..........................................................................................................................
เสียงข้างมากอาจผิดได้ กระทั่งเลวร้ายได้ เป็นความจริง.....
แต่การให้อำนาจเด็ดขาดโดยพล การแก่เสียงข้างน้อยเหนือเส ียงข้างมาก ด้วยข้ออ้างว่าเสียงข้างน้อ ยเป็นคนดีกว่าและมีความเป็น ไทยมากกว่าเสียงข้างมากนั้น พิสูจน์ตัวมันเองแล้วว่าไม่ work มันไม่สามารถทดแทนความชอบธร รมทางการเมืองในระบอบประชาธ ิปไตย และไม่อาจเป็นที่ยอมรับของเ สียงข้างมากโดยสมัครใจในสัง คมวัฒนธรรมที่เปิดกว้างแตกต ่างหลากหลายได้ รังแต่นำไปสู่การประท้วงต่อสู้รุนแรง สร้างความหายนะบอบช้ำเสียหา ยไม่รู้จบแก่บ้านเมือง
ไม่มีทางออกอื่นนอกจากเดินต ามวิถีเสรีประชาธิปไตย เสียงข้างมากจะเห็นว่าตัวเอ งผิดได้ เข้าใจว่าอะไรเลวร้ายได้ ก็ด้วยประสบการณ์ บทเรียนและการเรียนรู้ด้วยต ัวเสียงข้างมากเองในกระบวนก ารเสรีประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่มีทางลัดหรือวิธีหรือครู หรือผู้ปกครองผู้รู้ดีคนอื่ น
สิ่งที่เสียงข้างน้อยที่เชื ่อว่าตัวเองถูกสามารถทำได้ คือยืนหยัดคัดค้านอย่างสันต ิวิธีด้วยวิธีการอันชอบธรรม ตามกฎกติกาเสรีประชาธิปไตย (ที่ซึ่งสิทธิเสรีภาพขั้นมู ลฐานของบุคคลและเสียงข้างน้ อยได้รับการปกป้องคุ้มครอง มิให้อำนาจรัฐของเสียงข้างม ากล่วงล้ำข้ามเส้น) พร้อมจะแพ้ พร้อมจะเรียนรู้ปรับแต่งควา มคิดไปด้วยกันกับเสียงข้างม าก และรักษาสิทธิ์เสรีภาพต่าง ๆ ของเสียงข้างน้อยที่พ่ายแพ้ ไว้ รณรงค์เผยแพร่ความเห็นความร ู้ที่คิดว่าถูกต้องจนกว่าจะ เปลี่ยนใจเสียงข้างมากได้
แต่ไม่ใช่ไปทำลายระบอบเสรีป ระชาธิปไตยในนามของความดีหร ือความเป็นไทย เพราะความดีหรือความเป็นไทย ที่เป็นปฏิปักษ์กับสิทธิเสร ีภาพและประชาธิปไตย ที่การสงวนรักษามันไว้จะต้อ งทำลายสิทธิเสรีภาพและประชา ธิปไตยลงไปนั้น จะรักษาไปเพื่ออะไร? จะรักษามันไว้ทำไม? จะรักษาไว้ได้อย่างไร?
แต่การให้อำนาจเด็ดขาดโดยพล
ไม่มีทางออกอื่นนอกจากเดินต
สิ่งที่เสียงข้างน้อยที่เชื
แต่ไม่ใช่ไปทำลายระบอบเสรีป
........................................................................................................................
clip อาจารย์ปวิน บรรยายวิชาการที่ Chicago หัวข้อชวนเก้าอี้-กาแฟมาก 5555
Part1 : http://www.youtube.com/
Part2 : http://www.youtube.com/
.........................................................................................................................
