................................................................................................................................
ถ้าไม่ทวงคืนปตท. แล้วจะทำอย่างไรให้ ปตท. มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่บิดเบือนการใช้ก๊าซธรรมชา ติ หรือทำลายสิ่งแวดล้อม? (ย้ำ ไม่ใช่น้ำมัน เพราะธุรกิจน้ำมันไม่ใช่ธุรกิจท ี่สร้างกำไรให้ ปตท.)
ทุกท่านสามารถรวบรวมหลักฐานข้อม ูลที่เชื่อว่าเป็นจริง หาก ปตท. มีการบริหารไม่โปร่งใส กระทำมิชอบ หรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใดผู้หน ึ่ง หรือทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ส่งต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐส ภา เพื่อให้ฟ้องศาลปกครอง (ปตท. มีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ กำกับควบคุมโดยกระทรวงการคลังแล ะกระทรวงพลังงาน ดังนั้นการกระทำของ ปตท. ถือว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ) ดังที่ทางมูลนิธิคุ้มครองผู้บริ โภค และส.ว. รสนาเคยทำมาจนพิพากษาจบไปแล้วใน ปี 2550
ท่านอาจรวมกลุ่มกันเป็นคณะบุคคล องค์กร จัดทำข้อมูลคดี โดยร่วมมือกันยื่นเอกสารหลักฐาน ให้แก่คณะกรรมาธิการด้านพลังงาน ของสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภา เพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องมาตรวจส อบ
แน่นอนว่า ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยข้อมูล ที่ครบถ้วน ไม่บิดเบือนบางส่วนเพื่อหลอกลวง ประชาชน
ทุกท่านสามารถรวบรวมหลักฐานข้อม
ท่านอาจรวมกลุ่มกันเป็นคณะบุคคล
แน่นอนว่า ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยข้อมูล
.................................................................................................................................
รู้ไปทำไมว่า นี่คือทางลงสถานีรถไฟฟ้าใต้
แฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี เปิดใช้ในปี 1986 เป็นการออกแบบทางลงให้เป็นส
ทางลงนี้ไปยังสถานี Bockenheimer Warte ส่วนตึกที่อยู่ด้านหลังคือโ
...........................................................................................................................
สืบเนื่องจากมีการกล่าวอ้าง กันมาเกี่ยวกับเรื่องแหล่งพ ลังงานและการให้สัมปทานในปร ะเทศไทย ทางเพจประเทศไทย 101 จึงขอนำเสนอข้อมูลจากกรมเชื ้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงานที่ได้ออกมาช ี้แจงข้อกล่าวหาเหล่านี้กัน ครับ
[เจาะลึกทุกเรื่องที่คุณอยา กรู้ : ถาม-ตอบยอดฮิตจากการสำรวจแล ะผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ]
โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
ส่วนข้างหลังนี้คัดลอกจาก บทสรุปผู้บริหาร
สาระสำคัญของคำชี้แจงในเนื้ อหาหลัก จากเอกสารเรื่อง ถาม-ตอบยอดฮิตจากการ
สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในปร ะเทศไทย ซึ่งเป็นข้อสงสัยหรือข้อห่ว งกังวลของสาธารณชน สามารถสรุปได้ 4 ประเด็นที่สำคัญดังต่อไปนี้
ประเด็นที่ 1 : ตามที่กล่าวอ้างว่า ประเทศไทยรวมถึงอาณาเขตทางท ะเลของประเทศไทยเป็นแหล่งทร ัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำมันแล ะก๊าซที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งข้อมูลทั้งในและต ่างประเทศได้ประมาณว่า ประเทศไทยมีปริมาณปิโตรเลีย มจำนวนมากเป็นอันดับค่อนข้า งสูงของโลกและส่งออกได้ในปร ิมาณที่มากกว่าประเทศในกลุ่ มโอเปคบางประเทศ นั้น
ในประเด็นนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใคร่ข อเรียนชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1.1 ประเทศไทยไม่ได้มีปิโตรเลีย มเป็นจำนวนมากมายมหาศาลดังท ี่กล่าวอ้าง และ
ไม่ได้เป็นประเทศผู้ส่งออกน ้ำมันดิบ แต่เป็นประเทศที่ต้องนำเข้า น้ำมันดิบเกือบทั้งหมด ดังจะเห็นได้จากปี 2554 ประเทศไทยมีปริมาณสำรองก๊าซ ธรรมชาติที่พิสูจน์แล้วประม าณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือร้อยละ 0.1 ของปริมาณสำรองทั่วโลก สำหรับปริมาณสำรองน้ำมันดิบ มีประมาณ 4 ร้อยล้านบาร์เรล คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อย ละ 0.02 ของปริมาณสำรองทั่วโลก
จากข้อมูลในรายงาน BP Statistical Review of World Energy Outlook
