นาย ก : พม่าเตรียมเปิดท่าเรือน้ำลึกทวา ยครับ
นาย ข : แม่งเอ๊ย ถ้าไทยขุดคอคอดกระตั้งกะตอนนั้น พม่าไม่ได้เกิดหรอกครับ รัฐบาลแม่งไม่รู้ทำอะไรอยู่
นาย ก : เวียดนามสร้างรถไฟความเร็วสูงเส ร็จแล้วนะครับ
นาย ข : โห ไทยแม่งยังใช้รถไฟสมัย ร.5 อยู่เลยครับ ไม่รู้ต้องตามชาวบ้านไปอีกนานแค ่ไหน
นาย ก : แบบนี้เรากู้มาสร้างบ้างดีมั้ยค รับ
นาย ข : อีเหี้ย นี่มึงจะหาเรื่องแดกกันอีกแล้วเ หรอครับ
Cr : มิตรสหายท่านหนึ่ง
นาย ข : แม่งเอ๊ย ถ้าไทยขุดคอคอดกระตั้งกะตอนนั้น
นาย ก : เวียดนามสร้างรถไฟความเร็วสูงเส
นาย ข : โห ไทยแม่งยังใช้รถไฟสมัย ร.5 อยู่เลยครับ ไม่รู้ต้องตามชาวบ้านไปอีกนานแค
นาย ก : แบบนี้เรากู้มาสร้างบ้างดีมั้ยค
นาย ข : อีเหี้ย นี่มึงจะหาเรื่องแดกกันอีกแล้วเ
Cr : มิตรสหายท่านหนึ่ง
........................................................................................................
นางนากมีอยู่จริง "มีตัวตนจริง" "เป็นคนจริงๆ"
นางนาก มีการแต่งขึ้นหลายต่อหลายคร ั้ง ดัดแปลงซะจนภาพนางนากบิดเบี ้ยวไปหมดแล้ว หากเป็นแก้วน้ำก็คงจะใช้แล้ วใช้อีกจนยับยู่ยี่สืบหายี่ ห้อเดิมไม่ได้
แต่เรื่องแม่นากพระโขนงได้ม ีคุณอเนก นาวิกมูล สืบค้นจนคาดว่าต้นฉบับแรกน่ าจะแต่งโดย ก.ศ.ร.กุหลาบ ผู้แต่งเรื่องนางนาก แต่ถูกนำมาเผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2522 แต่อันที่จริงแล้วท่านได้เข ียนลงในหนังสือสยามประเภทตั ้งแต่ฉบับมีนาคม พ.ศ.2442 แล้ว
แฟนคลับของสยามประเภทได้ส่ง จดหมายถามความเรื่องนางนากว ่ามีความเป็นมาอย่างไร ก.ศ.ร.กุหลาบ จึงตอบว่า เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 อำแดงนาก เป็นลูกของขุนศรีนายอำเภอ บ้านอยู่ปากคลองพระโขนง เป็นเมียนายชุ่ม ต่อมาอำแดงนากคลอดลูกจนตาย นายชุ่มจึงเอาศพไปฝังที่ป่า ช้าวัดมหาบุศย์ ต่อมาจึงได้มีผีนางนากไปหลอ กแกล้งผู้คนจนทั่วพระโขนง แต่ผีนางนากที่ว่าไม่ใช่ “ผีจริง” แต่เป็น ผีปลอมที่เป็นลูกของนายชุ่ม เอง ได้แต่งตัวเป็นแม่ของตนหลอก ชาวบ้าน เพราะไม่อยากให้พ่อ(นายชุ่ม ) มีเมียใหม่ เรื่องนางนากฉบับนี้แสดงให้ เห็นสองประเด็นว่า
1.นางนากฉบับนี้เป็นเรื่องร าวตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 อันเป็นสมัยที่ ก.ศ.ร.กุหลาบเกิด
2. นางนากที่เรื่องที่คาดว่าเป ็นต้นฉบับนี้ “ไม่มีผีจริง” อำแดงนาก(นางนาก) มีตัวตนอยู่จริงสมัยรัชกาลท ี่ 3 แต่นางนากคนนี้ตายแล้วตายเล ย ไม่มีอะไรฟื้นมาหลอก ไอ้ที่หลอกหน่ะ ลูกเค้าหวงพ่อ
