» Case Study : ฮีโร่ผู้มาพลิกฟื้น JAL (Japan Airlines)
» Kazuo Inamori ผู้ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้ นฟู JAL โดยไม่ขอรับค่าตอบแทนแม้แต่ เยนเดียว
ในวันที่ต้องเข้าสู่กระบวนก ารล้มละลายเมื่อต้นปี 2010 เพราะการบริหารที่อุ้ยอ้าย และการเมืองเข้าแทรกแซงนั้น JAL มีหนี้สินมากถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งต้องถอนบริษัทออกจ ากตลาดหลักทรัพย์โตเกียวอีก ด้วย
ความท้าทายเฉพาะหน้าในขณะนั ้นก็คือ จะมีใครที่สามารถเข้ามาพลิก ฟื้น JAL ซึ่งอยู่ในอาการโคม่าขนาดนั ้น ได้หรือไม่
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทาบทามนาย Kazuo Inamori ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บร ิหารบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโล ก “Kyocera Corporation” ให้เข้ามาเป็นผู้นำในการฟื้ นฟู JAL ซึ่งนายอินาโมรินั้น อาจจะถือได้ว่ามีข้อด้อยอยู ่ข้อหนึ่งก็คือ เขาไม่เคยมีประสบการณ์หรือค วามรู้เกี่ยวกับธุรกิจการบิ นเลย แม้แต่นิดเดียว
◌◌◌◌◌◌◌◌
นายอินาโมริ เริ่มเข้ามาบริหารงาน JAL เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 และหลังจากผ่านไป 6 เดือน เขาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องรับงานหนักมาก น้ำหนักลดลงไปถึง 4 กิโลกรัม พร้อมกล่าวว่าสิ่งที่เขาได้ พบใน JAL ก็คือ...
“ผู้บริหารและพนักงานแบ่งฝั กแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน องค์กรขาดข้อมูลที่สะท้อนผล ประกอบการที่เป็นปัจจุบัน ความรับผิดชอบที่ไม่ชัดเจน รวมทั้งความไม่ใส่ใจอย่างจร ิงจังของผู้บริหารที่จะพลิก ฟื้นองค์กร ถือว่าเป็นองค์กรที่อุ้ยอ้า ย และผู้บริหารขาดความรับผิดช อบ”
เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที เดียว และนายอินาโมริยังบอกว่า มีข้าราชการเก่าหลายคนที่ใช ้เส้นสาย ลาออกก่อนกำหนดเพื่อรับเงิน ชดเชยก้อนโตจากรัฐบาล แล้วก็เบียดตัวเองเข้ามาเป็ นผู้บริหาร JAL ในอัตราเงินเดือนที่สูง
◌◌◌◌◌◌◌◌
ว่าแล้วนายอินาโมริ ก็ลงมือบริหารความเปลี่ยนแป ลงทันที โดยกำหนดให้ผู้บริหารระดับส ูงสุด 50 คน ต้องเข้า “โครงการฝึกอบรมผู้นำ” สัปดาห์ละ 4 ครั้ง รวมเวลาฝึกอบรมทั้งหมด 17 ครั้ง เพื่อให้ตระหนักว่า “ผู้นำที่ดีนั้น เป็นเช่นใด”
