาย ดังนั้นไสยศาสตร์ต้องเก็บไว ้ เลิกไม่ได้นะ เอาไว้ให้คนปัญญาอ่อน เขาจะได้อุ่นอกอุ่นใจ แล้วก็ไม่เป็นโรคประสาท ไม่เป็นบ้า ไสยศาสตร์มันช่วยคุ้มคนปัญญ าอ่อน
พุทธศาสตร์ก็จูงคนปัญญาแก่ก ล้าไป ฉะนั้นยังต้องเก็บไสยศาสตร์ ไว้ให้คนปัญญาอ่อน มันจึงเลิกไม่ได้ เลิกไม่ได้จนกระทั่งเดี๋ยวน ี้ แม้ในกรุงเทพฯ ก็ต้องเก็บไสยศาสตร์ไว้เยอะ แยะสำหรับคนปัญญาอ่อน จะได้ใช้เป็นที่พึ่ง
คัดลอกบางส่วน ท่านพระพุทธทาส ภิกขุ
หนังสือ "ลิขิต พุทธทาส ถึงน้องชายโดยธรรม กรุณา กุศาสัย"
B
เด็กๆไม่อาจจะรู้สูงได้ก็ถื
ถ้าไม่มีความรู้อย่างพุทธศา
พุทธศาสตร์ก็จูงคนปัญญาแก่ก
คัดลอกบางส่วน ท่านพระพุทธทาส ภิกขุ
หนังสือ "ลิขิต พุทธทาส ถึงน้องชายโดยธรรม กรุณา กุศาสัย"
B
.................................................................................................................
เห็นไหม ด้วยพลังของเพจเราหุ้นมันร่
..........................
บางทีผมก็หมดคำจะสรรหามาบรร
การขับเคลื่อนประเทศต่อไปเร
จะไลค์หรือจะแชร์ก็พอ
...............................................................................................................
เราทนไม่ได้ที่เห็นการสอบใด ๆ มีการทุจริต
แต่เราทนได้ถ้ามีคนรู้จักฝา กลูกเราเข้าเรียนหรือฝากตัว เราเข้าทำงาน
เราทนไม่ได้ที่เห็นสัตว์หรื อคนถูกรังแกหรือทำร้าย
แต่เราทนได้ที่เห็นคนเห็นต่ างโดนกระทำย่ำยี ผ่านทางวาจาและการกระทำ
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนไม่ผิด ถูกตัดสินลงโทษจากศาลว่ามีค วามผิด
แต่เราทนได้ที่เห็นคนเห็นต่ างที่ยังไม่ถูกตัดสินว่ามีค วามผิดติดคุกติดตารางโดยไม่ ได้รับการประกันตัว
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนต่างชา ติตกระกำลำบากจากภัยธรรมชาต ิ
แต่เราทนได้ที่เห็นคนในชาติ ที่เห็นต่างได้รับทุกขเวทนา จากภาวะน้ำท่วมหรือภัยแล้ง
เราทนไม่ได้ที่เห็นสุนัขถูก จับไปขายตามแนวชายแดน
แต่เราทนได้ถ้าคนที่เห็นต่า งถูกจับดำเนินคดี
เราทนไม่ได้ที่เห็นรถติดเพร าะคนออกมาเดินขบวนเรียกร้อง อะไรซักอย่าง
แต่เราทนได้ถ้ารถติดเพราะมี ขบวนวีไอพี
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนไทยจำน วนหนึ่งไม่รักชาติบ้านเมือง
แต่เราทนได้กับการทำทุกวิถี ทางเพื่อไม่ให้ลูกหลานตัวเอ งต้องไปเป็นทหารเกณฑ์
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนต่างชา ติด่าว่าเราเป็นดินแดนแห่งก ารค้ากาม
แต่เราทนได้ที่เห็นคนต่างชา ติหอบเงินมาเที่ยวอาบอบนวด
เราทนไม่ได้ที่เห็นวิถีชนบท ของไทยจะหายไป
แต่เราทนได้ที่เห็นคนชนบทต้ มยาหม้อกินตามมีตามเกิดเพื่ อรักษาโรคของพวกตน
เราทนไม่ได้ที่เห็นรัฐบาลจะ สร้างคาสิโน
แต่เราทนได้ที่เห็นคนไทยต่อ แถวเป็นกิโลฯ เพื่อไปบ่อนเขมร
เราทนไม่ได้ที่เห็นพระมีข่า วเชิงชู้สาวกับผู้หญิง
แต่เราทนได้ที่เห็นพระเวียน เทียนบิณฑบาตหรือเดินเรี่ยไ รเงิน