สมัยต่อมา นางนากเว่อร์ชั่นที่ 2 ออกมาอีก แต่งโดยรัชกาลที่ 6 นามปากกาว่า C.H.T แต่งเรื่อง “The Second of Phra-Kanong” เป็นภาษาอังกฤษ แต่แต่งไม่จบ เรื่องฉบับร.6 นี้ เป็นการสนทนากันระหว่าง ตัว C.H.T กับ ซิดนีย์ คิงส์เวลล์ ตำรวจลับสยาม
คิงส์เวลล์เล่าว่ามีผีนากพร ะโขนงตัวใหม่เกิดขึ้น คือ นางนากเป็นเมียนายขำ ซึ่งเป็นผู้มีเงินในสมัยนั้ น แต่นางนากได้ตายหลังจากการค ลอดลูก หลังจากนั้นนายขำก็อยากจะมี เมียใหม่ ประจวบเหมาะกับผีนางนากโผล่ ขึ้นมาพอดี พอคิงส์เวลล์ได้ลงไปสืบความ จากพื้นที่จริง.... เรื่องก็จบลงเท่านี้ เพราะร.6 ทรงแต่งไม่จบ
แต่หลังจากนั้น พ.ศ.2448 ร.6 ก็แต่งต่อจนจบ แต่คราวนี้เป็นตัวละครใหม่ห มด
โดยตัวละครยังเป็นตัวสืบเรื ่องนายทองอิน กับนักสืบเชลยศักดิ์ ชวนกันไปสืบเรื่องผีนางนาก ที่บ้านพันโชติ นายพันโชติมีเมียชื่อนาก ได้ตายไปแล้วเมื่อหลายปีก่อ น จึงอยากจะมีเมียใหม่ แต่ก็ได้รับจดหมายข่มขู่ว่า หากมีเมียใหม่จะได้เห็นดีกั น พอนักสืบทั้งสองสืบเรื่องต่ อไปจนพบความจริงว่า ผีนางนากที่ออกมาหลอกออกมาข ู่ ก็คือ นายชมลูกชายของนายพันโชติกั บนายปริกเพื่อนสนิท นายชมให้เหตุผลว่า “ไม่อยากให้พ่อมีเมียใหม่”
เรื่อง นางนาก ของ ร.6 จึงเหมือนเช่น ก.ศ.ร.กุหลาบ เป๊ะ เปลี่ยนเพียงแค่ตัวละครและเ นื้อเรื่องที่ดูสนุกขึ้น
ต่อมา พ.ศ.2455 เรื่องนางนากก็กลายมาเป็นบท ละครร้อง แต่งโดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ชื่อว่า “อีนากพระโขนง” และนางนากเวอร์ชั่นนี้เองที ่ได้เป็นต้นฉบับนางนากที่หล อกหลอนผู้คนยันปัจจุบันนี้
นางนากฉบับกรมนราธิปฯ ได้มีตัวละครใหม่ขึ้นมาคือ นายมาก ผัวอีนาก เรื่องมีอยู่ว่าอีนากตายทั้ งกลม พอไอ้มากกลับมาจากการเข้าเด ือนแล้ว ก็เจอผีนาก ที่รอรับสามีพร้อมลูก อยู่กันไปนานวันเข้าไอ้มากก ็พบว่าเมียตัวเองจริงๆ แล้วก็คือ “ผี” โดยจุดไคลแมกซ์อยู่ตรง ผีนากเอื้อมมือยาวยืดไปหยิบ ลูกมะเดื่อมาจิ้มน้ำพริกกิน
หลังจากฉบับกรมนราธิปฯ แล้ว นางนากก็กลายเป็นนิยายคำกลอ น ลำตัด ละครวิทยุ จนมาโลดแล่นอยู่ในจอภาพยนตร ์ครั้งแรกใน พ.ศ.2479 ชื่อว่า “นางนาคพระโขนง” สร้างโดย มรว.อนุศักดิ์ หัสดินทร
จะเห็นได้ว่า อันที่จริงแล้ว เรื่องนางนาก เป็น “เรื่องจริง” ที่เกิดขึ้นจริงมีนางนากเป็ นคนจริงๆ แต่เป็นเมียนายชุ่ม ไม่ใช่เมียไอ้มาก แต่ “ไม่ใช่ผีจริง” เพิ่งจะกลายเป็นผีจริงตามฉบ ับของกรมนราธิปฯ จนเมื่อนำไปทำเป็นภาพยนตร์ หลังจากนั้นอิทธิฤทธิ์อีนาก ก็หลอกหลอนคนไทยมาจนทุกวันน ี้
เรื่องนางนากจึงเป็นอีกตัวอ ย่างสำคัญที่สื่อบิดเบือนข้ อเท็จจริง อุปโลกน์เรื่องราวหาจุดขายเ พื่อผลความบันเทิง? และผลประโยชน์ส่วนตนขึ้นมา. ..