2012 แสดงข้อมูลปริมาณสำรองปิโตร เลียมที่พิสูจน์แล้วทั่วโลก ณ ปี 2554 โดยจำแนกเป็นปริมาณสำรองก๊า ซธรรมชาติประมาณ 7,361 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และปริมาณสำรองน้ำมันดิบประ มาณ1.65 ล้านล้านบาร์เรล ในปัจจุบัน (ปีพ.ศ. 2555) ทั่วโลกมีปริมาณการใช้ก๊าซธ รรมชาติรวมวันละ 311,800 ล้านลูกบาศก์ฟุต หากปริมาณสำรองไม่เพิ่มขึ้น และยังคงมีการใช้ในระดับนี้ ต่อไป โลกจะมีก๊าซธรรมชาติเหลือใช ้ต่อไปอีก 64 ปี สำหรับประเทศไทยนั้น มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติท ี่พิสูจน์แล้วประมาณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือร้อยละ 0.1 ของปริมาณสำรองทั่วโลก ขณะที่อัตราการผลิตจากพื้นท ี่สัมปทานในประเทศอยู่ที่ 2,794 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากมีอัตราการผลิตคงที่อยู่ ในระดับนี้ ประเทศไทยจะมีก๊าซเหลือใช้ต ่อไปอีกไม่ถึง 10 ปี (ค่า R/ P ratio แสดงจำนวนปีที่ผลิตปิโตรเลียมไ ด้ได้มาจากการนำปริมาณสำรอง ปิโตรเลียม (Reserves) หารด้วยอัตราการผลิตปิโตรเล ียมต่อปี (Production)) รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 1 สำหรับปริมาณสำรองน้ำมันดิบ ที่พิสูจน์แล้วทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตะวัน ออก
กลางและอเมริกา โดยประเทศเวเนซุเอลา ซาอุดิอาระเบีย และแคนาดา มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่พ ิสูจน์แล้วมากที่สุดเป็นสาม อันดับแรก คือ 0.296 0.265 และ 0.175 ล้านล้านบาร์เรล ตามลำดับเมื่อพิจารณาว่าทั่ วโลกมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ รวม 1.65 ล้านล้านบาร์เรลและมีการใช้ น้ำมันดิบประมาณวันละ 88 ล้านบาร์เรล ดังนั้น หากยังมีปริมาณการใช้อยู่ใน ระดับนี้ก็จะมีน้ำมันดิบใช้ ไปอีกประมาณ 54 ปี สำหรับปริมาณสำรองน้ำมันดิบ ของประเทศไทยมีประมาณ 4 ร้อยล้านบาร์เรล
คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อย ละ 0.02 ของปริมาณสำรองทั่วโลก (ค่า R/ P ratio น้ำมันดิบของประเทศไทยไม่สามาร ถนำมาใช้วิเคราะห์ว่าประเทศ ไทยยังมีน้ำมันดิบเหลือใช้อ ีก 5 ปี เพราะประเทศไทยใช้น้ำมันดิบ มากกว่าที่ผลิตมาก ประเทศไทยใช้น้ำมันดิบวันละ ประมาณ 1 ล้านบาร์เรล แต่สามารถผลิตได้เพียงวันละ ประมาณ 2 แสนบาร์เรล จึงต้องนำเข้าอีกประมาณวันล ะ 8 แสนบาร์เรล) รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2
ตารางที่ 1 : ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว อัตราการผลิต จำนวนปีที่ผลิตก๊าซธรรมชาติ ได้ และอัตราการบริโภคก๊าซธรรมช าติของประเทศที่มีแหล่งก๊าซ ธรรมชาติสำคัญและประเทศเพื่ อนบ้านของไทย
ตารางที่ 2 : ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว อัตราการผลิต จำนวนปีที่ผลิตน้ำมันดิบได้ และ อัตราการบริโภคน้ำมันดิบของ ประเทศที่มีแหล่งน้ำมันดิบส ำคัญและประเทศเพื่อนบ้านของ ไทย
1.2 ประเทศไทยไม่ได้ผลิตปิโตรเล ียมได้มากและส่งออกเป็นอันด ับต้นๆ ของโลกดังจะ
เห็นได้จากปีพ.ศ. 2554 ประเทศไทยผลิตก๊าซธรรมชาติว ันละประมาณ 2.8 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (ไม่รวมส่วนที่ผลิตจากพื้นท ี่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย) หรือร้อยละ 0.9 ของอัตราการผลิตทั่วโลก สำหรับอัตราการผลิตน้ำมันดิ บรวมกับก๊าซธรรมชาติเหลว (หรือ Condensate) นั้น ผลิตวันละประมาณ 2 แสนบาร์เรล คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.3 ของอัตราการผลิตทั่วโลก แต่การวิเคราะห์อัตราการผลิ ตเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เข ้าใจผิดได้ การจะชี้ว่าประเทศใดผลิตปิโ ตรเลียมได้มากหรือน้อยจึงคว รต้องเปรียบเทียบกับอัตรากา รบริโภคหรือใช้พลังงานด้วย ตัวอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถผล ิตก๊าซธรรมชาติได้มากที่สุด ในโลก 63 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ไม่พอเพียงกับความต้องกา รใช้ในประเทศ ที่ 66.8 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสหรั ฐอเมริกาเป็นประเทศขนาดใหญ่ ที่มีประชากรมากและมีอุตสาห กรรมต่างๆมากมาย อีกตัวอย่างคือประเทศกาตาร์ ที่ผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 14.2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน น้อยกว่าประเทศอเมริกาถึง 4 เท่า แต่สามารถเป็นผู้นำการส่งออ กก๊าซธรรมชาติของโลก เพราะความต้องการใช้ในประเท ศมีเพียง 2.3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อ
