วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

19/03/2556





เสวนาหน้า FB: "ความจริง" คืออะไร?
%%%%%%%%%%%%%%%%%

ผมเห็นด้วยโดยหลักการกับสเตตัสของ สมบัติ บุญงามอนงค์ และอยากเสริมว่า.....

แทนที่จะมองความจริงเป็นแท่งสำเร็จรูปหรือก้อนอะไรสักก้อนที่เราไปคว้าเอามายึดกุมเป็นของเรา ผมอยากเสนอให้มองความจริงเป็นความสัมพันธ์และกระบวนการ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอัตวิสัยของผู้รู้กับภาววิสัยของสิ่งที่ถูกรู้ และกระบวนการจัดการคัดสรรปรับเปลี่ยนพัฒนาการของความสัมพันธ์ดังกล่าว นั่นแปลว่ามันไม่นิ่ง ความจริงคลี่คลายไปเรื่อย ๆ ตามแต่กระบวนการรับรู้ของเราจะปรับปรุงคลี่คลายไป ในความหมายนั้น เงื่อนไขเบื้องต้นคือทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์ดังกล่าวและกระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นได้ง่าย แก้ไขขัดเกลาปรับเปลี่ยนพัฒนาการได้ง่าย ข้อที่น่าจะช่วยได้คือ เปิดให้มีข้อเสนอความจริงหลายเวอร์ชั่น อย่าให้ใครผูกขาดไว้เวอร์ชั่นเดียว และเปิดให้กระบวนการหาความจริงเดินหน้าไปได้เรื่อย ๆ อย่าไปสั่งห้ามยุติมัน

.................................................................................................................................





...................................................................................................................................




จาก
http://humortrain.com/post/45632814956


................................................................................................................................


...........................................................................................................................................





» Success Story ของ ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาอันดับหนึ่งของโลก

จากการจัดอันดับของ Gunn Report ซึ่งรวบรวมสถิติการได้รางวัลของคนโฆษณาแต่ละคน "คุณต่อ - ธนญชัย ศรศรีวิชัย" เป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาหมายเลขหนึ่งถึง...สี่ปี เป็นสถิติที่ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้

คุณต่อเล่าว่า...ความสำเร็จเกิดขึ้นจากความคิดที่มั่นคง ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวของข้าราชการ คุณพ่อเป็นนายอำเภอ และคุณแม่เป็นครู

ชีวิตในตอนเด็กๆ ต้องติดตามคุณพ่อไปในจังหวัดต่างๆ คุณต่อเล่าให้ผมฟังด้วยประโยคที่น่าสนใจว่า “คุณพ่อผมเป็นคนมีปัญหา เพราะคุณพ่อไม่โกง”

ทำให้มีความก้าวหน้าในอาชีพไม่ดีเท่าที่ควร ด้วยความที่คุณพ่อและคุณแม่เป็นคนมีหลักการ เป็นผลให้คุณต่อได้รับอิทธิพลมาจากคนทั้งสอง ให้มีความซื่อสัตย์ในหน้าที่และมีความรับผิดชอบต่อสังค

คุณต่อบอกว่าตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจ แต่คำสอนดังกล่าวคือ "หลักการที่ยั่งยืน" ทำให้เขามองเห็นมุมอะไรที่ดีๆ จากวิธีคิดดังกล่าว


◌◌◌◌◌◌◌◌


คุณต่อรักการอ่านตั้งแต่เด็ก และเป็นคนที่มีตรรกะในการคิดที่แตกต่างจากชาวบ้าน ทำให้เป็นคนเรียนช้า คุณต่อเรียนเลขจนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับครู คุณแม่เลยมาสอนด้วยตัวเอง

ตัวอย่างที่เขาคิดไม่เหมือนชาวบ้านเช่นว่า...