นางนาก มีการแต่งขึ้นหลายต่อหลายคร
แต่เรื่องแม่นากพระโขนงได้ม
แฟนคลับของสยามประเภทได้ส่ง
1.นางนากฉบับนี้เป็นเรื่องร
2. นางนากที่เรื่องที่คาดว่าเป
สมัยต่อมา นางนากเว่อร์ชั่นที่ 2 ออกมาอีก แต่งโดยรัชกาลที่ 6 นามปากกาว่า C.H.T แต่งเรื่อง “The Second of Phra-Kanong” เป็นภาษาอังกฤษ แต่แต่งไม่จบ เรื่องฉบับร.6 นี้ เป็นการสนทนากันระหว่าง ตัว C.H.T กับ ซิดนีย์ คิงส์เวลล์ ตำรวจลับสยาม
คิงส์เวลล์เล่าว่ามีผีนากพร
แต่หลังจากนั้น พ.ศ.2448 ร.6 ก็แต่งต่อจนจบ แต่คราวนี้เป็นตัวละครใหม่ห
โดยตัวละครยังเป็นตัวสืบเรื
เรื่อง นางนาก ของ ร.6 จึงเหมือนเช่น ก.ศ.ร.กุหลาบ เป๊ะ เปลี่ยนเพียงแค่ตัวละครและเ
ต่อมา พ.ศ.2455 เรื่องนางนากก็กลายมาเป็นบท
นางนากฉบับกรมนราธิปฯ ได้มีตัวละครใหม่ขึ้นมาคือ นายมาก ผัวอีนาก เรื่องมีอยู่ว่าอีนากตายทั้
หลังจากฉบับกรมนราธิปฯ แล้ว นางนากก็กลายเป็นนิยายคำกลอ
จะเห็นได้ว่า อันที่จริงแล้ว เรื่องนางนาก เป็น “เรื่องจริง” ที่เกิดขึ้นจริงมีนางนากเป็
เรื่องนางนากจึงเป็นอีกตัวอ
.................................................................................................................
"...ผู้มองโลกแง่ร้ายจะเห็น
ส่วนผู้มองโลกแง่ดีจะเห็นแต
.......................................................................................................................
อ่านข่าวที่บอกว่าคนไทยมีทั
http://
..................................................................................................................
ความสุขอยู่ที่ใด
ธามาดา
ฉันไม่มีความสุข...