โดยเขาเป็นผู้ร่วมบรรยายด้ว ยถึง 6 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหม ายของเขา ว่า “ผู้นำที่ดีจะต้องมีความรอบ รู้ในเรื่องข้อมูลทางการเงิ น มีบุคลิกภาพที่ดี มีความลุ่มหลงในงานที่ทำ และความทุ่มเท เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”
หลังจากนั้น เขาก็ฝึกอบรมผู้บริหารในระด ับถัดไปจนครบ 200 คน บางครั้งเขาก็หิ้วกระป๋องเบ ียร์ เดินไปแจกพนักงาน แล้วดื่มเบียร์ไป พูดคุยกันไป เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกขอ งพนักงาน
นอกจากนั้น เขาพยายามลดต้นทุนทุกชนิด ด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งวีธีการปลุกจิตสำนึก ด้วยการติดป้ายราคา สิ่งของและเครื่องใช้ชนิดต่ างๆ เช่นกล่องบรรจุกระดาษ ก็ติดป้ายไว้ว่ากระดาษแต่ละ แผ่นที่พนักงานหยิบไปใช้นั้ น มีราคาแผ่นละเท่าใด เป็นต้น
◌◌◌◌◌◌◌◌
นายอินาโมริ ใช้เวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น ในการพลิกฟื้น JAL เพราะก่อนสิ้นปีแรก ก็ปรากฏว่าผลประกอบการเริ่ม สูงขึ้นกว่าที่คาดหวังแล้ว และหลังจากนั้นก็ดีขึ้นเรื่ อยๆ จนกระทั่งกลับมามีกำไร และสามารถ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรั พย์โตเกียว ได้อีกครั้ง ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 ปี เท่านั้น
ความสำเร็จล่าสุด ที่ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการ โดยตรง ก็คือ JAL ได้รับการจัดอันดับให้เป็นส ายการบินที่ตรงเวลาที่สุด เป็นอันดับหนึ่งของโลก ในปี 2012
การพลิกฟื้น JAL ครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องราวของความ สำเร็จอันยิ่งใหญ่ ที่สถาบันการศึกษาบริหารธุร กิจ จะต้องนำไปใช้เป็นกรณีศึกษา เพื่อสอนนักศึกษาและนักบริห าร อย่างแน่นอน
◌◌◌◌◌◌◌◌
เล่ามาถึงขนาดนี้ ผมยังไม่ได้บอกรายละเอียดเล ยว่า นายอินาโมริ นั้นมีอายุอานามเท่าใด มีศิลปะการบริหารอย่างไร จึงเก่งกาจขนาดนี้
เชื่อหรือไม่ครับว่า วันที่นายอินาโมริ ได้รับการทาบทามให้เข้าไปพล ิกฟื้น JAL เมื่อต้นปี 2010 นั้น เขามีอายุมากถึง 78 ปีแล้ว!
อายุขนาดนี้สำหรับคนทั่วไป ก็คือ ไม้ใกล้ฝั่ง ที่อยากพักผ่อน ใกล้หมดพลังทางกายหรือทางปั ญญา ไปแล้ว แต่เหตุใดรัฐบาลจึงกล้ามอบใ ห้คนวัยนี้ เข้าไปบริหารเพื่อฟื้นฟูองค ์กรขนาดยักษ์ ในภาวะล้มละลายอย่างร้ายแรง
และเหตุใดเขาจึงทำได้สำเร็จ ในระยะเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น!?
