วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

14/03/2556




» Case Study : ฮีโร่ผู้มาพลิกฟื้น JAL (Japan Airlines)
» Kazuo Inamori ผู้ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้นฟู JAL โดยไม่ขอรับค่าตอบแทนแม้แต่เยนเดียว

ในวันที่ต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเมื่อต้นปี 2010 เพราะการบริหารที่อุ้ยอ้าย และการเมืองเข้าแทรกแซงนั้น JAL มีหนี้สินมากถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งต้องถอนบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียวอีกด้วย

ความท้าทายเฉพาะหน้าในขณะนั้นก็คือ จะมีใครที่สามารถเข้ามาพลิกฟื้น JAL ซึ่งอยู่ในอาการโคม่าขนาดนั้น ได้หรือไม่

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทาบทามนาย Kazuo Inamori ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก “Kyocera Corporation” ให้เข้ามาเป็นผู้นำในการฟื้นฟู JAL ซึ่งนายอินาโมรินั้น อาจจะถือได้ว่ามีข้อด้อยอยู่ข้อหนึ่งก็คือ เขาไม่เคยมีประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับธุรกิจการบินเลย แม้แต่นิดเดียว


◌◌◌◌◌◌◌◌


นายอินาโมริ เริ่มเข้ามาบริหารงาน JAL เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 และหลังจากผ่านไป 6 เดือน เขาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องรับงานหนักมาก น้ำหนักลดลงไปถึง 4 กิโลกรัม พร้อมกล่าวว่าสิ่งที่เขาได้พบใน JAL ก็คือ...

“ผู้บริหารและพนักงานแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน องค์กรขาดข้อมูลที่สะท้อนผลประกอบการที่เป็นปัจจุบัน ความรับผิดชอบที่ไม่ชัดเจน รวมทั้งความไม่ใส่ใจอย่างจริงจังของผู้บริหารที่จะพลิกฟื้นองค์กร ถือว่าเป็นองค์กรที่อุ้ยอ้าย และผู้บริหารขาดความรับผิดชอบ”

เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงทีเดียว และนายอินาโมริยังบอกว่า มีข้าราชการเก่าหลายคนที่ใช้เส้นสาย ลาออกก่อนกำหนดเพื่อรับเงินชดเชยก้อนโตจากรัฐบาล แล้วก็เบียดตัวเองเข้ามาเป็นผู้บริหาร JAL ในอัตราเงินเดือนที่สูง


◌◌◌◌◌◌◌◌


ว่าแล้วนายอินาโมริ ก็ลงมือบริหารความเปลี่ยนแปลงทันที โดยกำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงสุด 50 คน ต้องเข้า “โครงการฝึกอบรมผู้นำ” สัปดาห์ละ 4 ครั้ง รวมเวลาฝึกอบรมทั้งหมด 17 ครั้ง เพื่อให้ตระหนักว่า “ผู้นำที่ดีนั้น เป็นเช่นใด”

โดยเขาเป็นผู้ร่วมบรรยายด้วยถึง 6 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา ว่า “ผู้นำที่ดีจะต้องมีความรอบรู้ในเรื่องข้อมูลทางการเงิน มีบุคลิกภาพที่ดี มีความลุ่มหลงในงานที่ทำ และความทุ่มเท เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”

หลังจากนั้น เขาก็ฝึกอบรมผู้บริหารในระดับถัดไปจนครบ 200 คน บางครั้งเขาก็หิ้วกระป๋องเบียร์ เดินไปแจกพนักงาน แล้วดื่มเบียร์ไป พูดคุยกันไป เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของพนักงาน

นอกจากนั้น เขาพยายามลดต้นทุนทุกชนิด ด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งวีธีการปลุกจิตสำนึก ด้วยการติดป้ายราคา สิ่งของและเครื่องใช้ชนิดต่างๆ เช่นกล่องบรรจุกระดาษ ก็ติดป้ายไว้ว่ากระดาษแต่ละแผ่นที่พนักงานหยิบไปใช้นั้น มีราคาแผ่นละเท่าใด เป็นต้น


◌◌◌◌◌◌◌◌


นายอินาโมริ ใช้เวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น ในการพลิกฟื้น JAL เพราะก่อนสิ้นปีแรก ก็ปรากฏว่าผลประกอบการเริ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดหวังแล้ว และหลังจากนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมามีกำไร และสามารถ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้อีกครั้ง ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 ปี เท่านั้น