ฉันไม่ชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันน่าเบื่อและไม่มีที ่สิ้นสุด
ฉันไม่ชอบเจ้านาย เพราะเขาไม่เคยคิดหรือทำอะไ รเองนอกจากชี้นิ้วสั่งกับดุ ด่าฉันเท่านั้น
ฉันไม่ชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเห มือนถูกบังคับให้ตื่นขึ้นมา เผชิญโลกที่โหดร้าย แต่ละสัปดาห์ของการทำงานดูร าวกับการคืบคลานไปท่ามกลางส นามรบ
ฉันไม่ชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกว่ าตัวเองเพิ่งทำงานไปได้วันเ ดียวยังมีอีกหลายวันที่โหดร ้ายรออยู่
ฉันไม่ชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่ นขึ้นมาพร้อมกับความล้าและพ บว่าเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงคร ึ่งทางเท่านั้น
ฉันไม่ชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเหนื่อยล ้าจากการทำงานมาตลอดหลายวัน แต่ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่ อไป พรุ่งนี้ก็ยังต้องทำงาน
ฉันไม่ชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันเหนื่อยจนแทบลุกจาก เตียงไม่ไหวแล้วแต่ก็ยังต้อ งลุกไปทำงาน
ฉันไม่ชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันอยากตื่นสายๆ แต่กลับมีเด็กบ้านใกล้ๆวิ่ง เล่นเสียงดังจนต้องตื่นแต่เ ช้า
ฉันไม่ชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะถูกปลุกแต่เช้าเช ่นกันด้วยเสียงเครื่องดูดฝุ ่นกับเสียงตัดต้นไม้และเครื ่องตัดหญ้าชองเพื่อนบ้าน
ฉันไม่ชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะมันทำให้ร้านรวงในกรุง เทพฯปิด จะซื้อหาอะไรก็ยาก จะออกไปต่างจังหวัดคนก็มาก ฉันเคยเห็นรถติดบนยอดเขาห่า งไกลในวันสิ้นปีมาแล้ว
ฉันไม่ชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันถึงที่ทำงา นช้า
ฉันไม่ชอบรถเมล์ เพราะฉันต้องยืนเบียดกับคนแ ปลกหน้าและร้อนอบอ้าว
ฉันไม่ชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู ่ เพราะมันคับแคบแออัด เปิดหน้าต่างออกไปเห็นแต่ตึ กบังท้องฟ้า
ฉันไม่ชอบบ้านเดิมที่ต่างจั งหวัด เพราะมันห่างไกลมากและมีแต่ ความกันดาร
ฉันไม่ชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันไม่เคยให้แง่คิดหรื อช่วยพัฒนาจิตใจของเราให้ดี ขึ้นเลย
ฉันไม่ชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอบอ้ าวและหงุดหงิดทั้งวัน
ฉันไม่ชอบหน้าฝน เพราะมันทำให้ฉันเปียกแฉะ เดินทางลำบาก ตากผ้าก็ไม่แห้ง
ฉันไม่ชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันเป็นหวัดแล ะไม่มีชีวิตชีวา
ฉันไม่ชอบมหาวิทยาลัยที่ฉัน เรียนจบมา เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง ทำให้ฉันหางานทำลำบาก
ฉันไม่ชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีแต่ความเบียดเ สียด ทุกอย่างเร่งรีบและดิ้นรนผู ้คนเห็นแก่ตัว
ฉันไม่มีความสุข...
ความสุขอยู่ที่ไหนกัน...
.......................... .......................... .......................... .......................... ...............
วันหนึ่งฉันยืนอยู่ที่ป้ายร ถเมล์ แม่ลูกคู่หนึ่งนั่งรอรถอยู่ ใกล้ๆ ผ่านไปสักพักอยู่ๆลูกชายวัย ซนของหญิงคนนั้นก็ชี้นิ้วขึ ้นไปบนท้องฟ้าและบอกกับแม่ “แม่หมาอยู่บนฟ้า”
“ไหนลูก” แม่ขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวมองต ามลูก “อ๋อ เมฆน่ะเหรอลูก ดูเป็นหมายังไงนะ”
“นี่ไงแม่ ตรงที่ยื่นๆออกมานี่เป็นหัว หมา นี่หูมัน มีขาหน้าด้วย”
“แล้วขาหลังล่ะลูกไม่เห็นมี เลย”
“มันกระโดดออกจากปุยนุ่น ขาหลังมันเลยจมในปุยนุ่น” เด็กชายว่า