ต้องถือว่า อินาโมริ เป็นบุคคลพิเศษ เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera Corporation ด้วยตัวเอง เมื่อมีอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น
และบริษัทแห่งนี้ได้เติบโตข ึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการระด ับโลก ภายใต้การบริหารงานของเขามา เป็นเวลานานถึง 53 ปี และมีผลกำไรมาตลอด ไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่ปีเดี ยว
◌◌◌◌◌◌◌◌
อินาโมริ เป็นทั้งนักคิด นักเขียน นักพูด และ นักบวช เขามีปรัชญาในการบริหารงานท ี่น่าศึกษา วันแรกที่เขาเข้าไปรับตำแหน ่งซ๊อีโอของ JAL นั้น เขาบอกพนักงานตรงๆว่า “ผมเกลียด JAL มาก และไม่ใช้บริการ JAL มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว”
เขาให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงาน JAL ทำหน้าที่ตามหนังสือคู่มือเ ท่านั้น แต่ไม่ได้มีจิตใจในการให้บร ิการอันอบอุ่นแก่ผู้โดยสาร ที่เกิดขึ้นจากหัวใจ”
แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ในการ บริหารสายการบิน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาบอกว่าปรัชญาในการบริหาร ที่เขาใช้ได้เสมอ ก็คือ องค์กรไม่จำเป็นต้องมีเอกสา ร หรือพิธีรีตองอะไรมากมาย
“ขอเพียงให้ฝ่ายบริหารตระหน ักในปรัชญาเดียวกัน และตรงกัน ว่าหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ก็คือการสร้างความสุขกาย สุขใจ ให้เกิดขึ้นแก่พนักงาน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือก็คือสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นตามมาเอง”
ความจริงผมควรจะต้องเรียกเข าอย่างเต็มยศว่า ดร.อินาโมริ ผู้ซึ่งวันนี้อยู่ในวัย 82 ปี แล้ว เขาเป็นผู้บริหารอาวุโส ที่มากด้วยแนวคิด ปรัชญาการบริหาร และผลงานโดดเด่น
เขายอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้ นฟู JAL โดยไม่ขอรับค่าตอบแทนแม้แต่ เยนเดียว ดร. อินาโมริ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจ ากวงการทั่วโลก ได้รับเชิญไปบรรยาย ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประ เทศต่างๆ นับว่าเป็นผู้อาวุโส ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้ น
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม | กรุงเทพธุรกิจ
» Kazuo Inamori ผู้ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้
ในวันที่ต้องเข้าสู่กระบวนก
ความท้าทายเฉพาะหน้าในขณะนั
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทาบทามนาย Kazuo Inamori ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บร
◌◌◌◌◌◌◌◌
นายอินาโมริ เริ่มเข้ามาบริหารงาน JAL เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 และหลังจากผ่านไป 6 เดือน เขาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องรับงานหนักมาก น้ำหนักลดลงไปถึง 4 กิโลกรัม พร้อมกล่าวว่าสิ่งที่เขาได้
“ผู้บริหารและพนักงานแบ่งฝั
เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที
◌◌◌◌◌◌◌◌
ว่าแล้วนายอินาโมริ ก็ลงมือบริหารความเปลี่ยนแป
โดยเขาเป็นผู้ร่วมบรรยายด้ว
หลังจากนั้น เขาก็ฝึกอบรมผู้บริหารในระด
นอกจากนั้น เขาพยายามลดต้นทุนทุกชนิด ด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งวีธีการปลุกจิตสำนึก
◌◌◌◌◌◌◌◌
นายอินาโมริ ใช้เวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น ในการพลิกฟื้น JAL เพราะก่อนสิ้นปีแรก ก็ปรากฏว่าผลประกอบการเริ่ม
ความสำเร็จล่าสุด ที่ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการ
การพลิกฟื้น JAL ครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องราวของความ
◌◌◌◌◌◌◌◌
เล่ามาถึงขนาดนี้ ผมยังไม่ได้บอกรายละเอียดเล
เชื่อหรือไม่ครับว่า วันที่นายอินาโมริ ได้รับการทาบทามให้เข้าไปพล
อายุขนาดนี้สำหรับคนทั่วไป ก็คือ ไม้ใกล้ฝั่ง ที่อยากพักผ่อน ใกล้หมดพลังทางกายหรือทางปั
และเหตุใดเขาจึงทำได้สำเร็จ
ต้องถือว่า อินาโมริ เป็นบุคคลพิเศษ เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera Corporation ด้วยตัวเอง เมื่อมีอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น
และบริษัทแห่งนี้ได้เติบโตข
◌◌◌◌◌◌◌◌
อินาโมริ เป็นทั้งนักคิด นักเขียน นักพูด และ นักบวช เขามีปรัชญาในการบริหารงานท
เขาให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงาน JAL ทำหน้าที่ตามหนังสือคู่มือเ
แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ในการ
“ขอเพียงให้ฝ่ายบริหารตระหน
ความจริงผมควรจะต้องเรียกเข
เขายอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม | กรุงเทพธุรกิจ
Bordin Tik สุดยอด นี่แหละยอดคน
ขออนุญาติ แชร์ ต่อครับ
.................................................................................................................