วัน สำหรับประเทศไทยผลิตก๊าซธรร มชาติวันละประมาณ 2.8 พันล้านลูกบาศก์ฟุต หรือร้อยละ 0.9ของอัตราการผลิตทั่วโลก แต่บริโภค 4.5 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือร้อยละ 1.4 ของอัตราการบริโภคของโลก สำหรับอัตราการผลิตน้ำมันดิ บรวมก๊าซธรรมชาติเหลวผลิตวั นละประมาณ 2 แสนบาร์เรล คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.3 ของอัตราการผลิตทั่วโลก แต่บริโภค 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 1 ของอัตราการบริโภคของโลก ซึ่งจากอัตราการบริโภคน้ำมั นดิบและก๊าซธรรมชาติแสดงให้ เห็นได้ว่าประเทศไทยมีการบร ิโภคหรือใช้ปิโตรเลียมมากกว ่าปิโตรเลียมที่ผลิตได้เองใ นประเทศ
1.3 ในด้านการส่งออกปิโตรเลียมใ นปีพ.ศ. 2554 ประเทศไทยมีการส่งออกปิโตรเ ลียม
ทั้งสิ้นวันละ 256,731 บาร์เรล คิดเป็นมูลค่า 319,064 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1) น้ำมันดิบในปริมาณวันละ 33,321 บาร์เรล (ร้อยละ 4 ของความต้องการใช้ของประเทศ ) ทั้งนี้ปริมาณที่ส่งออกทั้ง หมดเป็นน้ำมันดิบที่ผลิตได้ จากแหล่งในอ่าวไทย สำหรับน้ำมันดิบที่ผลิตได้จ ากแหล่งบนบก และคอนเดนเสทจากแหล่งผลิตใน ประเทศไม่มีการส่งออกแต่อย่ างใด 2) น้ำมันสำเร็จรูปในปริมาณวัน ละ 181,486 บาร์เรล คิดเป็นร้อยละ 70 ของการส่งออกปิโตรเลียมทั้ง หมด หรือคิดเป็นมูลค่า 231,615 ล้านบาท เนื่องจากประเทศไทยมีกำลังก ลั่นมากเกินกว่าความต้องการ ของประเทศและ 3) น้ำมันองค์ประกอบในปริมาณวั นละ 41,924 บาร์เรล หรือคิดเป็นมูลค่า 47,534 ล้านบาท
(รายละเอียดตามตารางที่ 3) จะเห็นได้ว่าการส่งออกปิโตร เลียมส่วนใหญ่เป็นการส่งออก น้ำมันสำเร็จรูปส่วนเกินจาก ความต้องการใช้ของประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและส ร้างรายได้ให้ประเทศอีกทางห นึ่งด้วย
สำหรับสาเหตุสำคัญของการส่ง ออกน้ำมันดิบบางส่วนที่ผลิต ได้จากแหล่งผลิตใน
อ่าวไทยมีดังนี้
1) คุณภาพของน้ำมันดิบไม่เป็นท ี่ต้องการของโรงกลั่นภายในป ระเทศ น้ำมันดิบจากบางแหล่งในอ่าว ไทย จัดเป็นประเภท Light Crude ซึ่งเมื่อกลั่นแล้วจะให้ผลผ ลิตเป็นน้ำมันเบนซินในสัดส่ วนที่สูง จึงไม่เหมาะกับตลาดผู้ใช้น้ ำมันภายในประเทศ ที่มีความต้องการใช้ดีเซลสู ง การส่งออกน้ำมันดิบที่มีคุณ สมบัติไม่เหมาะสมกับโรงกลั่ นจะสร้างมูลค่าเพิ่มและรายไ ด้ให้กับประเทศสูงกว่า
2) น้ำมันดิบมีสารเจือปน เช่น ปรอท มากเกินกว่าความสามารถของโร งกลั่นที่จะรับได้ โรงกลั่นภายในประเทศจำเป็นต ้องลงทุนเพิ่มเติม และใช้ระยะเวลาดำเนินการ เพื่อสร้างความพร้อมที่จะกล ั่นน้ำมันดิบที่มีสารเจือปน ดังกล่าวโดยไม่สร้างความเสี ยหายแก่อุปกรณ์การกลั่น
ประเด็นที่ 2 : ตามที่อ้างว่า การเปิดประมูลสัมปทานสำรวจแ ละขุดเจาะปิโตรเลียมในประเท ศไทยทั้งบนบกและอ่าวไทย จำนวน 22 แปลง รวมพื้นที่กว่า 45,000 ตารางกิโลเมตร เป็นการเปิดโอกาสให้กับบริษ ัทข้ามชาติจัดเก็บผลประโยชน ์จากการให้สัมปทาน ทำให้ประเทศเสียเปรียบ นั้นในประเด็นนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใคร่ข อเรียนชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้
การเปิดให้ยื่นขอสัมปทานปิโ ตรเลียมจะประกาศเป็นการทั่ว ไป ซึ่งทั้งบริษัทน้ำมัน
ของคนไทยและ/ หรือบริษัทจากต่างประเทศที่ม ีคุณสมบัติของผู้รับสัมปทาน ตามมาตรา 24 แห่งพ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 สามารถยื่นขอได้เท่าเทียมกั นโดยไม่จำกัดสัญชาติ แต่ในอดีตที่ผ่านมามีบริษัท ไทยยื่นขอน้อยรายเนื่องจากต ้องใช้เงินลงทุนสูง มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นนำ ใช้ความรู้ความเข้าใจในระบบ ปิโตรเลียมและประสบการณ์สูง ปัจจุบันมีบริษัทไทยเพียง 6 บริษัท จากบริษัทผู้รับสัมปทานทั้ง หมด 72 บริษัท
ประเด็นที่ 3 : ตามที่อ้างว่า หน่วยงานไทยสามารถสร้างหน่ว ยธุรกิจด้านการสำรวจแหล่งปิ โตรเลียมได้ทำให้ประเทศไทยม ีศักยภาพและสมรรถนะในการสำร วจแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไ ด้เอง อีกทั้งเสนอแนะให้หน่วยงานค นไทยมีสิทธิและหน้าที่หลักใ นการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใน ประเทศ นั้นในประเด็นนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใคร่ข อเรียนชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้
ตามที่ได้ชี้แจงในประเด็นที ่ 2 แล้วว่า การเปิดให้ยื่นขอสัมปทานปิโ ตรเลียมจะประกาศ