ฉันหันไปมองเมฆก้อนนั้นตามด ้วนความอยากรู้อยากเห็นแล้ว ก็ต้องขมวดคิ้วมันเป็นแค่ก้ อนเมฆสีขาวไร้รูปทรงธรรมดาร ูปหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความเหมือนกับหมาตร งไหนเลย ฉันยักไหล่แล้วหันไปชะเง้อม องรถเมล์บนถนนตามเดิม เสียเวลาฟังเจ้าเด็กฟุ้งซ่า นจริงๆ
“เหรอ...แต่แม่ว่ามันดูเหมื อนกับยีราฟนะลูก เห็นมั้ย คอมันยาวเป็นยีราฟเลย หูชี้ด้วย”
“ไม่ใช่นะแม่ ยังเป็นหมาอยู่ หมาคอยาวๆโอ๊ยๆๆทำไมขามันหา ยไปแล้วล่ะ”
“ข้างบนลมคงพัดแรงน่ะลูก เมฆมันเป็นแค่ไอน้ำที่ลอยใน อากาศและจับตัวกันเป็นก้อน พอลมพัดมันก็เปลี่ยนรูปร่าง เหมือนกันตอนที่ลูกเป่าควัน ในชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆไงจ๊ะ”
ฉันเงยหน้ามองก้อนเมฆไอน้ำส ีขาวบนทั้งฟ้าอีกครั้ง ฉันมองอย่างไรก็เห็นเป็นเพี ยงแต่เมฆธรรมดาๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่แม่ลูกคู่นั้นเห็นเ ป็นสัตว์ต่างๆมากมาย ทำไมของสิ่งเดียวกันแต่คนสอ งคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันกลับม องไม่เหมือนกัน หรือว่ามาลูกคู่นี้เห็นในสิ ่งที่ฉันไม่เห็น...
บนรถเมล์ที่ฉันโหนไปทำงาน เด็กนักเรียนสองคนใกล้ๆ กำลังพูดถึงการสอบเข้ามหาวิ ทยาลัย
“ทำไมแกรีบอ่านหนังสือคร่ำเ คร่งนัก กว่าจะสอบก็ปีหน้าไม่ใช่เหร อ”
“ต้องรีบอ่านสิ อีกแค่ปีเดียวพวกเราต้องสอบ แล้วนะ นี่อ่านแทบไม่ได้นอนมาหลายเ ดือนแล้ว”
“เหรอ...”
“แล้วแกล่ะ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่อ่านหนั งสือสักที”
“ไม่ต้องรีบหรอก อีกตั้งปีกว่าจะถึงวันสอบ”
ฉันมองตามหลังเด็กทั้งสองขณ ะที่พวกเขาเดินลงจากรถหน้าโ รงเรียน นับว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ของคนสองคนที่มองสิ่งเดียวก ันต่างออกไป คนหนึ่งมองอย่างเป็นทุกข์ อีกคนมองอย่างไม่ทุกข์ หรือว่าทุกสิ่งรอบตัวสามารถ มองได้สองแบบจริงๆ แบบเดียวกับที่ฉันมองสองด้า นของเหรียญหรือมองแก้วน้ำที ่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว
แล้วที่ฉันไม่มีความสุขอยู่ ทุกวันนี้เกิดจากการมองของฉ ันใช่หรือไม่...
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านมานั ่งพักที่ระเบียง แมวดำตัวหนึ่งกำลังพยายามจะ มาคุ้ยหาขยะในถุงดำที่มัดกอ งไว้หน้าบ้าน แต่แรกฉันทำท่าจะถอดรองเท้า ขว้างใส่แบบที่เคยทำมา แต่พอคิดไปอีกทางว่าการเกิด เป็นแมวจรจัดไร้เจ้าของและท ี่ซุกหัวนอนนั้นก็แย่พออยู่ แล้ว ยังต้องมาคุ้ยขยะหาอาหารประ ทังชีวิตให้รอดแล้วยังถูกคน ขับไล่อีกไปที่ไหนก็มีแต่คน ไม่ต้อนรับเอ็นดู
ฉันลองเปลี่ยนความคิดดู หันหลังเดินเข้าครัว หยิบไส้กรอกอีสานและแฮมในตู ้เย็นออกมาอุ่นเล็กน้อย จากนั้นก็เปิดประตูบ้านออกไ ป แมวดำยังอยู่ที่กองขยะหน้าบ ้าน แสงจากเสาไฟฟ้าที่ส่องสลัวล งมาถึงตัวของมันทำให้มองดูเ หมือนกับว่ามันเป็นสิ่งมีชี วิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ฉันส่งเสียงเลียนแบบแมวดังเ มี้ยวๆ จนมันหันมามอง
“กินซะนะ อยู่ด้วยกันมานานฉันเพิ่งจะ มาใจดีวันนี้แหละ”
แมวตัวนั้นค่อยๆเดินมาอย่าง กล้าๆกลัวๆจนมาหยุดใกล้ๆฉัน จึงวางไส้กรอกอีสานกับหมูแฮ มลงบนพื้น แมวจรจัดส่งเสียงร้องเหมียว ๆขณะก้มลงดมอาหารมื้อพิเศษน ั้น ในที่สุดมันก็กินอย่างเอร็ด อร่อยทีเดียว
ฉันยืนกอดอกมองภาพแมวที่กำล ังกินอาหารที่ฉันหามาให้อย่ างมีความสุข เพิ่งได้รู้กับตัวเองว่าการ ไล่แมวกับการให้อาหารแมวนั้ นมันให้ความสุขทางใจที่แตกต ่างกันมากกขนาดนี้เอง
ต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุข. ..