เราทนไม่ได้ที่เห็นข่าวลือว ่ามีนักการเมืองโกงกิน
แต่เราทนได้ที่เห็นกลุ่มคนด ีบางกลุ่มอยู่กินกับงบประมา ณของรัฐโดยไม่มีการตรวจสอบใ ดๆ
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตนเ องรักถูกวิพากษ์วิจารณ์
แต่เราทนได้ที่เห็นคนที่ตนเ กลียดถูกวิพากษ์วิจารณ์
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนชั่วที ่ทำชั่วลอยนวล
แต่เราทนได้ที่เห็นคนดีที่ท ำชั่วลอยนวล
เราทนไม่ได้ที่เห็นเกษตรกรย ากจน
แต่เราทนได้ที่เห็นว่าราคาอ าหารกลางวันยังอยู่ที่ 25 บาท
เราทนไม่ได้ที่เห็นว่าประเท ศไทยยังไม่มีบริการ 3 จีใช้
แต่เราทนได้ที่เห็นคนในสังค มยังหมอบคลาน
ฯลฯ
ภาพ - http:// hancaquam.blogspot.com/
#NO112 #สกน #WTT
แต่เราทนได้ถ้ามีคนรู้จักฝา
เราทนไม่ได้ที่เห็นสัตว์หรื
แต่เราทนได้ที่เห็นคนเห็นต่
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนไม่ผิด
แต่เราทนได้ที่เห็นคนเห็นต่
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนต่างชา
แต่เราทนได้ที่เห็นคนในชาติ
เราทนไม่ได้ที่เห็นสุนัขถูก
แต่เราทนได้ถ้าคนที่เห็นต่า
เราทนไม่ได้ที่เห็นรถติดเพร
แต่เราทนได้ถ้ารถติดเพราะมี
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนไทยจำน
แต่เราทนได้กับการทำทุกวิถี
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนต่างชา
แต่เราทนได้ที่เห็นคนต่างชา
เราทนไม่ได้ที่เห็นวิถีชนบท
แต่เราทนได้ที่เห็นคนชนบทต้
เราทนไม่ได้ที่เห็นรัฐบาลจะ
แต่เราทนได้ที่เห็นคนไทยต่อ
เราทนไม่ได้ที่เห็นพระมีข่า
แต่เราทนได้ที่เห็นพระเวียน
เราทนไม่ได้ที่เห็นข่าวลือว
แต่เราทนได้ที่เห็นกลุ่มคนด
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตนเ
แต่เราทนได้ที่เห็นคนที่ตนเ
เราทนไม่ได้ที่เห็นคนชั่วที
แต่เราทนได้ที่เห็นคนดีที่ท
เราทนไม่ได้ที่เห็นเกษตรกรย
แต่เราทนได้ที่เห็นว่าราคาอ
เราทนไม่ได้ที่เห็นว่าประเท
แต่เราทนได้ที่เห็นคนในสังค
ฯลฯ
ภาพ - http://
#NO112 #สกน #WTT
................................................................................................................
หมูไทยจะหาม ญี่ปุ่นดันเอาคานเข้ามาสอด
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
JICA เสนอปรับแผนจัดการน้ำท่วม ไม่ต้องสร้างเขื่อน/ ฟลัดเวย์ ลดค่าใช้จ่ายจาก ๓.๕ แสนล้านเหนือ ๑.๙ แสนล้านบาท ชี้จริง ๆ อาจต้องจ่ายถึง ๕ แสนล้าน แต่รองนายกฯปลอดประสพไม่เอาด้วยกับข้อเสนอไจก้า ยืนยันต้องสร้างเขื่อน/ ฟลัดเวย์ตามเดิม
http://www.seub.or.th/ index.php?option=com_content&vi ew=article&id=1008%3Aseubnews& catid=5%3A2009-10-07-10-58-20& Itemid=14
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
JICA เสนอปรับแผนจัดการน้ำท่วม ไม่ต้องสร้างเขื่อน/
http://www.seub.or.th/
...............................................................................................................