ความสำเร็จล่าสุด ที่ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการโดยตรง ก็คือ JAL ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสายการบินที่ตรงเวลาที่สุด เป็นอันดับหนึ่งของโลก ในปี 2012

การพลิกฟื้น JAL ครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องราวของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ที่สถาบันการศึกษาบริหารธุรกิจ จะต้องนำไปใช้เป็นกรณีศึกษา เพื่อสอนนักศึกษาและนักบริหาร อย่างแน่นอน


◌◌◌◌◌◌◌◌


เล่ามาถึงขนาดนี้ ผมยังไม่ได้บอกรายละเอียดเลยว่า นายอินาโมริ นั้นมีอายุอานามเท่าใด มีศิลปะการบริหารอย่างไร จึงเก่งกาจขนาดนี้

เชื่อหรือไม่ครับว่า วันที่นายอินาโมริ ได้รับการทาบทามให้เข้าไปพลิกฟื้น JAL เมื่อต้นปี 2010 นั้น เขามีอายุมากถึง 78 ปีแล้ว!

อายุขนาดนี้สำหรับคนทั่วไป ก็คือ ไม้ใกล้ฝั่ง ที่อยากพักผ่อน ใกล้หมดพลังทางกายหรือทางปัญญา ไปแล้ว แต่เหตุใดรัฐบาลจึงกล้ามอบให้คนวัยนี้ เข้าไปบริหารเพื่อฟื้นฟูองค์กรขนาดยักษ์ ในภาวะล้มละลายอย่างร้ายแรง

และเหตุใดเขาจึงทำได้สำเร็จในระยะเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น!?

ต้องถือว่า อินาโมริ เป็นบุคคลพิเศษ เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera Corporation ด้วยตัวเอง เมื่อมีอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น

และบริษัทแห่งนี้ได้เติบโตขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการระดับโลก ภายใต้การบริหารงานของเขามาเป็นเวลานานถึง 53 ปี และมีผลกำไรมาตลอด ไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่ปีเดียว


◌◌◌◌◌◌◌◌


อินาโมริ เป็นทั้งนักคิด นักเขียน นักพูด และ นักบวช เขามีปรัชญาในการบริหารงานที่น่าศึกษา วันแรกที่เขาเข้าไปรับตำแหน่งซ๊อีโอของ JAL นั้น เขาบอกพนักงานตรงๆว่า “ผมเกลียด JAL มาก และไม่ใช้บริการ JAL มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว”

เขาให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงาน JAL ทำหน้าที่ตามหนังสือคู่มือเท่านั้น แต่ไม่ได้มีจิตใจในการให้บริการอันอบอุ่นแก่ผู้โดยสาร ที่เกิดขึ้นจากหัวใจ”

แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ในการบริหารสายการบิน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาบอกว่าปรัชญาในการบริหารที่เขาใช้ได้เสมอ ก็คือ องค์กรไม่จำเป็นต้องมีเอกสาร หรือพิธีรีตองอะไรมากมาย

“ขอเพียงให้ฝ่ายบริหารตระหนักในปรัชญาเดียวกัน และตรงกัน ว่าหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ก็คือการสร้างความสุขกาย สุขใจ ให้เกิดขึ้นแก่พนักงาน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือก็คือสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นตามมาเอง”

ความจริงผมควรจะต้องเรียกเขาอย่างเต็มยศว่า ดร.อินาโมริ ผู้ซึ่งวันนี้อยู่ในวัย 82 ปี แล้ว เขาเป็นผู้บริหารอาวุโส ที่มากด้วยแนวคิด ปรัชญาการบริหาร และผลงานโดดเด่น

เขายอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้นฟู JAL โดยไม่ขอรับค่าตอบแทนแม้แต่เยนเดียว ดร. อินาโมริ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากวงการทั่วโลก ได้รับเชิญไปบรรยาย ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศต่างๆ นับว่าเป็นผู้อาวุโส ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้


◌◌◌◌◌◌◌◌


Credit : ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม | กรุงเทพธุรกิจ


Bordin Tik สุดยอด นี่แหละยอดคน 

ขออนุญาติ แชร์ ต่อครับ

.................................................................................................................