ชาวนาห้าคนขนฟางยี่สิบกองเสร็จ ภายในหนึ่งวัน คำถามก็คือว่าชาวนาจำนวนสิบคนจะขนฟางสี่สิบกองเสร็จภายในกี่วัน

คุณต่อบอกว่าเขาตอบคำถามไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าชาวนาสิบคนนั้นเป็นคนขี้เกียจหรือขยันเมื่อเปรียบเทียบกับ ชาวนาห้าคนแรก

ซึ่งคนที่คิดอย่างนี้ได้ต้องมีกระบวนการในการคิดที่ไม่ธรรมดา

เรียนจบปริญญาตรีทางด้านสถาปัตยกรรม แล้วมาเริ่มงานทางด้าน Graphic design ที่บริษัทสามหน่อ

ด้วยความที่เป็นคนชอบคิด เลยผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่บริษัท Phenomena เพราะอยากทำงานที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกได้


◌◌◌◌◌◌◌◌


คุณต่อเริ่มงานกำกับภาพยนตร์โฆษณาโดยไม่มีความรู้ว่าการกำกับหนังเขาทำกันอย่างไร

จึงเรียนรู้ด้วยตนเอง เขาไปเช่าหนังจาก Blockbuster มาดูเกือบทุกเรื่อง แล้วให้ Blockbuster มาเป็น NYU ให้เขา (NYU คือ New York University เป็นสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งของโลกที่สอนวิชาสร้างภาพยนตร์)

เขาคิดต่อว่าการทำหนังโฆษณาคือต้องสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ พูดง่ายๆ คือต้องขายของให้กับลูกค้า ดังนั้นรู้วิธีทำหนังไม่พอ

เขาอ่านหนังสือการตลาดเพื่อทำความเข้าใจกับหลักการทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็น Kotler หรือ Drucker หนังสือของคนเหล่านี้ผ่านตาเขามาหมดแล้ว

สุดท้าย...เขานำวิธีคิดทางพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการทำหนังด้วย!?


◌◌◌◌◌◌◌◌


หลายคนคงตั้งคำถามถามด้วยความประหลาดใจว่า...
หลักคิดของพุทธศาสนามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับงานโฆษณา?

คุณต่อบอกว่า ทุกอย่างมันมีความเชื่อมโยงกันหมด หลักคิดของพุทธศาสนาคือ คิดดี ทำดี แล้วผลตอบแทนที่ดีจะกลับมาเอง

*ถ้านักการตลาดทำสินค้าคุณภาพไม่ดีออกมาขายให้กับผู้บริโภค แล้ววันๆ มัวเมากับการสร้างภาพโดยการโหมโฆษณา นี่คือการสร้างกรรมให้กับผู้บริโภค แล้วในที่สุดกรรมนั้นจะกลับมาที่ตัวนักการตลาดเอง

*นักการตลาดต้องค้าขายอย่างมีสติ ไม่ดูถูกผู้บริโภค
คนโฆษณาต้องมีธรรมะในหัวใจ ต้องพูดความจริง
เพราะทุกคนกำลังไปขอเงินจากผู้บริโภค

งานโฆษณาคือการทำให้ผู้บริโภคมีทัศนคติที่ดีกับผลิตภัณฑ์ แล้วเราจะขายของได้ในที่สุด


◌◌◌◌◌◌◌◌


คุณต่อเริ่มเป็นผู้กำกับภาพยนต์โฆษณาตอนอายุ 24
พออายุได้ 29 ชื่อเสียงติดอันดับในประเทศไทย
อายุได้ 34 ปีเขาเป็นผู้กำกับอันดับหนึ่งของโลก

ตัวอย่างผลงานโฆษณาของเขา เช่น...

หนังโฆษณาเกือบทุกเรื่องของไทยประกันชีวิต
หนังโฆษณาอาม่าของ Smart Purse

ผลงานทุกเรื่องของเขามีเสน่ห์ มีกลิ่นเฉพาะตัว มีวิธีเล่าเรื่องบนความเรียบง่าย

คำถามคือ...เขามีกระบวนการคิดภาษาหนังที่มีลายเซ็นต์ของตนเองได้อย่างไร?