เป็นการทั่วไป ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้รับ สัมปทานตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ. ปิโตรเลียมพ.ศ. 2514สามารถยื่นขอได้เท่าเที ยมกันโดยไม่จำกัดสัญชาติ แต่โดยที่ธุรกิจสำรวจและผลิ ตปิโตรเลียมต้องใช้เงินลงทุ นจำนวนมาก และมีความเสี่ยงสูง ทำให้ปัจจุบันมีผู้รับสัมปท านซึ่งเป็นบริษัทคนไทย 6 บริษัท โดยกลุ่มบริษัท ปตท.สผ. สามารถผลิตปิโตรเลียมได้ถึง ประมาณร้อยละ 30 ของปิโตรเลียมทั้งหมดที่ผลิ ตในประเทศและพื้นที่พัฒนาร่ วมไทย-มาเลเซีย สำหรับผู้รับสัมปทานซึ่งเป็ นบริษัทต่างประเทศที่อยู่ใน ประเทศไทยต่างเป็นบริษัทที่ มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีนำสมัย มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้คน ไทย และมีความรู้ความเข้าใจในระ บบปิโตรเลียมของประเทศไทยเป ็นอย่างดีอีกด้วย
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจึงเห ็นว่าการเปิดกว้างให้มีบริษ ัทต่างประเทศอยู่ในประเทศไท ยเพื่อให้มีการประยุกต์ใช้เ ทคโนโลยีที่พัฒนาใหม่ในต่าง ประเทศให้เหมาะสมกับสภาพแหล ่งกักเก็บปิโตรเลียมของประเ ทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยช น์แก่การพัฒนาพลังงานของประ เทศ และที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุฉ ุกเฉิน เช่น แหล่งก๊าซบงกชของบริษัทปตท. สผ.หยุดผลิต หรือท่อก๊าซของบริษัทปตท.
รั่ว เป็นต้น บริษัทผู้รับสัมปทานรายอื่น ที่ไม่ได้เป็นบริษัทคนไทยได ้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยผล ิตก๊าซทดแทนส่วนที่หายไป นอกจากนี้กรมเชื้อเพลิงธรรม ชาติยังมีนโยบายให้บริษัทต่ างประเทศเร่งพัฒนาบุคลากรไท ย ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บุคลากร ไทย ทำให้มีการพัฒนาและจ้างแรงง านไทยจำนวนมากและบุคลากรเหล ่านี้ยังมีโอกาสไปทำงานในต่ างประเทศอีกด้วย อีกทั้งมีการจ้างงานคนไทยใน ระดับฝีมือ (Professional) ถึงมากกว่าร้อยละ 98 ของพนักงานทั้งหมดที่ปฏิบัต ิงานอยู่ในประเทศไทยอีกด้วย
อนึ่ง แม้ในประเทศผู้นำด้านการสำร วจและผลิตปิโตรเลียม เช่น ซาอุดิอาระเบีย
อเมริกา นอรเวย์ เป็นต้น ต่างก็เปิดให้บริษัทต่างประ เทศดำเนินการสำรวจและผลิตปิ โตรเลียมโดยไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นการเปิดให้บริษัทต่า งประเทศดำเนินการจึงเป็นมาต รฐานในทางปฏิบัติทั่วโลก
ประเด็นที่ 4 : ตามที่อ้างว่า ประเทศไทยเก็บค่าภาคหลวงปิโ ตรเลียมในอัตราค่อนข้างต่ำเ มื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื ่นๆ อีกทั้งเสนอแนะให้ทบทวนอัตร าค่าภาคหลวง โดยเปรียบเทียบกับประเทศเวเ นซูเอลา โบลิเวีย เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศที่เก็บค่าภา คหลวงในระดับสูง นั้น ในประเด็นนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใคร่ข อเรียนชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้
ค่าภาคหลวงเป็นเพียงส่วนหนึ ่งเท่านั้นของรายได้ทางตรงท ี่รัฐเรียกเก็บจากการ
ประกอบกิจการปิโตรเลียม ดังนั้นในการวิเคราะห์รายได ้ของรัฐจำเป็นต้องดูองค์ประ กอบทุกส่วนของรายได้รัฐทั้ง หมดซึ่งประกอบด้วย (1) ค่าภาคหลวง (2) ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ และ (3) ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ซึ่งในปีพ.ศ. 2554 ประเทศสามารถจัดเก็บรายได้จ ากการประกอบกิจการปิโตรเลีย มในพื้นที่สัมปทานในประเทศไ ด้เป็นจำนวน 133,617 ล้านบาท และจากข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2554 มีมูลค่าการขายปิโตรเลียมที ่ผลิตจากแหล่งในประเทศโดยผู ้รับสัมปทานรวมเป็นเงินประม าณ 3.415 ล้านล้านบาท มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมเป ็นเงินประมาณ 1.461 ล้านล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ผู้รับสัมป ทานจ่ายให้รัฐได้แก่ ค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ รวมเป็นเงินประมาณ 1.074 ล้านล้านบาท คงเหลือเป็นรายได้สุทธิของผ ู้รับสัมปทานเท่ากับ 0.88 ล้านล้านบาท ดังนั้นสัดส่วนรายได้รัฐ (1.074 ล้านล้านบาท) ต่อรายได้สุทธิของผู้รับสัม ปทาน (0.88 ล้านล้านบาท) เท่ากับร้อยละ 55 : ร้อยละ 45 (รายละเอียดตามตารางที่ 4)
ตารางที่ 4 : สัดส่วนผลประโยชน์ระหว่างรั ฐกับผู้รับสัมปทานในการประก อบกิจการปิโตรเลียม
หากนับเฉพาะสัดส่วนรายได้รั ฐต่อรายได้สุทธิของผู้รับสั มปทานที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.
ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2532 (Thailand III) ตั้งแต่ พ.ศ. 2532 จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2554 เท่ากับร้อยละ 74 : ร้อยละ 26 ทั้งนี้ในการเปิดให้ยื่นขอส ัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 21 ผู้รับสัมปทานทุกรายจะอยู่ภ ายใต้ Thailand III
สัมปทานปิโตรเลียมในระบบ Thailand III เป็นระบบที่เกิดขึ้นเพื่อให ้ความเป็นธรรม
กับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น โดยเก็บค่าภาคหลวงแบบขั้นบั นได (ร้อยละ 5-15) เก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจ ่ายเมื่อมีผลกำไรจากการประก อบกิจการปิโตรเลียมร้อยละ 50 และผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษรา ยปีแบบขั้นบันไดร้อยละ 0-75 ขึ้นอยู่กับสัดส่วนรายได้กั บความพยายามในการสำรวจและลง ทุนเพิ่มเติมของผู้รับสัมปท านในปีนั้น ซึ่งหากเป็นแหล่งปิโตรเลียม ขนาดเล็กก็เก็บค่าภาคหลวงใน อัตราที่น้อย หากเป็นแหล่งขนาดใหญ่ก็เก็บ ในอัตราที่มากขึ้น
-------------------------- ---------------------
อ่านฉบับเติมได้ที่ (URL : http://www.dmf.go.th/file/ QA_EPThai.pdf) มี 83 หน้า
-------------------------- ---------------------
เพิ่มเติม
ความจริงเรื่องการสำรวจและผ ลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย
(URL : http://www.dmf.go.th/ truth_file/truth.php)
[เจาะลึกทุกเรื่องที่คุณอยา
โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
ส่วนข้างหลังนี้คัดลอกจาก บทสรุปผู้บริหาร
สาระสำคัญของคำชี้แจงในเนื้
สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในปร
ประเด็นที่ 1 : ตามที่กล่าวอ้างว่า ประเทศไทยรวมถึงอาณาเขตทางท
ในประเด็นนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใคร่ข
1.1 ประเทศไทยไม่ได้มีปิโตรเลีย
ไม่ได้เป็นประเทศผู้ส่งออกน
จากข้อมูลในรายงาน BP Statistical Review of World Energy Outlook
2012 แสดงข้อมูลปริมาณสำรองปิโตร
กลางและอเมริกา โดยประเทศเวเนซุเอลา ซาอุดิอาระเบีย และแคนาดา มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่พ
คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อย
ตารางที่ 1 : ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว อัตราการผลิต จำนวนปีที่ผลิตก๊าซธรรมชาติ
ตารางที่ 2 : ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว อัตราการผลิต จำนวนปีที่ผลิตน้ำมันดิบได้
1.2 ประเทศไทยไม่ได้ผลิตปิโตรเล
เห็นได้จากปีพ.ศ. 2554 ประเทศไทยผลิตก๊าซธรรมชาติว
วัน สำหรับประเทศไทยผลิตก๊าซธรร
1.3 ในด้านการส่งออกปิโตรเลียมใ
ทั้งสิ้นวันละ 256,731 บาร์เรล คิดเป็นมูลค่า 319,064 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1) น้ำมันดิบในปริมาณวันละ 33,321 บาร์เรล (ร้อยละ 4 ของความต้องการใช้ของประเทศ
(รายละเอียดตามตารางที่ 3) จะเห็นได้ว่าการส่งออกปิโตร
สำหรับสาเหตุสำคัญของการส่ง
อ่าวไทยมีดังนี้
1) คุณภาพของน้ำมันดิบไม่เป็นท
2) น้ำมันดิบมีสารเจือปน เช่น ปรอท มากเกินกว่าความสามารถของโร
ประเด็นที่ 2 : ตามที่อ้างว่า การเปิดประมูลสัมปทานสำรวจแ
การเปิดให้ยื่นขอสัมปทานปิโ
ของคนไทยและ/
ประเด็นที่ 3 : ตามที่อ้างว่า หน่วยงานไทยสามารถสร้างหน่ว
ตามที่ได้ชี้แจงในประเด็นที
เป็นการทั่วไป ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้รับ
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจึงเห
รั่ว เป็นต้น บริษัทผู้รับสัมปทานรายอื่น
อนึ่ง แม้ในประเทศผู้นำด้านการสำร
อเมริกา นอรเวย์ เป็นต้น ต่างก็เปิดให้บริษัทต่างประ
ประเด็นที่ 4 : ตามที่อ้างว่า ประเทศไทยเก็บค่าภาคหลวงปิโ
ค่าภาคหลวงเป็นเพียงส่วนหนึ
ประกอบกิจการปิโตรเลียม ดังนั้นในการวิเคราะห์รายได
ตารางที่ 4 : สัดส่วนผลประโยชน์ระหว่างรั
หากนับเฉพาะสัดส่วนรายได้รั
ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2532 (Thailand III) ตั้งแต่ พ.ศ. 2532 จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2554 เท่ากับร้อยละ 74 : ร้อยละ 26 ทั้งนี้ในการเปิดให้ยื่นขอส
สัมปทานปิโตรเลียมในระบบ Thailand III เป็นระบบที่เกิดขึ้นเพื่อให
กับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น โดยเก็บค่าภาคหลวงแบบขั้นบั
--------------------------
อ่านฉบับเติมได้ที่ (URL : http://www.dmf.go.th/file/
--------------------------
เพิ่มเติม
ความจริงเรื่องการสำรวจและผ
(URL : http://www.dmf.go.th/
...............................................................................................................................
" ประเทศไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน "
ผมเอาข้อมูลอีกด้านจาก CIA World Factbook ที่ลัทธิเศรษฐีน้ำมันชอบนำม าอ้างมาฝาก
- ประเทศไทยมีการผลิตน้ำมันดิ บ 378,200 บาเรลต่อวัน ติดอันดับ 32 ใกล้เคียงกับ OPEC บางประเทศจริง
- แต่ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบขอ งเราสูงถึง 807,400 บาเรลต่อวัน เป็นอันดับ 25 ของโลก เพราะเราผลิตได้ไม่พอใช้
- ในขณะที่ประเทศในกลุ่ม OPEC ที่อยู่ใกล้เราที่สุดคือเอก วาดอ 500,700 บาเรลต่อวัน (อันดับที่ 30) เราผลิตได้มากกว่าจริง แต่ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบขอ งเอกวาดอ == 0 รวมถึงประเทศในกลุ่ม OPEC ทั้งหมดไม่มีใครต้องนำเข้าน ้ำมันดิบ เพราะเค้ามีน้ำมันดิบมากพอส ำหรับการใช้งานในประเทศและส ่งออก
- ประเทศบรูไน ผลิตน้ำมันดิบ 141,300 บาเรลต่อวัน อันดับ 44 น้อยกว่าประเทศไทย แต่เค้าก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำม ันดิบเช่นกัน
- ส่วนประเทศซาอุ ผลิตได้วันละ 10 ล้านบาเรล ห่างจากไทยไปไกล
- การผลิตและบริโภคแก๊ซธรรมชา ติ เรายังมีไม่พอใช้เช่นกัน แต่ประเทศที่มั่งคั่งพลังงา นเค้ามีกันเหลือเฟือ
---
คราวนี้ลองมาดูยอดการผลิตน้ ำมันดิบในประเทศและยอดการนำ เข้าน้ำมันดิบ (บาเรล/ วัน) เปรียบเทียบราคาน้ำมันที่ปั๋มกันบ้า ง (บาท/ลิตร) (ข้อมูลจาก Bloomberg)
ตัวอย่างประเทศที่ผลิตน้ำมั นดิบได้มากกว่านำเข้า
- อินโดนีเซียผลิตได้วันละ 982,900 บาเรล นำเข้า 324,900 บาเรลต่อวัน ราคาน้ำมันลิตรละ 31 บาท
- อเมริกาผลิตได้วันละ 9.2 ล้านบาเรลต่อวัน นำเข้า 9.0 ล้านบาเรลต่อวัน ลิตรละ 29 บาท
- มาเลย์เซียผลิตได้ 603,400 บาเรลต่อวัน นำเข้า 199,100 บาเรลต่อวัน ลิตรละ 25 บาท
- พม่าผลิตผลิตได้ 20,200 บาเรลต่อวัน แต่ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเ ลย ลิตรละ 24 บาท
ตัวอย่างประเทศที่ผลิตน้ำมั นดิบได้น้อยกว่านำเข้า และราคาน้ำมันหน้าปั๊ม
- อิตาลีผลิตได้วันละ 99,200 นำเข้า 1.5 ล้าน ลิตรละ 66 บาท
- ฝรั่งเศสผลิตได้วันละ 49,530 นำเข้า 1.4 ล้าน ลิตรละ 63 บาท
- เยอรมันผลิตได้วันละ 165,300 นำเข้า 1.96 ล้าน ลิตรละ 62 บาท
- ฮ่องกง นำเข้าน้ำมันสุก 100% ลิตรละ 63 บาท
- ญี่ปุ่นผลิตได้วันละ 17,480 นำเข้า 3.3 ล้าน ลิตรละ 56 บาท
- เกาหลีใต้ผลิตได้วันละ 19,990 นำเข้า 2.3 ล้าน ลิตรละ 57 บาท
- ออสเตรเลียผลิตได้วันละ 19,900 นำเข้า 2.3 ล้าน ลิตรละ 51 บาท
- สิงค์โปรผลิตได้ 0 นำเข้า 883,500 น้ำมันหน้าปั๊มลิตรละ 49 บาท
* ประเทศไทย ผลิตได้ 378,200 นำเข้า 807,400 ราคาน้ำมัน 45-48 บาท
---
ปล. มีประเทศน่าสนใจที่ผลิตน้ำม ันดิบได้มากกว่านำเข้า แต่ราคาน้ำมันสูงมากอย่าง
- อังกฤษ 1.09 ล้าน นำเข้า 942,100 ลิตรละ 63 บาท
- นอร์เวย์ 1.99 ล้าน นำเข้า 19,960 ลิตรละ 82 บาท (แพงที่สุดในโลก)
ประเทศกลุ่มนี้ราคาน้ำมันแพ งด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่นต้ องการลดการใช้พลังงาน หรือเอารายได้จากภาษีไปบำรุ งระบบการศึกษาและโครงส้รางพ ื้นฐานของประเทศ