สว.นักทวงคืนชื่อดังเคยบอกว่าอเมริกาขายปลีกน้ำมันถูกกว่าไทยมากมาย แต่สว.ท่านนั้นกลับนำราคาขายปลีกของไทยที่รวมภาษีและเงินกองทุนน้ำมันเข้าไปมาเทียบ ทั้งที่จริงๆแล้วต้องดูกันที่ราคาเนื้อน้ำมันเพียวๆ หรือราคาขายส่ง

แล้วเมื่อแอดมินไปค้นราคาน้ำมันของอเมริกามาเทียบกัน สิ่งที่พบกับทำลายความเชื่อเดิมๆไปจนหมดสิ้น เพราะราคาน้ำมันขายส่งๆเพียวๆ ของอเมริกากับไทยไม่ได้ต่างกันมากมายอย่างที่โจมตีกันเลย

น้ำมันของอเมริกาที่จะมาเทียบของไทยได้ คือเกรด Regular เทียบกับเบนซิน 91 ของไทย เพราะมีค่าอ็อคเทนตรงกัน (วิธีคิดค่าอ็อคเทนของไทยกับอเมริกาต่างกันตัวเลขไม่เลยไม่ตรงกันเป๊ะๆ) หากอ้างอิงข้อมูลวันที่ 11/3/2013 จากเว็บhttp://www.eia.gov/petroleum/gasdiesel/ ราคาน้ำมัน Regular ของอเมริกาขายปลีกอยู่ที่ 3.64 dollar/gallon แปลงเป็นลิตรได้ 0.96 dollar/liter อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 11/3 อยู่ที่ 29.89 บาท/ดอลลาร์ ทำให้คำนวณได้ว่าน้ำมันของอเมริก ราคาลิตรละ 28.70 บาท

ข้อมูลในเว็บดังกล่าวระบุว่าโครงสร้างราคาของอเมริกาจะเก็บภาษีน้ำมันอยู่ที่ 13% ค่าการตลาด 7% ดังนั้นต้นทุนเนื้อน้ำมันขายส่งจึงอยู่ที่ 80% ถ้าคำนวณจากราคาเต็ม 28.70 บาท ทำให้ได้ราคาต้นทุนเนื้อน้ำมันเพียวๆของอเมริกาเท่ากับ 22.96 บาท เมื่อมาเปิดราคาน้ำมันของไทยในวันเดียวกัน เบนซิน 91 ขายปลีกอยู่ที่ 45.75 บาท/ลิตร แต่หักภาษีและเงินกองทุนแล้ว ทำให้ได้ต้นทุนเนื้อน้ำมันเพียวๆของไทยเท่ากับ 23.86 บาท

สรุปได้ว่าราคาน้ำมันจริงๆของอเมริกาอยู่ที่ 22.96 บาท/ลิตร ส่วนของไทยอยู่ที่ 23.86 บาท/ลิตร ดังนั้นน้ำมันของไทยแพงกว่าอเมริกา 0.90 บาท คิดเป็น 3.92% เท่านั้น ความแตกต่างนี้มีนัยยะสำคัญหรือไม่? เราต้องอย่าลืมว่าอเมริกาได้เปรียบไทยในแง่ที่ว่าเป็นที่ตั้งของตลาดค้าน้ำมันใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ราคาอ้างอิงจึงน่าจะถูกกว่าไทยที่อ้างอิงกับตลาดสิงคโปร์ ต้นทุนการขนส่งก็น่าจะถูกกว่าด้วย

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้กล่าวได้ในเบื้องต้นว่า น้ำมันขายปลีกของไทยไม่ได้แพงกว่าอเมริกาอย่างที่โจมตีกันแต่อย่างใดครับ


แฉความจริง ทวงคืนปตท. ข้อมูลเรื่องค่าอ็อคเทนของอเมริกาดูได้ตามลิงก์ครับ
http://www.exxon.com/USA-English/GFM/fuels_quality_gas_faq.aspx

http://en.wikipedia.org/wiki/Octane_rating


Panot Joonkhiaw เทียบของที่เหมือนกัน ก็เอาน้ำมันที่ค่าอ็อคเทนเท่ากันมาเทียบกันสิครับ
ถ้าเรามี 91 เขามี 91 จะเอา 87 มาเทียบทำไม