.......................... .......................... .......................... .......................... .
ฉันชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันให้โอกาสฉันได้แสดง ฝีมือทำงานเพื่อส่วนรวมและม ีรายได้มาเลี้ยงตัวเอง งานทั้งหลายนั้นดูช่างท้าทา ยฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ฉันชอบเจ้านาย เพราะเขาให้โอกาสฉันคิดและต ัดสินใจลงมือทำสิ่งต่างๆด้ว ยตัวเองโดยพยายามตัดเตือนแน ะนำเมื่อฉันทำงานผิดพลาด
ฉันชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเห มือนทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นอี กครั้งสัปดาห์นี้จะต้องดีกว ่าสัปดาห์ที่แล้ว
ฉันชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันเพิ่งทำง านไปได้วันเดียว ยังมีอีกหลายวันที่สนุกสนาน รออยู่ เพื่อนที่ทำงานยังรอฉันอยู่
ฉันชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่ นขึ้นมาพร้อมความล้าเล็กน้อ ยและพบว่าเวลาผ่านไปครึ่งทา งแล้ว ฉันจะรีบทำงานในเวลาที่เหลื อให้ดีที่สุด อีกไม่นานฉันจะได้พักผ่อนวั นหยุดแล้ว
ฉันชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเห็นความ คืบหน้าของงานในสัปดาห์นี้ม ากมาย หากฉันไม่จัดการงานพวกนี้ บริษัทและทุกคนในบริษัทคงลำ บากมากฉันรู้ว่าฉันมีส่วนร่ วมในการผลักดันบริษัทของฉัน
ฉันชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันจะให้กำลังใจตัวเอง ว่านี่คือวันทำงานวันสุดท้า ยแล้วฉันจะจัดการทุกสิ่งไม่ ให้คั่งค้างเพื่อให้พรุ่งนี ้และมะรืนนี้เป็นวันหยุดที่ แสนสบาย
ฉันชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันจะตื่นมาพร้อมกับเส ียงหัวเราะของเด็กบ้านใกล้ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสน ุกสนาน ฟังดูสดชื่นมีชีวิตชีวา จากนั้นฉันจะเริ่มทำความสะอ าดบ้านและมองดูบ้านที่สะอาด ขึ้นทีละน้อยอย่างภูมิใจ
ฉันชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะตื่อนแต่เช้าเช่น กันเพื่อเตรียมหุงหาอาหารใส ่บาตรพระที่ผ่านมาหน้าหมู่บ ้าน จากนั้นฉันจะไปซื้อของและกล ับมาพักผ่อนที่บ้าน รอคอยสัปดาห์ใหม่ที่กำลังจะ เริ่มขึ้น
ฉันชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะมันทำให้ฉันมีเวลาส่วน ตัวให้ตัวเองและครอบครัวมาก ขึ้น
ฉันชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันเพลิดเพลิน กับการฟังเพลงวิทยุช่องโปรด และเหม่อมองสิ่งต่างๆรอบตัว นานขึ้น
ฉันชอบรถเมล์ เพราะฉันมองเห็นคนมากมายที่ กำลังร่วมทางกันอยู่บนรถคัน เดียวกัน แต่ละวันที่ได้พบกับผู้คนบน รถเมล์ฉันมักจะได้แง่คิดดีๆ จากการเงี่ยหูฟังพวกเขาคุยก ันอยู่เสมอ
ฉันชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่ เพราะมันดูกะทัดรัดดูแลทำคว ามสะอาดได้ง่าย มีเพื่อนบ้านมากมายคอยช่วยเ ป็นหูเป็นตาให้
ฉันชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหว ัด เพราะมันห่างไกลจากความวุ่น วายในเมืองหลวง และฉันมักจะกลับไปพักผ่อนเต ิมพลังอยู่เสมอเมื่อเหนื่อย ล้าจากการใช้ชีวิตในเมือง
ฉันชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันทำให้ฉันผ่อนคลายแล ะได้ล่องลอยไปในโลกความฝันบ ้างหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยม าทั้งวันแล้ว
ฉันชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกถึงช ีวิตชีวารอบข้าง เสียงแมลงต่างพากันร้อง นกต่างพากันบินออกหากิน ดอกไม้เบ่งบาน
ฉันชอบหน้าฝน เพราะมันช่างดูอบอุ่นชุ่มเย ็น การเฝ้ามองต้นไม้เขียวขจีต้ องลมฝนจากใต้ชายคาบ้านฉันเป ็นภาพที่สวยงามจริงๆ
ฉันชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเย็น สบาย ได้หยิบเสื้อหนาวสวยๆในตู้อ อกมาใส่จะเดินออกไปไหนมาไหน ก็กระชุ่มกระชวย นอนหลับก็สบายไม่ต้องเปิดพั ดลม
ฉันชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรี ยนจบมา เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง หากฉันทำงานของฉันจนประสบคว ามสำเร็จฉันจะกลายเป็นบุคคล ที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหา วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยของฉันจะเป็น ที่ยอมรับของทุกคน
ฉันชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีผู้คนมากมาย และมีบทเรียนใหม่ๆ ที่จะคอยสอนใจฉันอย่างไม่รู ้จักจบสิ้น เหมือนกับที่มันเคยสอนฉันให ้มองโลกอย่างมีความสุขมาแล้ ว
ฉันมีความสุข...
ความสุขอยู่ในทุกหนแห่งและอ ยู่ที่ตัวฉันเอง...อยู่ที่ฉ ันจะตั้งใจมองหามันในทุกสิ่ งรอบข้างเองหรือไม่เท่านั้น ...
ธามาดา
ฉันไม่มีความสุข...
ฉันไม่ชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันน่าเบื่อและไม่มีที
ฉันไม่ชอบเจ้านาย เพราะเขาไม่เคยคิดหรือทำอะไ
ฉันไม่ชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเห
ฉันไม่ชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกว่
ฉันไม่ชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่
ฉันไม่ชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเหนื่อยล
ฉันไม่ชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันเหนื่อยจนแทบลุกจาก
ฉันไม่ชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันอยากตื่นสายๆ แต่กลับมีเด็กบ้านใกล้ๆวิ่ง
ฉันไม่ชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะถูกปลุกแต่เช้าเช
ฉันไม่ชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์
ฉันไม่ชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันถึงที่ทำงา
ฉันไม่ชอบรถเมล์ เพราะฉันต้องยืนเบียดกับคนแ
ฉันไม่ชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู
ฉันไม่ชอบบ้านเดิมที่ต่างจั
ฉันไม่ชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันไม่เคยให้แง่คิดหรื
ฉันไม่ชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอบอ้
ฉันไม่ชอบหน้าฝน เพราะมันทำให้ฉันเปียกแฉะ เดินทางลำบาก ตากผ้าก็ไม่แห้ง
ฉันไม่ชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันเป็นหวัดแล
ฉันไม่ชอบมหาวิทยาลัยที่ฉัน
ฉันไม่ชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีแต่ความเบียดเ
ฉันไม่มีความสุข...
ความสุขอยู่ที่ไหนกัน...
..........................