» “ความคิดเชิงลบ” เราจะพัฒนาให้เป็นพลังสร้าง สรรค์เชิงบวก...ได้อย่างไร ?
1. คิดให้ช้าลง!
ความคิดเชิงลบ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดโดยตัว เอง ...เพราะตราบใดที่ชีวิตยังเ ต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การระแวดระวังเตือนภัยก็ยัง คงคุณค่าสำคัญ
สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ... ความคิดเชิงลบที่มากล้นเกิน กว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะการนำเสนอของสื่อมว ลชน ที่ข่าวร้ายเพียง 1 ชิ้น ก็สามารถเวียนซ้ำไปเผยแพร่ไ ด้ในหลายช่องทาง ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และ อินเทอร์เน็ต
แม้ว่ามันสมองและสติปัญญาขอ งเราจะเข้าใจว่า...มันเป็นข ่าวชิ้นเดียวกัน แต่สัญชาติญาณระวังภัยที่อย ู่ลึกลงไปในจิตใจของเรา ก็ได้สะสม'ความเครียด' เข้าไปโดยไม่รู้ตัว ตามจำนวนครั้งที่ได้รับข่าว ร้ายนั้น
การรับมือกับความคิดเชิงลบท ี่ผ่านเข้ามาจากสื่อที่หลาก หลาย จึงไม่ใช่การบังคับตัวเองให ้ พยายามมองทุกอย่างในแง่บวกไ ปทั้งหมด
หากเป็นการปล่อยให้ข้อมูลที ่ได้รับมานั้น... มีเวลาย่อยสลาย มีเวลาใคร่ครวญทั้งด้านดีแล ะร้าย เพื่อให้ เกิดการตกผลึก เป็นความจริงของโลก
...ไม่ใช่ความจริงในสิ่งที่ เชื่อตามกันมา หรือ ความจริงที่เราต้องการให้เป ็น หรือแม้กระทั่ง...ความจริงท ี่เราไม่อยากให้เป็น
การคิดให้ช้าลง พูดให้น้อยลง แต่ ไตร่ตรองมากขึ้น ย่อมช่วยให้เราสามารถเก็บรา ยละเอียดของชีวิตได้ลึกล้ำก ว่าเดิม
หยั่งเห็นสิ่งละอันพันละน้อ ยที่เคยละเลยไปซึ่งจะนำไปสู ่ การสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณ ภาพสูงส่งกว่าเดิม
ในศตวรรษที่ 21 ที่โลกหมุนเร็วเช่นนี้...เร าอาจจะรู้สึกว่าการคิดและทำ อย่างสุขุมนุ่มลึก เป็นเรื่องที่ล้าสมัย เพราะจะไม่ทันเวลา
หากเรากลับลืม นึกไปว่าเราได้ใช้เวลาสูญเส ียไปกับเรื่องราวไร้สาระมาก มายเพียงใดในแต่ละวัน!
ดังนั้น... การคิดและทำให้ช้าลงจะเป็นเ ครื่องมือคัดกรองสิ่งที่ไม่ สำคัญออกไป... เพื่อจะได้ทุ่มเทให้กับสิ่ง ที่สำคัญที่สุดเท่านั้น
ให้เวลากับมันอย่างเต็มที่แ ละทำออกมาให้ประณีต
◌◌◌◌◌◌◌◌
2. อย่าปิดกั้นความคิดทั้งบวกแ ละลบ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติท ี่สร้างสรรค์
การพยายามหลีกหนีความคิดทั้ งบวกและลบ หรือพยายามบังคับฝืนใจ ตนเองให้ต้องคิดในด้านใดด้า นหนึ่งเท่านั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ ของมนุษย์อย่างที่สุด
ดังนั้นจึงไม่ใช่กลยุทธ์ที่ ดีในการขจัดความเครียด ที่เป็นผลมาจากการคิดลบซึ่ง เรากำลังเผชิญอยู่
เมื่อใดที่เรามองเรื่องราวห นึ่งในเชิงบวก จงพยายามหาแง่มุมที่เป็นลบม า ประกอบด้วย หรือ...เมื่อใดที่เรามองเชิ งลบจงพยายามหาแง่มุมที่เป็น บวก เข้ามาประกอบด้วย ก็น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีทีเ ดียว
อย่างไรก็ตาม ในโลกความจริงมีความซับซ้อน กว่านั้น บางทีไม่ใช่มีเพียงมุมลบหรื อบวกเท่านั้น...