แฉความจริง ทวงคืนปตท. วิธีคิดค่าออกเทนของไทยกับอเมริกาไม่เหมือนกันครับ ของไทยใช้ค่า Research Octane Number (RON) แต่ของอเมริกาใช้ค่า Anti-Knock Index (AKI) ซึ่งถ้าเอามาเทียบกันแล้ว 87 ของเค้าเทียบได้กับ 91 ของเราครับ

แฉความจริง ทวงคืนปตท. ส่วนเกรดพรีเมียมของเค้าถ้าเทียบกับเราจะได้ออกเทน 97 ครับ ซึ่งเกรดนี้ไม่มีขายในบ้านเราครับ

แฉความจริง ทวงคืนปตท. ค่าการตลาดของอเมริกา 7-11% ครับ ส่วนของไทยแค่ 3-5% เท่านั้นครับ เพราะงั้นเลิกพูดว่าค่าการตลาดทำให้น้ำมันไทยแพงได้เลย

ส่วนคนที่เอาค่าน้ำมันไปโยงกับค่าครองชีพ แอดมินเคยตอบไปหลายที่แล้วครับว่าเอามาโยงกันไม่ได้


แฉความจริง ทวงคืนปตท. ค่าครองชีพไม่ได้เป็นตัวกำหนดราคาน้ำมัน เอามาโยงกันไม่ได้ กรุณาอ่านโพสต์ล่าสุดครับ

แฉความจริง ทวงคืนปตท. 1.น้ำมันขึ้น-ลงแต่ละครั้งต้องดูด้วยว่าเพราะอะไร บางครั้งราคาไม่ลดลงเพราะเพิ่มเงินสมทบกองทุนน้ำมันเข้าไปเพื่อชดเชยส่วนต่างก็มีครับ

2.เรานำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเป็นหลัก จึงต้องดูกับตลาด Dubai ไม่ใช่ Brent

3.ราคาขายปลีกไม่ใช่ว่าสัมพันธ์กับราคาน้ำ
มันดิบเท่านั้น แต่มีกลไกราคา้น้ำมันสำเร็จที่อ้างอิงราคากลางสิงคโปร์ด้วย ตรงนี้เคยมีคนทำกราฟให้เห็นครับว่าราคาในประเทศกับราคาส่งมอบที่สิงคโปร์นั้นมี correlation กัน แต่ข้อมูลนี้แอดมินหาไม่พบแล้ว ยังไงจะค้นมานำเสนอให้ภายหลังครับ



........................................................................................................................



................................................................................................................................


นาย ก : รัฐบาลมีแผนลงทุน 2.2 ล้านล้านบาทโดยจะออกเป็น พรบ.ครับ
อภิสิทธิ์ : ผมไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้
นาย ก : ทำไมครับ ?
อภิสิทธิ์ : ข้อแรก มันเป็นการซ่อนสถานะหนี้ของประเทศ
นาย ก : อืมมม
อภิสิทธิ์ : และการใช้พรบ.เงินกู้จะทำให้ตรวจสอบยาก มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
นาย ก : เขาออกเป็นพรบ. ก็ต้องผ่านสภา ก็ต้องมาคุยกันอีกนี่ครับ
อภิสิทธิ์ : มีปัญหาแน่นอนครับ
นาย ก : ถ้าเป็นสมัยคุณจะไม่ออกพรบ.เงินกู้ใช่ไหมครับ
อภิสิทธิ์ : ใช่ครับ ผมออกเป็น พรก. รวดเดียวเลย ไม่ต้องผ่านสภา โปร่งใสกว่าเห็นๆ


...............................................................................................................................




'Theera Tangtirmthong http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=S_7yAdejXxs
www.youtube.com
เจ็บจุงเบย ยังไม่ทันซา ก็มีคำใหม่ขึ้นมาบน Social Network ไอ้เรามันคนทันสถานการณ์ ที่ทำงานผ่านเสียงเพลง บ่องตงเลยว่า คาวบอย จัดให้ครับ โหลดริงโทนและเสียงรอสาย...


................................................................................................................................