#### ผักชีล้างไต จริงหรือไม่ อันตรายแค่ไหน ?? ####
กระแสการแชร์เรื่องนำผักชีม าล้างไตไม่ได้เริ่มที่ไทยแต ่มีมาจากเมืองนอก ลิงค์ที่ส่งกันมา
http:// ac127.wordpress.com/2012/ 02/23/ ผักชี-ช่วยล้างไต-clean-your -kidneys-in-rs-1-00-or-eve n-less/
>> มาทำความเข้าใจกับโรคไตวายก ่อนจะไปล้างมันกัน
โรคไตวายเกิดจากการทำงานที่ เสื่อมถอยลง ในหน้าที่หลักของไตได้แก่
- การควมคุมของเสียไนโตรเจนใน ร่างกาย ( Blood urea nitrogen)
- การควบคุมสมดุลกรดเบสในร่าง กาย (Acid base regulation )
- การควบคุมสมดุลน้ำในร่างกาย ไม่ให้เกิดน้ำเกินหรือขาด (volume regulation)
- การควบคุมความสมดุลเกลือแร่ ฟอสเฟต แคลเซียม แมกนีเซียม
- การกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือ ดแดง ( คนไข้ไตวายเรื้อรังจึงซีดด้ วย) ( Erythropoeitin )
>> โดยไตมักมีสาเหตุเสื่อมการท ำงานลงจากโรคความดันโลหิตสู ง โรคเบาหวาน หรือโรคไตโดยตรง
>> การรักษาโรคไตจึงแบ่งคร่าวๆ ให้เข้าใจง่ายๆสามช่วง
- ช่วงที่ 1 : ช่วงก่อนไตจะวายแต่มีความเส ี่ยงที่จะวาย
เช่น คนเป็นโรคความดัน โรคเบาหวาน : ช่วงนี้แพทย์มีหน้าที่ป้องก ันไม่ให้ไตเสื่อมลง โดยคุมระดับความดันและเบาหว านให้ปกติที่สุด
- ช่วงที่ 2 : ช่วงไตวายระยะแรกๆ
ผู้ป่วยจะยังพอสามารถขับของ เสียได้ แต่ต้องมีการให้ยา เข้าไปช่วยเพื่อคุมภาวะเกลื อแร่ต่างๆให้สมดุล และอาจจะให้ยาขับปัสสาวะด้ว ย หากมีความไม่สมดุลของปริมาณ น้ำมีน้ำเกินหรือบวม หรือเกลือแร่ที่ผิดปกติคั่ง มากเกินเช่นโพแทสเซียมสูง
- ช่วงที่ 3 : ช่วงไตวายระยะท้าย
ไตจะไม่สามารถทำงานได้เพียง พอ หากปล่อยไว้จะเสียชีวิตจากน ้ำเกิน , เลือดเป็นกรด ,ของเสียคั่งในเลือด ในขั้นนี้ยาต่างๆที่กินจะไม ่เพียงพอกับการคงสมดุลไว้ ต้องใช้สิ่งที่จะมาทำหน้าที ่แทนไตเดิมที่เสียไปแล้ว ได้แก่ ล้างไตทางเส้นเลือด ( เหมือนให้ตัวกรองและเครื่อง ยนต์ทำหน้าที่แทนไต) ล้างไตทางหน้าท้อง ( ให้ผนังและน้ำในช่องท้องทำห น้าที่กรองของเสียแทน ) หรือสุดท้ายปลูกถ่ายไตใหม่ท ี่ยังทำงานดีมาแทน
### ทำไมถึงคิดว่าผักชีล้างไตได ้ ? ###
เพราะมีคนสังเกตเรื่องผักชี มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะมาต ั้งแต่อดีต และมีการศึกษาพบว่าสารในผัก ชีที่ออกฤทธิ์นี้คือ apiol and myristicin การทดลองในหนูทดลองพบว่ามีก ารเพิ่มขึ้นของปัสสาวะจริงใ นหนูที่ได้สารสกัดจากผักชี แต่ไม่เห็นการทดลองในมนุษย์ นะ
การทดลอง : http:// www.ncbi.nlm.nih.gov/m/ pubmed/11849841/
>> คนที่เข้าใจว่าไตเหมือนท่อร ะบายน้ำเสีย ก็คิดว่าถ้ายิ่งขับปัสสาวะอ อกได้มากๆ ก็เหมือนเร่งล้างของเสียออก จากร่างกาย หรือเหมือนได้กระตุ้นการทำง านไตให้ทำงานดีขึ้น จึงมีการนำผักชีมารักษาโรคไ ตวาย และ โรคนิ่วในไตตั้งแต่อดีต
>>> แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ !!! ไตทำหน้าที่ที่ซับซ้อนหลายอ ย่างมากกว่านั้นตามที่กล่าว มาข้างต้น แพทย์แผนปัจจุบันเน้นการทดแ ทนหน้าที่ที่เสียไปนี้ และรักษาความสมดุลต่างๆที่ไ ตทำไว้ ไม่ใช่ว่าจะใช้ยาขับปัสสาวะ อย่างเดียว หรือแม้แต่ไตวายระยะหลังๆยา ขับปัสสาวะก็ไม่ได้ช่วยในกา รกรองของเสีย หรือเพิ่มปัสสาวะได้อีกเลย