เริ่มต้นจากการสร้างความเข้าใจในประเด็น ด้วยความที่เขาเป็นนักฟังที่ดีคือตัวช่วย หลังจากนั้นเขาจะปลอกเปลือกของประเด็น แยกแยะความสลับซับซ้อน

เพราะเวลาลูกค้าเล่าเรื่องราวของสินค้าจะเต็มไปด้วย คุณงามความดีแบบเต็มเล่มเกวียน หน้าที่ของเขาคือต้องหาแก่นให้เจอ แล้วเขาจะเล่าเรื่องจากแก่นโดยเอาอารมณ์เติมเข้าไปเพื่อให้หนังมีความน่าสนใจ

คุณต่อจะถามตัวเองทุกครั้งที่ทำหนัง ว่าคนดูจะได้อะไรจากผลงานของเขา คนเราจะคิดอะไรดีๆ ได้ ต้องคิดถึงคนอื่นก่อน และคำว่าคนอื่นคือ “คนดู” ไม่ใช่ลูกค้าที่จ่ายเงินเขา


เขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญ ที่กล้าบอกว่าการทำหนังของเขาไม่ใช่เอาใจลูกค้าหรือบริษัทโฆษณา

แต่ต้องทำให้ “คนดู” สนใจที่จะดูหนังเขา ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะถ้าทำอย่างนั้นได้ ในที่สุดลูกค้าและบริษัทโฆษณาจะได้ประโยชน์


◌◌◌◌◌◌◌◌


คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งของคุณต่อคือ...

เป็นคนช่างสังเกต และชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

เขาบอกว่าคนเป็นห้องสมุดที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขาเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ เวลาเขามองดูคน ไม่ใช่มองแบบผิวเผิน แต่มองแล้วคิด ตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบด้วยการวิเคราะห

คุณต่อวิจารณ์ระบบการศึกษาของประเทศเราว่า...

ปัญหามาจากการที่การศึกษาของบ้านเราเน้นให้คนสนใจที่คำตอบ แต่ไม่ส่งเสริมให้คนตั้งคำถามให้เป็น เพราะด้วยการตั้งคำถามที่ถูกต้อง จะทำให้คนไทยรู้จักค้นคว้าและเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างขึ้


◌◌◌◌◌◌◌◌


พอถามคุณต่อว่า...ทำไมถึงติดอันดับหนึ่งของวงการโฆษณาโลกได้

เพราะการจัดอันดับผู้กำกับอยู่ที่จำนวนรางวัลที่ได้จากการประกวดในเวทีโลก ...ฝีมือแน่นอนอยู่ชั้นแนวหน้า แต่ผลงานที่ผลิตออกมาน่าจะน้อยกว่าผู้กำกับในโลกตะวันตก เพราะตลาดของคุณต่อคือประเทศไทย ส่วนของผู้กำกับต่างชาติตลาดของเขาคือตลาดโลก

คุณต่อบอกว่าเขาเป็นคนที่บ้าทำงานมาก เมื่อปีที่แล้วทำหนังโฆษณาไปทั้งหมด 114 เรื่อง ดังนั้นไม่มีข้อเสียเปรียบในเรื่องปริมาณของงานที่ออกสู่ตลาด

คนที่สามารถขับเคลื่อนความเป็นเลิศได้ทั้งสองมิติ ปริมาณและคุณภาพ ต้องเป็นคนที่สุดพิเศษ ที่ทำได้ เพราะเป็นคนคิดเร็ว โดยมีวิธีทำงานว่าทุกอย่างต้องมีข้อสรุป

เขาจะไม่ปล่อยให้ผลของการพูดคุยกับใครก็แล้วแต่ เป็นสีเทาๆ แล้วทุกคนทำหน้างงๆ ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร ความชัดเจนและแม่นยำทำให้เขามีความได้เปรียบในมิติของเวลา


ความสำเร็จของคุณต่อเกิดจากเป็นคนที่มีวิธีคิดที่เป็นตัวของตัวเอง กล้าใช้วิธีคิดนี้ทั้งๆ ที่สวนทางกับวงการ และเป็นคนที่ขับเคลื่อนงานของตัวเองทั้งสองมิติ ทั้งคุณภาพและปริมาณ ทำให้เขาสามารถนำธงไตรรงค์ไปปักในเวทีโลกได้


◌◌◌◌◌◌◌◌


Credit : ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ | แกะดำทำธุรกิจ บทความ "ความคิดที่แข็งแรง"

.......................................................................................................................................