มีหลายท่านที่ชอบเอาราคาน้ำมันไปโยงกับค่าครองชีพหรือค่าแรงในแต่ละประเทศ เช่นบอกว่า "น้ำมันอเมริกาถูกกว่าเรา ทั้งที่ค่าแรงเค้าก็มากกว่า" ต้องขอบอกว่าเป็นการโยงที่มั่วซั่วครับ

เหตุผลสำคัญคือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน/ทองคำ/โลหะมีค่า/สินค้าเกษตร) จะถูกกำหนดโดยกลไกราคาของสินค้านั้นๆ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าค่าแรงในประเทศหนึ่งๆจะเป็นอย่างไร ถ้าจะบอกว่าราคาสินค้าต้องเป็นไปตามค่าแรงในประเทศ งั้นประเทศที่ค่าแรงถูกๆก็ควรขายทองคำถูกกว่าประเทศที่ค่าแรงแพงๆด้วยสิครับ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะราคาไม่ว่าจะทองคำหรือน้ำมันมีต้นทุนและมีกลไกที่กำกับให้ราคาถูกหรือแพงต่างกันไป

การจะเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องราคาพลังงาน จึงไม่ใช่ว่าพูดมั่วๆซั่วๆว่าค่าแรงเราถูก ราคาพลังงานต้องถูก แต่ต้องมองว่าเพราะราคาพลังงานแพง จึงควรเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงต่างหากถึงจะถูกต้อง


....................................................................................................................................


สิ่งที่ผมอยากรู้มากที่สุดสำหรับไอ้เพจพวก "ทวงคืนปตท." เนี่ย ช่วยบอกหน่อยว่า ทวงคืนเนี่ยทวงคืนจากใคร ??? ถ้าทวงคืนได้แล้วจะเอาไปให้ใคร ???

ผมแม่งงงเหี้ย ๆ ว่า ทวงคือมาให้ใครว่ะ ทุกวันนี้กระทรวงการคลังแม่งก็ถือหุ้นทางตรงบวกทางอ้อมปาไปเกือบ 70% เข้าไปแล้ว ที่เหลือก็กระจาย ๆ กันไปในตลาดหุ้น ... แล้วพี่จะทวงจากใคร ทวงไอ้ 30% ที่เหลือเหรอ หรือทวง 70% จากการทรวงการคลัง

.... ทวงมาได้แล้วให้ทำไงต่อ ... เอาคืนเข้าเป็นระบบราชการเหมือนเดิม โถ ๆ ๆ ๆ แบบรถไฟไทย? (ซึ่งคุณภาพดีสัสหมา แถมราคาก็ไม่ใช่ถูก)


...................................................................................................................................


.....................................................................................................................................


ความเห็นส่วนตัว ผมไม่เคยเห็นด้วยกับการรณรงค์เพื่อผลประโยชน์แพทย์ของชมรมแพทย์ชนบทเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะ! มันคิดแต่จะดึงเม็ดเงินทั้งหมดของกระทรวง สธ เข้าวิชาชีพเดียวคือแพทย์ วิชาชีพอื่นแทบไม่ได้ส่วนแบ่งเลย ทำให้อัตราเบี้ยเหมาจ่ายของแพทย์กับวิชาชีพอื่นต่างกับราวฟ้ากับเหว จริงๆมันควรเกลี่ยให้เป็นธรรมยิ่งกว่านี้ ถ้าใครเคยเห็นหนังสือเวียนของชมรมแพทย์ชนบทที่ส่งให้ ผอ ของแต่ละ รพ จะเข้าใจว่าการพูดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ของพวกพ้องอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นเลยมันเป็นยังไง


................................................................................................................................


แม่หมาสอนลูกหมาลงบันได น่ารักมากกกก


http://www.facebook.com/photo.php?v=10151825405930550



เลิกใช้กระดาษ ซ่ะ !! เป็นไงละเจอแบบนี้ เงิบเลย

http://www.facebook.com/photo.php?v=539923039363550

.................................................................................................................................




เหลือเชื่อนะ..ถ้าบอกว่าเราจะสามารถสร้างโมเดล 3 มิติได้จากปากกาเขียนกลางอากาศ ไปดูด้วยตาตัวเองเลยค่ะ http://www.iurban.in.th/inspiration/3doodler-worlds-3d-printing-pen/


..................................................................................................................................


....................................................................................................................................































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น