วันหนึ่งฉันยืนอยู่ที่ป้ายร
“ไหนลูก” แม่ขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวมองต
“นี่ไงแม่ ตรงที่ยื่นๆออกมานี่เป็นหัว
“แล้วขาหลังล่ะลูกไม่เห็นมี
“มันกระโดดออกจากปุยนุ่น ขาหลังมันเลยจมในปุยนุ่น” เด็กชายว่า
ฉันหันไปมองเมฆก้อนนั้นตามด
“เหรอ...แต่แม่ว่ามันดูเหมื
“ไม่ใช่นะแม่ ยังเป็นหมาอยู่ หมาคอยาวๆโอ๊ยๆๆทำไมขามันหา
“ข้างบนลมคงพัดแรงน่ะลูก เมฆมันเป็นแค่ไอน้ำที่ลอยใน
ฉันเงยหน้ามองก้อนเมฆไอน้ำส
บนรถเมล์ที่ฉันโหนไปทำงาน เด็กนักเรียนสองคนใกล้ๆ กำลังพูดถึงการสอบเข้ามหาวิ
“ทำไมแกรีบอ่านหนังสือคร่ำเ
“ต้องรีบอ่านสิ อีกแค่ปีเดียวพวกเราต้องสอบ
“เหรอ...”
“แล้วแกล่ะ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่อ่านหนั
“ไม่ต้องรีบหรอก อีกตั้งปีกว่าจะถึงวันสอบ”
ฉันมองตามหลังเด็กทั้งสองขณ
แล้วที่ฉันไม่มีความสุขอยู่
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านมานั
ฉันลองเปลี่ยนความคิดดู หันหลังเดินเข้าครัว หยิบไส้กรอกอีสานและแฮมในตู
“กินซะนะ อยู่ด้วยกันมานานฉันเพิ่งจะ
แมวตัวนั้นค่อยๆเดินมาอย่าง
ฉันยืนกอดอกมองภาพแมวที่กำล
ต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุข.
..........................
ฉันชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันให้โอกาสฉันได้แสดง
ฉันชอบเจ้านาย เพราะเขาให้โอกาสฉันคิดและต
ฉันชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเห
ฉันชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันเพิ่งทำง
ฉันชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่
ฉันชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเห็นความ
ฉันชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันจะให้กำลังใจตัวเอง
ฉันชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันจะตื่นมาพร้อมกับเส
ฉันชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะตื่อนแต่เช้าเช่น
ฉันชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะมันทำให้ฉันมีเวลาส่วน
ฉันชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันเพลิดเพลิน
ฉันชอบรถเมล์ เพราะฉันมองเห็นคนมากมายที่
ฉันชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่ เพราะมันดูกะทัดรัดดูแลทำคว
ฉันชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหว
ฉันชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันทำให้ฉันผ่อนคลายแล
ฉันชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกถึงช
ฉันชอบหน้าฝน เพราะมันช่างดูอบอุ่นชุ่มเย
ฉันชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเย็น
ฉันชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรี
ฉันชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีผู้คนมากมาย และมีบทเรียนใหม่ๆ ที่จะคอยสอนใจฉันอย่างไม่รู
ฉันมีความสุข...
ความสุขอยู่ในทุกหนแห่งและอ
.................................................................................................................
...............................................................................................................
...................................................................................................................
คนบางพวกนี่ก็เรียกร้องให้ค
แปลจาก: www.facebook.com/
//002
...........................................................................................................
ยกฟ้องอีก 2 ผู้ต้องหาคดีเผาเซ็นทรัลเวิร์ล พ.ค.53
http://prachatai.com/journal/2013/03/45925
......................................................................................................................
สักมวนไหมหล่ะเมิง?
............................................................................................................................
........................................................................................................................
ขอสาบานให้ฟ้าผ่าตาย!!!
..........................................................................................................................
สงสัยคงหิวมากแน่เลย!!
Sahapol Nakvanich คงหิวน่าดู !!
...........................................................................................................................
..........................................................................................................................
ที่คนรุ่นเก่ารักษาเอกราชเอ
.......................................................................................................................
นามบัตร..
.............................................................................................................
...........................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น