เปิดแนว "ไฮสปีดเทรน" 4 สายเพื่อไทย พาดผ่าน 21 จังหวัด เชื่อม "กทม.-หัวเมืองหลัก"


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1363610561&grpid=02&catid=07&subcatid=0703

.....................................................................................................................................

http://pantip.com/topic/30254433


ความเชื่อผิดๆที่คิดว่าถูกเกี่ยวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กระทู้สนทนา
จากกรณีปัญหาการขอพื้นที่คืนโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนี้มีความสับสนเรื่องข้อเท็จจริงอยู่มาก ผมเลยพยายามรวบรวมคำถามและหาคำตอบมาให้เข้าใจง่ายๆ โดยมีแหล่งอ้างอิง

1. จุฬาฯ ได้รับที่ดินพระราชทานมาจัดการศึกษา ไม่ใช่ให้มาทำการพาณิชย์
    ผิด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสถาปนาโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ดังนี้
    “...ให้ใช้ที่ดินส่วนหนึ่งเพื่อปลูกสร้างสถานศึกษา และอีกส่วนหนึ่งให้ใช้จัดหาผลประโยชน์เพื่อนำมาปรับปรุงการศึกษา โดยมิต้องพึ่งงบประมาณแผ่นดินแต่เพียงอย่างเดียว...”
    แสดงว่าจุฬาฯ มีหน้าที่ต้องนำพื้นที่ส่วนหนึ่งไปหาผลประโยชน์เพื่อไม่ต้องพึ่งงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพียงอย่างเดียว โดยดำเนินการพาณิชย์เพื่อจัดหารายได้ ดังจะเห็นจาก สยามสแควร์ มาบุญครอง จามจุรีสแควร์ SiamKit SiamSquareOne และพื้นที่อื่นๆที่กำลังรอการพัฒนา

2. พื้นที่ของจุฬาฯมีแค่ไหน
    หน้าสุดท้ายของ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2458/D/2562.PDF มีคำตอบ และสังเกตปี พ.ศ. ด้วย ดังนั้นจะอ้างว่าจุฬาฯ ได้พื้นที่เมื่อปี พ.ศ.2482 ไม่ได้ อีกทั้งการโอนตามปี 2482 เป็นเพียง พรบ. โอนกรรมสิทธิ์ตาม พรบ. เหมือนกับ พรบ. จุฬาฯ พ.ศ.2551 บทเฉพาะกาล มาตรา 71 ที่มีข้อความโอนทรัพย์สินให้มาเป็นของจุฬาฯ ในทำนองนี้เช่นเดียวกัน

3. มีพื้นที่อีกตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่ขอคืนพื้นที่บริเวณนั้น เช่น สยามสแควร์ 
    จุฬาฯจัดการพื้นที่ของตัวเอง บนพื้นฐานที่ว่า “กรรมสิทธิ์” เป็นของจุฬาฯ ดังนั้นการวางแผนจะใช้พื้นที่ส่วนใดทำอะไร จึงต้องวางแผนแม่บทและจัดโซนให้เหมาะสม เมื่อพื้นที่ที่สำหรับการพาณิชย์ก็ได้จัดไว้เรียบร้อยแล้ว จะไปเอามาทำเพื่อการศึกษาไม่ได้

4. อุเทนถวายไม่เคยจ่ายค่าเช่าให้จุฬาฯเลย เพราะไม่ได้เช่า 


5. จุฬาฯ จะนำพื้นที่บริเวณอุเทนถวายไปทำการพาณิชย์
    ผิด พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในบริเวณจัดการศึกษา โดยจะนำไปทำศูนย์นวัตกรรมฯ ตามแผนผังนะครับ

6. อุเทนถวาย ได้ถวายฎีกา ต้องรอพระบรมราชวินิจฉัยเสียก่อน
        ดูเอกสารที่สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งอุเทนถวาย (ไฟล์ใหญ่เกินใส่ไม่ได้)
http://www.cicc.chula.ac.th/images/CU_Property/photo-news/_.__2555_Page_1.jpg
http://www.cicc.chula.ac.th/images/CU_Property/photo-news/_.__2555_Page_2.jpg


..........................................................................................................................................