หากยังมีมุมมองที่ 3 และ 4 มุมมองที่พิจารณาตามบริบทเว ลา วัฒนธรรมเศรษฐกิจ และการเมืองในขณะนั้น
การเปิดใจเพื่อสัมผัสประสบก ารณ์และความรู้ที่หลากหลายซ ึ่งผ่านเข้ามา... จึงเป็นช่องทางหนึ่งในการวิ เคราะห์ความจริงได้ลึกล้ำกว ่าเดิม
ความจริงที่ไปพ้นจากด้านบวก และลบซึ่งเป็นเพียงผิวเผินฉ าบฉวยเท่านั้น
จงอย่าปล่อยให้ความคิดของเร าติดกับแค่ความคิดบวกหรือลบ เท่านั้น...
หากยังต้องขยายมุมมองออกไปเ รียนรู้ในสิ่งที่กว้างขวาง ไม่ติดจำกัดกับสาขาอาชีพ ไม่ติดในกรอบคิดที่ชอบตัดสิ นอะไรล่วงหน้า
มนุษย์มีเวลาและความสามารถท ี่จำกัด ...การจะไปเรียนรู้ทุกสิ่งท ุกอย่างคง เป็นไปไม่ได้
ดังนั้น... การเลือกที่จะตอบสนองกับเหต ุการณ์ที่ผ่านเข้ามาจึงเป็น เรื่องที่สำคัญ
กลยุทธ์ในการเลือก...จึงเป็ นสิ่งที่จะตัดสินชะตาชีวิตเ รา
หากทว่าถึงที่สุดก็ ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรจะดีท ี่สุด แม้กระทั่งตัวเราเองที่เป็น เจ้าของชีวิตก็ตาม
ชีวิตไม่เคยเดินทางเป็นเส้น ตรง การเดินทางเข้าหาสิ่งที่รัก โดยทันที อาจ ไม่มีวันไปถึงได้
หากต้องผ่านสิ่งที่เกลียดสิ ่งที่เลวร้าย สิ่งที่มัวเมาลุ่มหลง สิ่งที่ออกนอกเส้นทางไปไกลเ พื่อจะกลับมาใหม่อย่างมีวุฒ ิภาวะ
แต่เมื่อไม่ค้นพบเหตุผลที่จ ำต้องทนแล้ว ก็จงรีบละทิ้งโดยเร็ว...เพร าะยังมี เรื่องตื่นเต้นเร้าใจมากมาย ซึ่งรอให้เราไปกระทำ
หากสิ่งใดทำแล้วได้ผลดี ทำแล้วมีความสุข แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสาขาที่เ รา ร่ำเรียนมา หรือเชี่ยวชาญเลยก็จงทำต่อไ ป เพราะมันอาจจะเป็นสิ่งที่ใช ่ก็ได้
สิ่งสำคัญคือ... ต้นทุนเวลา และ ต้นทุนทรัพยากร เราต้องรู้จักบริหารจัดการใ ห้เหมาะสม อย่าได้เสียเวลากับเรื่องใด เรื่องหนึ่งมากเกินไป
เพราะ สำหรับสิ่งที่ใช่แล้วนั้นเร าจะสัมผัสได้จากหัวใจว่าการ ทุ่มเททำงานของ เราจะมีประสิทธิภาพสูงยิ่ง
ทำน้อยแต่ได้ผลงานมาก นั่นคือ สิ่งที่ธรรมชาติได้ประทานให ้เราแล้ว
◌◌◌◌◌◌◌◌
3. คิดในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วย บรรยากาศสร้างสรรค์ ท่ามกลางมิตรสหายที่ดีเลิศ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซั บซ้อน ไม่เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ป้อ นข้อมูลเข้ามาแล้วจะได้คำตอ บเหมือนเดิมทุกครั้ง
ดังนั้น การเปลี่ยนสถานที่ในการคิด เปลี่ยนบรรยากาศในการใคร่คร วญ ก็อาจทำให้ปัญหาที่ดูเหมือน ตีบตันนั้น ได้คลี่คลายออกมา จนกระทั่งค้นพบคำตอบที่ยิ่ง ใหญ่
นอกจากสถานที่แล้วบุคคลที่แ วดล้อมเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งคนรัก ก็ยังมีอิทธิพลกับความคิดขอ งเราได้
ดังนั้น การจะเป็นคนที่สร้างสรรค์ คนที่ฉลาดเฉียบแหลม ก็ย่อมต้องรู้จักเลือกเฟ้น บุคคลรอบข้างให้หลากหลาย
ให้เป็นพลังเสริมประสานเราใ นการพัฒนา ศักยภาพตัวเองไปสู่จุดสูงสุ ดของชีวิต
หากยังรู้สึกว่าชีวิตมืดมิด อยู่ ก็จงจุดเทียนเล่มน้อยขึ้นอ่ านหนังสือดีๆ สัก เล่ม
เพราะบางทีวิธีโบราณแบบนี้ก ็อาจให้คำตอบตัวเราได้ดียิ่ งกว่าเทคโนโลยีล้ำยุค
ด้วยความปรารถนาดี
ทีมงาน Life 101
--------
Credit : Siam Intelligence
1. คิดให้ช้าลง!