ด้านบนนี้ เป็นข้อมูลที่มาจากเว็บที่ล ัทธิรวยน้ำมันชอบนำมา(เลือก )อ้าง(ด้านเดียว)ล้วน ๆ
จริง ๆ ไม่มีอะไร (ความเกลียด)ทักษินอยู่เบื้ องหลังทุกเหตุการณ์
อ้างอิง:
http://1.usa.gov/XwpXDu
http://bloom.bg/MUYyf3
ผมเอาข้อมูลอีกด้านจาก CIA World Factbook ที่ลัทธิเศรษฐีน้ำมันชอบนำม
- ประเทศไทยมีการผลิตน้ำมันดิ
- แต่ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบขอ
- ในขณะที่ประเทศในกลุ่ม OPEC ที่อยู่ใกล้เราที่สุดคือเอก
- ประเทศบรูไน ผลิตน้ำมันดิบ 141,300 บาเรลต่อวัน อันดับ 44 น้อยกว่าประเทศไทย แต่เค้าก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำม
- ส่วนประเทศซาอุ ผลิตได้วันละ 10 ล้านบาเรล ห่างจากไทยไปไกล
- การผลิตและบริโภคแก๊ซธรรมชา
---
คราวนี้ลองมาดูยอดการผลิตน้
ตัวอย่างประเทศที่ผลิตน้ำมั
- อินโดนีเซียผลิตได้วันละ 982,900 บาเรล นำเข้า 324,900 บาเรลต่อวัน ราคาน้ำมันลิตรละ 31 บาท
- อเมริกาผลิตได้วันละ 9.2 ล้านบาเรลต่อวัน นำเข้า 9.0 ล้านบาเรลต่อวัน ลิตรละ 29 บาท
- มาเลย์เซียผลิตได้ 603,400 บาเรลต่อวัน นำเข้า 199,100 บาเรลต่อวัน ลิตรละ 25 บาท
- พม่าผลิตผลิตได้ 20,200 บาเรลต่อวัน แต่ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเ
ตัวอย่างประเทศที่ผลิตน้ำมั
- อิตาลีผลิตได้วันละ 99,200 นำเข้า 1.5 ล้าน ลิตรละ 66 บาท
- ฝรั่งเศสผลิตได้วันละ 49,530 นำเข้า 1.4 ล้าน ลิตรละ 63 บาท
- เยอรมันผลิตได้วันละ 165,300 นำเข้า 1.96 ล้าน ลิตรละ 62 บาท
- ฮ่องกง นำเข้าน้ำมันสุก 100% ลิตรละ 63 บาท
- ญี่ปุ่นผลิตได้วันละ 17,480 นำเข้า 3.3 ล้าน ลิตรละ 56 บาท
- เกาหลีใต้ผลิตได้วันละ 19,990 นำเข้า 2.3 ล้าน ลิตรละ 57 บาท
- ออสเตรเลียผลิตได้วันละ 19,900 นำเข้า 2.3 ล้าน ลิตรละ 51 บาท
- สิงค์โปรผลิตได้ 0 นำเข้า 883,500 น้ำมันหน้าปั๊มลิตรละ 49 บาท
* ประเทศไทย ผลิตได้ 378,200 นำเข้า 807,400 ราคาน้ำมัน 45-48 บาท
---
ปล. มีประเทศน่าสนใจที่ผลิตน้ำม
- อังกฤษ 1.09 ล้าน นำเข้า 942,100 ลิตรละ 63 บาท
- นอร์เวย์ 1.99 ล้าน นำเข้า 19,960 ลิตรละ 82 บาท (แพงที่สุดในโลก)
ประเทศกลุ่มนี้ราคาน้ำมันแพ
ด้านบนนี้ เป็นข้อมูลที่มาจากเว็บที่ล
จริง ๆ ไม่มีอะไร (ความเกลียด)ทักษินอยู่เบื้
อ้างอิง:
http://1.usa.gov/XwpXDu
http://bloom.bg/MUYyf3
...........................................................................................................................
นักวิทย์ให้กำเนิด oxygen microparticle อนุภาคที่จะทำให้คุณ ” มีชีวิตอยู่ได้ ” แม้ ” ไม่หายใจ ” !!
oxygen microparticle - มนุษย์สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ด้วยกระบวนการหายใจ ( breathing ) ที่ทำหน้าที่ ในการลำเลียงออกซิเจน เข้าสู่ปอด ก่อนเมตาบอลิซึ่มระดับเซลล์ ขึ้นไปตามอวัยวะต่างๆ ถ้าคุณไม่สามารถหายใจได้ จะทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน มีโอกาสตายหรือเป็นอัมพาฒได้อย่ างง่ายดาย และจะเป็นยังไงถ้าคุณยังมีชีวิต อยู่ได้แม้ ” ไม่หายใจ “ ด้วยความสำเร็จของไมโครออกซิเจน oxygen microparticle ที่ฉีดเข้าสู่กระแสเลือด !!