....................................................................................................................................




“เชียงใหม่เป็นเมืองเล็กๆ ที่ทำให้เรามีโอกาสได้เจอคน ได้มีเวลาให้แก่กัน ได้คิดได้ทำอะไรต่างๆ ที่เราทำไม่ได้ในเมืองใหญ่ๆ มันเป็นเรื่องของวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากเมืองใหญ่ที่ผมเคยอยู่”

ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช ศิลปิน Relational Aesthetics

ประโยคเปิดคอลัมน์ Cover Story "เชียงใหม่ หลายมุม" เรื่องราวเต็มๆ จะเป็นอย่างไร อ่านต่อได้ที่ http://creativethailand.org/th/magazine/


...........................................................................................................................



นิทานเซ๊นกับ หมากล้อม
ความอ่อนน้อมถ่อมตนทางปัญญา

นานมาแล้ว ในประเทศญี่ปุ่น ยังมีพระภิกษุนิกายเซ็นอยู่รูปหนึ่ง อาจารย์ท่านนี้ได้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวางในความที่เป็นนักเทศน์ผู้เก่งกาจและทรงปัญญา ธรรมเทศนาของท่านล้วนไพเราะจับใจผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง ในทุกๆ วันชาวบ้านทั้งแถบนั้นและละแวกใกล้เคียงก็จะพากันมาฟังเทศนาของท่านอย่างล้นหลาม จนทำให้วัดของพระนิกายนิชิเรนเงียบเหงาลงถนัด ขาดแคลนซึ่งลาภสักการะที่เคยได้รับ กระทั่งพระนิกายนิชิเรนรูปหนึ่งทนดูต่อไปไม่ไหว จึงคิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้หน้านิกายนิชิเรน วันหนึ่งนั้นเอง ขณะที่อาจารย์เซ็นกำลังแสดงธรรม พระขี้อิจฉารูปนั้นก็เดินเข้าไปกลางที่ประชุม กล่าวลองภูมิปัญญาขึ้นว่า "ท่านอาจารย์เซ็น จงหยุดฟังเราก่อน คนที่เคารพท่านก็เชื่อท่านไป แต่เราไม่เคารพท่าน ท่านจะมีทางทำให้เราเชื่อท่านได้อยู่รึ"

อาจารย์เซ็นจึงกล่าวขึ้นว่า "ได้สิ ท่านขึ้นมายืนทางซ้ายของเราก่อน" พอพระรูปนั้นไปยืนอยู่ทางซ้ายมือ อาจารย์เซ็นก็กล่าวขึ้นใหม่ว่า "ยังไม่ดี ท่านยืนข้างขวาจะดีกว่า" พระรูปนั้นก็เปลี่ยนมายืนทางด้านขวา พร้อมด้วยท่วงท่าหยิ่งผยองยิ่งนัก ท่านอาจารย์เซ็นกล่าวต่อไปว่า "เห็นไหมเล่า ท่านก็เชื่อฟังคำสั่งของเราอย่างง่ายดาย โดยแท้ท่านก็เป็นคนว่าง่าย ฉะนั้นแล้วท่านจงนั่งลงฟังเทศนาของเราเถิด"

ในการเล่นหมากล้อมนั้น ความอ่อนน้อมถ่อมตนให้กับผู้เล่นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นสิ่งควรกระทำ เป็นมารยาทอันงาม ไม่ว่าเขาจะเล่นเก่งกว่าเราหรือแย่กว่าเราก็ตาม แต่พึงรู้ไว้ว่าแม้นเราจะมีฝีมือเพียงใด แต่คนที่เก่งกว่าเราย่อมมีอยู่ ฉะนั้นจงอย่าได้หยิ่งทะนงตนเป็นอันขาด
คารโว จ นิวาโต จ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ - - - ความเคารพอ่อนน้อมเป็นอุดมมงคล