สว.นักทวงคืนชื่อดังเคยบอกว ่าอเมริกาขายปลีกน้ำมันถูกก ว่าไทยมากมาย แต่สว.ท่านนั้นกลับนำราคาขา ยปลีกของไทยที่รวมภาษีและเง ินกองทุนน้ำมันเข้าไปมาเทีย บ ทั้งที่จริงๆแล้วต้องดูกันท ี่ราคาเนื้อน้ำมันเพียวๆ หรือราคาขายส่ง
แล้วเมื่อแอดมินไปค้นราคาน้ ำมันของอเมริกามาเทียบกัน สิ่งที่พบกับทำลายความเชื่อ เดิมๆไปจนหมดสิ้น เพราะราคาน้ำมันขายส่งๆเพีย วๆ ของอเมริกากับไทยไม่ได้ต่าง กันมากมายอย่างที่โจมตีกันเ ลย
น้ำมันของอเมริกาที่จะมาเทียบของไทยได ้ คือเกรด Regular เทียบกับเบนซิน 91 ของไทย เพราะมีค่าอ็อคเทนตรงกัน (วิธีคิดค่าอ็อคเทนของไทยกั บอเมริกาต่างกันตัวเลขไม่เล ยไม่ตรงกันเป๊ะๆ) หากอ้างอิงข้อมูลวันที่ 11/3/2013 จากเว็บhttp://www.eia.gov/ petroleum/gasdiesel/ ราคาน้ำมัน Regular ของอเมริกาขายปลีกอยู่ที่ 3.64 dollar/gallon แปลงเป็นลิตรได้ 0.96 dollar/liter อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 11/3 อยู่ที่ 29.89 บาท/ ดอลลาร์ ทำให้คำนวณได้ว่าน้ำมันของอเมริก ราคาลิตรละ 28.70 บาท
ข้อมูลในเว็บดังกล่าวระบุว่ าโครงสร้างราคาของอเมริกาจะ เก็บภาษีน้ำมันอยู่ที่ 13% ค่าการตลาด 7% ดังนั้นต้นทุนเนื้อน้ำมันขา ยส่งจึงอยู่ที่ 80% ถ้าคำนวณจากราคาเต็ม 28.70 บาท ทำให้ได้ราคาต้นทุนเนื้อน้ำ มันเพียวๆของอเมริกาเท่ากับ 22.96 บาท เมื่อมาเปิดราคาน้ำมันของไท ยในวันเดียวกัน เบนซิน 91 ขายปลีกอยู่ที่ 45.75 บาท/ ลิตร แต่หักภาษีและเงินกองทุนแล้ว ทำให้ได้ต้นทุนเนื้อน้ำมันเ พียวๆของไทยเท่ากับ 23.86 บาท
สรุปได้ว่าราคาน้ำมันจริงๆข องอเมริกาอยู่ที่ 22.96 บาท/ลิตร ส่วนของไทยอยู่ที่ 23.86 บาท/ ลิตร ดังนั้นน้ำมันของไทยแพงกว่าอเมริ กา 0.90 บาท คิดเป็น 3.92% เท่านั้น ความแตกต่างนี้มีนัยยะสำคัญ หรือไม่? เราต้องอย่าลืมว่าอเมริกาได ้เปรียบไทยในแง่ที่ว่าเป็นท ี่ตั้งของตลาดค้าน้ำมันใหญ่ ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ราคาอ้างอิงจึงน่าจะถูกกว่า ไทยที่อ้างอิงกับตลาดสิงคโป ร์ ต้นทุนการขนส่งก็น่าจะถูกกว ่าด้วย
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้ก ล่าวได้ในเบื้องต้นว่า น้ำมันขายปลีกของไทยไม่ได้แ พงกว่าอเมริกาอย่างที่โจมตี กันแต่อย่างใดครับ
แล้วเมื่อแอดมินไปค้นราคาน้
น้ำมันของอเมริกาที่จะมาเทียบของไทยได
ข้อมูลในเว็บดังกล่าวระบุว่