ความคิดเชิงลบ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดโดยตัว
สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ... ความคิดเชิงลบที่มากล้นเกิน
แม้ว่ามันสมองและสติปัญญาขอ
การรับมือกับความคิดเชิงลบท
หากเป็นการปล่อยให้ข้อมูลที
...ไม่ใช่ความจริงในสิ่งที่
การคิดให้ช้าลง พูดให้น้อยลง แต่ ไตร่ตรองมากขึ้น ย่อมช่วยให้เราสามารถเก็บรา
หยั่งเห็นสิ่งละอันพันละน้อ
ในศตวรรษที่ 21 ที่โลกหมุนเร็วเช่นนี้...เร
หากเรากลับลืม นึกไปว่าเราได้ใช้เวลาสูญเส
ดังนั้น... การคิดและทำให้ช้าลงจะเป็นเ
ให้เวลากับมันอย่างเต็มที่แ
◌◌◌◌◌◌◌◌
2. อย่าปิดกั้นความคิดทั้งบวกแ
การพยายามหลีกหนีความคิดทั้
ดังนั้นจึงไม่ใช่กลยุทธ์ที่
เมื่อใดที่เรามองเรื่องราวห
อย่างไรก็ตาม ในโลกความจริงมีความซับซ้อน
หากยังมีมุมมองที่ 3 และ 4 มุมมองที่พิจารณาตามบริบทเว
การเปิดใจเพื่อสัมผัสประสบก
ความจริงที่ไปพ้นจากด้านบวก
จงอย่าปล่อยให้ความคิดของเร
หากยังต้องขยายมุมมองออกไปเ
มนุษย์มีเวลาและความสามารถท
ดังนั้น... การเลือกที่จะตอบสนองกับเหต
กลยุทธ์ในการเลือก...จึงเป็
หากทว่าถึงที่สุดก็ ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรจะดีท
ชีวิตไม่เคยเดินทางเป็นเส้น
หากต้องผ่านสิ่งที่เกลียดสิ
แต่เมื่อไม่ค้นพบเหตุผลที่จ
หากสิ่งใดทำแล้วได้ผลดี ทำแล้วมีความสุข แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสาขาที่เ
สิ่งสำคัญคือ... ต้นทุนเวลา และ ต้นทุนทรัพยากร เราต้องรู้จักบริหารจัดการใ
เพราะ สำหรับสิ่งที่ใช่แล้วนั้นเร
ทำน้อยแต่ได้ผลงานมาก นั่นคือ สิ่งที่ธรรมชาติได้ประทานให
◌◌◌◌◌◌◌◌
3. คิดในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วย
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซั
ดังนั้น การเปลี่ยนสถานที่ในการคิด เปลี่ยนบรรยากาศในการใคร่คร
นอกจากสถานที่แล้วบุคคลที่แ
ดังนั้น การจะเป็นคนที่สร้างสรรค์ คนที่ฉลาดเฉียบแหลม ก็ย่อมต้องรู้จักเลือกเฟ้น บุคคลรอบข้างให้หลากหลาย
ให้เป็นพลังเสริมประสานเราใ
หากยังรู้สึกว่าชีวิตมืดมิด
เพราะบางทีวิธีโบราณแบบนี้ก
ด้วยความปรารถนาดี
ทีมงาน Life 101
--------
Credit : Siam Intelligence
..............................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น