ยิ่งเราเข้าถึงหมากล้อมเท่าใด เราก็จะให้ความเคารพและให้เกียรติ ต่อคู่ต่อสู้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะมีคู่แข่ง เราจึงพัฒนาต่อเนื่องไปได้อีก

คิชิ ยอดนักกินแหลก ของญี่ปุ่น ได้กล่าวหลังจากเป็นแชมป์ นักกินหน้าใหม่ในรายการทีวี แชมเปี้ยน ว่า ?ต้องขอบคุณ คุณซูซูกิ (คู่แข่งในรายการนี้ของ คิชิ) ที่ทำให้ผมกินได้มากถึง 17 ชาม ถ้าไม่มีเขา ผมคงไม่อาจทำสถิติได้มากถึงเพียงนี้?

จะเห็นว่า ถ้าไม่มีคู่ต่อสู้ ไม่มีการแข่งขัน โลกจะพัฒนาไปได้อย่างไร แต่ถ้า การแข่งขันที่มุ่งทำลายล้างคู่ต่อสู้ โดยไม่เลือกวิธีการ ก็จะกลายเป็นเรื่องของทุรชน ซึ่งจะได้รับผลร้านกลับไปในที่สุด ในเชิงหมากล้อม คนที่ยังไม่มีกำลังเข้มแข็งพอ แต่คิดมุ่งทำลายเพียงอย่างเดียวสุดท้ายจะเปราะและแตกดับไปเอง

ที่ญี่ปุ่น ก่อนเริ่มเล่นหมากล้อม โดยมารยาทอันดีงาม ผู้อ่อนอาวุโสกว่า มักจะโค้ง และกล่าวว่า ?ขอคำชี้แนะด้วยครับ? เป็นการให้เกียรติและ ยกย่องคู่ต่อสู้ เป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่นักหมากล้อมชาวไทยพึงเลียนแบบตามยิ่งนั


............................................................................................................................


เมื่อคนญี่ปุ่นสร้างชาติจากการเข้าคิว


http://onopen.com/vanchaitan/11-03-28/5762#.UUf2i-lgfQY.facebook

...........................................................................................................................

ความเห็นของคุณ Kitcle Opensource 

อาณาจักร Nokia ล่มสลาย เพราะหยิ่งผยอง ปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับสภาพความเป็นไปในปัจุจบัน
..อาณาจักร Kodak อนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ผู้ไม่ยอมเปลี่ยนไปตามโลก สุดท้าย ล่มสลาย
....อาณาจักร Sony เผด็จการณ์สุดโต่ง ผู้ไม่ยอมให้สาวกหรือตัวเองเข้ากับผู้อื่น ลุ่มหลงในตัวเองว่าเป็นศูนย์กลางของโลก ..สุดท้ายล่มสลาย


.............................................................................................................................





ต้องคิดว่าไม่แพ้

หากคุณต้องการตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเอาชนะ
สิ่งที่โชคชะตานำพามาหาคุณ
ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องทำอะไรใหญ่โต
คุณแค่ต้องเปิดทางใหม่ๆ
และเริ่มต้นจากสิ่งใกล้ตัว

ข้อคิดดีๆ บางส่วนจากหนังสือ ต้องคิดว่าไม่แพ้
ไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่าความพ่ายแพ้

เขียนโดย ริวโฮ โอคาวา
 — ที่ happy science thailand

....................................................................................................................................



จะเรียกว่า "การพนัน" หรือ "การลงทุน"
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าสินทรัพย์ที่คุณเอาเงินคุณโยนลงไปมันคืออะไร

** มันอยู่ที่วิธีคิดและวิธีการที่คุณทำกับสินทรัพย์นั้นต่างหาก **

นักเล่นโป๊กเกอร์ระดับโลก เขามองไพ่ เป็นเรื่องของความน่าจะเป็น และควบคุมความเสี่ยงด้วย Money Management
นั้นทำให้เขาเหนือกว่านักพนันทั่วไป

แมงเม่า นั่งจ้อง และหาหุ้นรายวัน มองว่ามันเป็นเรื่องของดวง โชคชะตา
นั้นทำให้เขาด้อยกว่า และโดนตลาดหุ้นลากไปลากมาจนหมดตัว!!