สรุปได้ว่าราคาน้ำมันจริงๆข
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้ก
แฉความจริง ทวงคืนปตท. ข้อมูลเรื่องค่าอ็อคเทนของอเมริกาดูได้ตามลิงก์ครับ
http://www.exxon.com/USA-English/GFM/fuels_quality_gas_faq.aspx
http://en.wikipedia.org/wiki/Octane_rating
Panot Joonkhiaw เทียบของที่เหมือนกัน ก็เอาน้ำมันที่ค่าอ็อคเทนเท่ากันมาเทียบกันสิครับ
ถ้าเรามี 91 เขามี 91 จะเอา 87 มาเทียบทำไม
แฉความจริง ทวงคืนปตท. วิธีคิดค่าออกเทนของไทยกับอเมริกาไม่เหมือนกันครับ ของไทยใช้ค่า Research Octane Number (RON) แต่ของอเมริกาใช้ค่า Anti-Knock Index (AKI) ซึ่งถ้าเอามาเทียบกันแล้ว 87 ของเค้าเทียบได้กับ 91 ของเราครับ
แฉความจริง ทวงคืนปตท. ส่วนเกรดพรีเมียมของเค้าถ้าเทียบกับเราจะได้ออกเทน 97 ครับ ซึ่งเกรดนี้ไม่มีขายในบ้านเราครับ
แฉความจริง ทวงคืนปตท. ค่าการตลาดของอเมริกา 7-11% ครับ ส่วนของไทยแค่ 3-5% เท่านั้นครับ เพราะงั้นเลิกพูดว่าค่าการตลาดทำให้น้ำมันไทยแพงได้เลย
ส่วนคนที่เอาค่าน้ำมันไปโยงกับค่าครองชีพ แอดมินเคยตอบไปหลายที่แล้วครับว่าเอามาโยงกันไม่ได้
แฉความจริง ทวงคืนปตท. ค่าครองชีพไม่ได้เป็นตัวกำหนดราคาน้ำมัน เอามาโยงกันไม่ได้ กรุณาอ่านโพสต์ล่าสุดครับ
แฉความจริง ทวงคืนปตท. 1.น้ำมันขึ้น-ลงแต่ละครั้งต้องดูด้วยว่าเพราะอะไร บางครั้งราคาไม่ลดลงเพราะเพิ่มเงินสมทบกองทุนน้ำมันเข้าไปเพื่อชดเชยส่วนต่างก็มีครับ
2.เรานำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเป็นหลัก จึงต้องดูกับตลาด Dubai ไม่ใช่ Brent
3.ราคาขายปลีกไม่ใช่ว่าสัมพันธ์กับราคาน้ำมันดิบเท่านั้น แต่มีกลไกราคา้น้ำมันสำเร็จที่อ้างอิงราคากลางสิงคโปร์ด้วย ตรงนี้เคยมีคนทำกราฟให้เห็นครับว่าราคาในประเทศกับราคาส่งมอบที่สิงคโปร์นั้นมี correlation กัน แต่ข้อมูลนี้แอดมินหาไม่พบแล้ว ยังไงจะค้นมานำเสนอให้ภายหลังครับ
........................................................................................................................
................................................................................................................................
นาย ก : รัฐบาลมีแผนลงทุน 2.2 ล้านล้านบาทโดยจะออกเป็น พรบ.ครับ
อภิสิทธิ์ : ผมไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้
นาย ก : ทำไมครับ ?