ผลงานวิทยาศาสตร์การแพททย์ชิ้นโ บว์แดง oxygen microparticle นี้ถูกรายงานขึ้นบน ScienceDaily โดย Dr. John Khier แห่ง Boston Children’s Hospital ใช้เวลาคิดค้นและออกแบบมันขึ้นม ากว่า 6 ปี เพื่อช่วยให้ทีมแพทย์มีเวลาในกา รช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งอยู่ในภาว ะระบบหายใจล้มเหลว โดยที่พวกเค้าไม่จำเป็นต้องหายใ จใน 15 – 30 นาที หลังจากฉีด oxygen microparticle
oxygen microparticle สร้างขึ้นด้วยอุปกรณ์ sonicator ซึ่งใช้คลื่นความถี่สูง ในการผสมก๊าสออกซิเจนเข้าไปในโม เลกุลไขมัน ( fatty molecules ) ได้อนุภาคออกซิเจนที่รอบล้อมไปด ้วยไขมันที่ทั้งเล็กและยืดหยุ่น มันจึงสามารถแทรกสู่เส้นเลือดฝอ ยได้อย่างง่ายดาย โดยเข้าไปเพิ่มระดับออกซิเจนในเ ม็ดเลือดแดง และป้องกันภาวะ embolisms อากาศหลุดเข้าสู่ หลอดเลือดดำ ทำให้การผ่าตัดปลอดภัยมากขึ้น
โซลูชั่น oxygen microparticle ตัวนี้ ประสบความสำเร็จ หลังจากทดลองโดยสัตว์ที่ภาวะปอด ล้มเหลว และทีมแพทย์ระบุว่า เมื่อมันได้ถูกฉีดเข้าสู่หลอดเล ือดดำของผู้ป่วย จะทำให้ออกซิเจนในเลือดเข้าสู่ร ะดับปกติ เมื่อนั้นเองที่คุณจะพบว่าชีวิต เป็นสิ่งมหัศจรรย์ และนาทีนั้นมีค่ามากมายขนาดไหน !!!!
ที่มา.www.tech.mthai.com
oxygen microparticle - มนุษย์สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ด้วยกระบวนการหายใจ ( breathing ) ที่ทำหน้าที่ ในการลำเลียงออกซิเจน เข้าสู่ปอด ก่อนเมตาบอลิซึ่มระดับเซลล์ ขึ้นไปตามอวัยวะต่างๆ ถ้าคุณไม่สามารถหายใจได้ จะทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน มีโอกาสตายหรือเป็นอัมพาฒได้อย่
ผลงานวิทยาศาสตร์การแพททย์ชิ้นโ
oxygen microparticle สร้างขึ้นด้วยอุปกรณ์ sonicator ซึ่งใช้คลื่นความถี่สูง ในการผสมก๊าสออกซิเจนเข้าไปในโม
โซลูชั่น oxygen microparticle ตัวนี้ ประสบความสำเร็จ หลังจากทดลองโดยสัตว์ที่ภาวะปอด
ที่มา.www.tech.mthai.com
.................................................................................................................................
มีที่นารกร้างแปลงหนึ่ง เจ้าของเพิกเฉย ทำนา นาก็ล่ม เพราะไม่ใส่ใจดูแล
เราเป็นชาวนา เราไปเช่านาเขาทำ สัญญาว่าจะแบ่งผลกำไรให้เจ้าของ นา ให้เขามากกว่าให้ตัวเองเก็บไว้ท ำทุน
ลงทุนลงแรงมากมาย ปลูกข้าวจนงาม ข้าวราคาดี มีผลกำไร ส่งให้เจ้าของนา จ่ายภาษี จ่ายหนี้ที่ยืมมาซื้อเมล็ดพันธุ ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย จ่ายเงินให้เพื่อนฝูงที่มาร่วมลงแขกทำนา ชุมชนเจริญก้าวหน้าเพราะเราทำนา ดี
จู่ๆ มีลูกน้องเจ้าของนา ยุเจ้าของนาว่า ไอ้นี่ขายข้าวได้กำไรดี ท่านเป็นเจ้าของที่ดินผืนนา ไอ้นี่มันขูดรีดท่าน ท่านต้องยึดนากลับมาทำเอง
เจ้าของนายึดที่นากลับไปให้ลุกน ้องคนยุบริหาร นาล่ม นาแล้งแห้งตาย เพราะลุกน้องเจ้าของนาทำนาไม่เป ็น ไม่รู้จักไล่เพลี้ยกระโดดที่สูบ กินข้าวในนา ไม่รู้จักใส่ปุ๋ยพรวนดิน ไม่รู้จักตอบแทนคนงานที่จ้างมาช ่วยทำนา
ชุมชนยากจน ล้าหลัง เจ้าของนาต้องจ่ายเงินให้ลุกน้อ งไปทำนาใหม่เพิ่มทุกปีจนเจ้าของ นาไม่มีเงินทำอย่างอื่น
.............................. .................
นิทานเรื่องนี้อาจเป็นจริงได้ ถ้าเราไม่ช่วยกันตั้งแต่วันนี้. ..
เราเป็นชาวนา เราไปเช่านาเขาทำ สัญญาว่าจะแบ่งผลกำไรให้เจ้าของ
ลงทุนลงแรงมากมาย ปลูกข้าวจนงาม ข้าวราคาดี มีผลกำไร ส่งให้เจ้าของนา จ่ายภาษี จ่ายหนี้ที่ยืมมาซื้อเมล็ดพันธุ
จู่ๆ มีลูกน้องเจ้าของนา ยุเจ้าของนาว่า ไอ้นี่ขายข้าวได้กำไรดี ท่านเป็นเจ้าของที่ดินผืนนา ไอ้นี่มันขูดรีดท่าน ท่านต้องยึดนากลับมาทำเอง
เจ้าของนายึดที่นากลับไปให้ลุกน
ชุมชนยากจน ล้าหลัง เจ้าของนาต้องจ่ายเงินให้ลุกน้อ
..............................
นิทานเรื่องนี้อาจเป็นจริงได้ ถ้าเราไม่ช่วยกันตั้งแต่วันนี้.
.................................................................................................................................
:3 ต้องพูดช้าาๆชัดๆ
5555
via "ตะกอนความคิด"
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น