- Bank Chayanon -


..................................................................................................................................




รายก­ารตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน 5 ที่ถูกแบน กลับมาออกอากาศ 18 มีนาคม 2556 ทางไทยพีบีเอส
http://youtu.be/vKkxmj45bms

“ตอนนี้คนไทยมันยังไม่มีความกล้าหาญเพียงพอ แล้วไปแตะอะไรเข้าหน่อยมันกระเทือน กระเทือนตัวมันนะ มันหาว่ากระเทือนสถาบันอะไรต่างๆ ตอนนี้เราต้องพยายามทำให้คนส่วนใหญ่เขามีความกล้า เขาไม่แหย เขารู้สึกเขาพร้อมที่จะฟัง ตอนนี้ศาลนี่ไปแตะนิดไม่ได้เลย คือต้องเริ่มทำให้แตะได้ เห็นได้ และวิธีที่จะแตะก็คือ การศึกษาต้องกว้าง ต้องมองเห็นคนยากไร้เขาไม่ต่ำต้อยไปกว่าเรา เขามีคุณค่าเท่ากับเรา”
— สุลักษณ์ ศิวรักษ์

รูปที่เกี่ยวข้อง: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=224392507701077


...................................................................................................................................



นาย ก : ThaiPBS ปล่อยให้เทปตอบโจทย์ตอนที่ 5 ออกมาได้ยังไง อันนี้มันเป็นการย่ำยีหัวใจคนไทยมาก ทำลายประชาธิปไตยและการปกครองของไทย
นาย ข : ใครเป็นบอกคุณครับว่าทำลายประชาธิปไตย
นาย ก : ส.ว.สรรหา จากกลุ่ม 40 ส.ว. ครับ
นาย ข : อ้อ ที่มาของพวกแม่งนี่โคตรเป็นประชาธิปไตยเลยนะครับ เหี้ย

Cr : มิตรสหายท่านหนึ่ง


................................................................................................................................





"ไม่มีรายการอะไร หรือคิดรายการอะไรไม่ได้แล้วหรือ รู้หรือไม่ว่าทำรายการแบบนี้ เป็นประโยชน์อะไรกับใคร หรือก่อสติปัญญาตรงไหน มีแต่การก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม"

วันชัย สอนศิริ (ส.ว.สรรหา)
18 มีนาคม 2556

ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363590717

----------------------

"เรายินดีที่จะถูกประนาม คุกคาม เพื่อจะจุดไฟท่ามกลางความมืดหวาดขลาดกลัวต่อการสนทนาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้สว่างไสว เพื่อนำการกล่าวร้ายโจมตีในที่มืดออกสู่ที่แจ้ง ให้คนได้ถกแถลงแสดงเหตุผลและหักล้างกันด้วยปัญญา มิใช่อารมณ์"

ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
ในนามทีมงานรายการตอบโจทย์
16 มีนาคม 2556

ที่มา: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=225734624234422&set=a.189747724499779.45379.184911391650079&type=1&theater

- Admin PZ, AC & Ao

...................................................................................................................................


คลิป "ตอบโจทย์ฯ: สถาบันกษัตริย์ฯ" ที่ดูได้โดยไม่ต้องล็อคอิน

โดย Chotisak Onsoong (บันทึก) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2013 เวลา 18:14 น.

http://www.facebook.com/notes/chotisak-onsoong/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AF-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AF-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99/503975786326270

......................................................................................................................................



จริง ๆ ก็อยากถามกลับเหมือนกันนะครับ ว่า...แล้วไอ้ที่มาหลับในคาบ ลอกงานเพื่อนมาส่ง พฤติกรรมก้าวร้าว หนีเรียน สูบบุหรี่ และไม่มีความรับผิดชอบในการส่งงานเนี่ย "ใครสอน"

แต่ก็ไม่พูด เพราะเดี๋ยวก็เหมือนเดิม อะไรอะไรก็ครู เนอะ T^T


.....................................................................................................................................


.......................................................................................................................................