อภิสิทธิ์ : ข้อแรก มันเป็นการซ่อนสถานะหนี้ของประเ ทศ
นาย ก : อืมมม
อภิสิทธิ์ : และการใช้พรบ.เงินกู้จะทำให้ตรว จสอบยาก มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
นาย ก : เขาออกเป็นพรบ. ก็ต้องผ่านสภา ก็ต้องมาคุยกันอีกนี่ครับ
อภิสิทธิ์ : มีปัญหาแน่นอนครับ
นาย ก : ถ้าเป็นสมัยคุณจะไม่ออกพรบ.เงิน กู้ใช่ไหมครับ
อภิสิทธิ์ : ใช่ครับ ผมออกเป็น พรก. รวดเดียวเลย ไม่ต้องผ่านสภา โปร่งใสกว่าเห็นๆ
อภิสิทธิ์ : ผมไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้
นาย ก : ทำไมครับ ?
อภิสิทธิ์ : ข้อแรก มันเป็นการซ่อนสถานะหนี้ของประเ
นาย ก : อืมมม
อภิสิทธิ์ : และการใช้พรบ.เงินกู้จะทำให้ตรว
นาย ก : เขาออกเป็นพรบ. ก็ต้องผ่านสภา ก็ต้องมาคุยกันอีกนี่ครับ
อภิสิทธิ์ : มีปัญหาแน่นอนครับ
นาย ก : ถ้าเป็นสมัยคุณจะไม่ออกพรบ.เงิน
อภิสิทธิ์ : ใช่ครับ ผมออกเป็น พรก. รวดเดียวเลย ไม่ต้องผ่านสภา โปร่งใสกว่าเห็นๆ
...............................................................................................................................
'Theera Tangtirmthong http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=S_7yAdejXxs
................................................................................................................................
มีหลายท่านที่ชอบเอาราคาน้ำ มันไปโยงกับค่าครองชีพหรือค ่าแรงในแต่ละประเทศ เช่นบอกว่า "น้ำมันอเมริกาถูกกว่าเรา ทั้งที่ค่าแรงเค้าก็มากกว่า " ต้องขอบอกว่าเป็นการโยงที่ม ั่วซั่วครับ
เหตุผลสำคัญคือราคาสินค้าโภ คภัณฑ์ (น้ำมัน/ทองคำ/โลหะมีค่า/ สินค้าเกษตร) จะถูกกำหนดโดยกลไกราคาของสิ นค้านั้นๆ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าค่าแรงใน ประเทศหนึ่งๆจะเป็นอย่างไร ถ้าจะบอกว่าราคาสินค้าต้องเ ป็นไปตามค่าแรงในประเทศ งั้นประเทศที่ค่าแรงถูกๆก็ควรขายทองคำถูกกว่าป ระเทศที่ค่าแรงแพงๆด้วยสิคร ับ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะราคาไม่ว่าจะทองคำหรือ น้ำมันมีต้นทุนและมีกลไกที่ กำกับให้ราคาถูกหรือแพงต่าง กันไป
การจะเคลื่อนไหวเรียกร้องเร ื่องราคาพลังงาน จึงไม่ใช่ว่าพูดมั่วๆซั่วๆว ่าค่าแรงเราถูก ราคาพลังงานต้องถูก แต่ต้องมองว่าเพราะราคาพลัง งานแพง จึงควรเรียกร้องให้ปรับขึ้น ค่าแรงต่างหากถึงจะถูกต้อง
เหตุผลสำคัญคือราคาสินค้าโภ
การจะเคลื่อนไหวเรียกร้องเร
....................................................................................................................................
...................................................................................................................................
.....................................................................................................................................
................................................................................................................................
แม่หมาสอนลูกหมาลงบันได น่ารักมากกกก
http://www.facebook.com/photo.php?v=10151825405930550
เลิกใช้กระดาษ ซ่ะ !! เป็นไงละเจอแบบนี้ เงิบเลย
http://www.facebook.com/photo.php?v=539923039363550
.................................................................................................................................
เหลือเชื่อนะ..ถ้าบอกว่าเรา
..................................................................................................................................
....................................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น