จริง ๆ ก็อยากถามกลับเหมือนกันนะครับ ว่า...แล้วไอ้ที่มาหลับในคาบ ลอกงานเพื่อนมาส่ง พฤติกรรมก้าวร้าว หนีเรียน สูบบุหรี่ และไม่มีความรับผิดชอบในการส่งงานเนี่ย "ใครสอน"

แต่ก็ไม่พูด เพราะเดี๋ยวก็เหมือนเดิม อะไรอะไรก็ครู เนอะ T^T


......................................................................................................................................




..........................................................................................................................................




เข้าใจแล้วครับ ใช่ครับพี่ ดีครับนาย

คำนี้แนะนำมาโดยคุณ Omongo Ognomo

........................................................................................................................................


พ่อแม่เลี้ยงผมมาด้วยความยากลำบาก ทำงานหาเงินอย่างเหนื่อยยากเอามาเลี้ยงผม ส่งเสียเรียนหนังสือจนจบ ไม่มีใครที่ไหนมาช่วยพ่อแม่ ไม่มีใครมาออกเงินให้

ผมไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็หาทุนต่างประเทศไปเรียนเอง ไม่ได้ใช้ทุนของประเทศไทยที่ไหนทั้งสิ้น

ผมเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ เงินเดือนและประโยชน์ที่ได้ทั้งหมดก็มาจากภาษีอากรของประชาชน เอามาจุนเจือมหาวิทยาลัยและตัวผมให้อยู่ได้ ประชาชนจึงเป็นผู้ที่เลี้ยงผมและเลี้ยงสถานที่ทำงานของผมด้วย

ผมทำงานเก็บเงินแทบเป็นแทบตาย ซื้อบ้านได้หน่อยหนึ่ง รถยนต์อีกคัน หาเงินมาจ่ายเองทั้งหมด ไม่มีใครช่วยผมทั้งนั้น ไม่เคยเอาเงินคนอื่นมาใช้ ผมเสียภาษีเงินได้เหมือนคนอื่น ๆ เขา ไม่เคยคดโกงทุจริตที่ไหน

ฉะนั้น ทุกสิ่งที่ผมมีในวันนี้ มาจากหยาดเหงื่อแรงงานและความเจ็บปวดของผมเองทั้งหมด ไม่มีใครมาช่วย ผมไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใครทั้งนั้น อย่าลำเลิก อย่าทวง! รำคาญ!

ผมทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และก็เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไปพร้อม ๆ กัน ผมทำงานหนักไม่แพ้คนอื่น อย่ามาอ้างว่า ทำงานหนักกว่าผม!

ผมจะรักจะชอบใคร มันก็อยู่ในใจผม ไม่เกี่ยวกับคนอื่น

ไม่มีใครหน้าไหน ไม่ว่าใหญ่สักแค่ไหน จะมีสิทธิ์มาไล่ผมออกไปจากบ้านของผมเอง จากผืนดินและสิ่งที่ผมหามาได้เอง ---- เข้าใจ?


.........................................................................................................................



...........................................................................................................................


หลายคนมีคำตอบให้กับการไม่ทำอะไรเสียทีว่าต้องมีกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดถึงจะเริ่มงาน ต้องมีแม็คบุ๊คโปรเท่านั้นถึงจะขยับตัว ต้องต่อเติมห้องทำงานใหม่เสร็จก่อนถึงจะบริหารได้
...
เฮมิงเวย์เขียนหนังสือด้วยปากกาหมึกซึมเก่าๆ สุนทรภู่พกแต่สมุดข่อย แวนโก๊ะใช้สีไม่เกินหกสี วอร์เรน บัพเฟตต์ทำงานในห้องเล็กๆกับเครื่องคิดเลขธรรมดา อุปกรณ์ชิ้นเดียวกันที่อัจฉริยะทั้งโลกใช้สร้างฝันคืออะไรหรือ
“ความมุ่งมั่น ไม่หวั่นไหว” นั่นอย่างไร
............................
จากหนังสือประโยคย้อนแสง
ประภาส ชลศรานนท์


............................................................................................................................



........................................................................................................................







































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น