### อันตรายจากผักชี !!!! ###
หนึ่งในสาเหตุการตายที่สำคั ญของคนไข้ไตวายเรื้อรังคือ ไตขับโพแทสเซียมออกจากร่างก ายไม่ทัน เกิดโพแทสเซียมในเลือดสูง สิ่งนี้ไปกระตุ้นให้หัวใจเต ้นผิดจังหวะและหยุดเต้นได้
แพทย์จึงระวังเรื่องการตรวจ ดูค่าโพแทสเซียมในเลือดผู้ป ่วยเสมอ และแนะนำการหลีกเลี่ยงอาหาร บางอย่างที่มีโพแทสเซียมสู งโดยมีการแนะนำจากสมาคมโรคไ ตดังนี้
การรับประทานผักและผลไม้ในโ รคไต
http://www.siamkidney.org/ index.php?option=com_conten t&view=article&id=36%3A201 1-05-12-11-09-25&catid=17% 3A2011-09-06-03-40-02&Item id=41
>> ผักชีติด”อันดับหนึ่ง” ของผักที่มีโพแทสเซียมสูง นับว่าอันตรายมากๆๆๆๆๆ แพทย์โรคไตแทบจะลมจับเมื่อเ ห็นกระแสการแชร์กินผักชีล้า งไต ยิ่งวิธีการนำผักชี 1 กำมาทำให้เป็นน้ำเข้มข้น 1 แก้วนี่อีก
อย่างเคยนะครับจากการ search ด้วยคำของผักชี Parsley (ภาษาอังกฤษ) และ Petroselinum crispum ( ชื่อวิทยาศาสตร์ ) ในเวบ pubmed.com ยังไม่พบการศึกษาในมนุษย์ที ่รับรองการใช้รักษาล้างไต หรือคนไข้ไต
>>> สรุปคำแนะนำจากอายุรแพทย์โร คไตนะครับ การกินน้ำผักชียังไม่มีหลัก ฐานเพียงพอที่จะชะลอ หรือรักษาล้างไตในคนไข้ที่เ ป็นไตวายเรื้อรังได้ ฤทธิ์ของผักชีที่เป็นการขับ ปัสสาวะไม่อาจทดแทนการรักษา แผนปัจจุบันที่ใช้ยาและการล ้างไตหรือปลูกถ่ายไตในการปร ับสมดุลของเสีย เกลือแร่ และน้ำให้กับผู้ป่วย และการกินผักชีปริมาณมากอาจ มีอันตรายถึงชีวิตจากค่าโพแ ทสเซียมที่สูงขึ้นครับ <<<<
อันนี้จากสมาคมโรคไตตัวเต็ม สำหรับอ่านแนวทางการปฏิบัติ ตัวและการเลือกอาหารให้ผู้ป ่วยโรคไตครับ
http://www.nephrothai.org/ nephrothai_boffice/ images_upload/news/186/ files/ อาหารระยะก่อนล้างไต-อ%20ชวล ิต%20-%2053%20หน้า.pdf
สนับสนุนข้อมูลโดย Dr. Oatega Spartan ( นามสมมติ ) อายุรแพทย์โรคไต
กระแสการแชร์เรื่องนำผักชีม
http://
>> มาทำความเข้าใจกับโรคไตวายก
โรคไตวายเกิดจากการทำงานที่
- การควมคุมของเสียไนโตรเจนใน
- การควบคุมสมดุลกรดเบสในร่าง
- การควบคุมสมดุลน้ำในร่างกาย
- การควบคุมความสมดุลเกลือแร่
- การกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือ
>> โดยไตมักมีสาเหตุเสื่อมการท
>> การรักษาโรคไตจึงแบ่งคร่าวๆ
- ช่วงที่ 1 : ช่วงก่อนไตจะวายแต่มีความเส
เช่น คนเป็นโรคความดัน โรคเบาหวาน : ช่วงนี้แพทย์มีหน้าที่ป้องก
- ช่วงที่ 2 : ช่วงไตวายระยะแรกๆ
ผู้ป่วยจะยังพอสามารถขับของ
- ช่วงที่ 3 : ช่วงไตวายระยะท้าย
ไตจะไม่สามารถทำงานได้เพียง
### ทำไมถึงคิดว่าผักชีล้างไตได
เพราะมีคนสังเกตเรื่องผักชี
การทดลอง : http://
>> คนที่เข้าใจว่าไตเหมือนท่อร
>>> แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ !!! ไตทำหน้าที่ที่ซับซ้อนหลายอ
### อันตรายจากผักชี !!!! ###
หนึ่งในสาเหตุการตายที่สำคั
แพทย์จึงระวังเรื่องการตรวจ
การรับประทานผักและผลไม้ในโ
http://www.siamkidney.org/
>> ผักชีติด”อันดับหนึ่ง” ของผักที่มีโพแทสเซียมสูง นับว่าอันตรายมากๆๆๆๆๆ แพทย์โรคไตแทบจะลมจับเมื่อเ
อย่างเคยนะครับจากการ search ด้วยคำของผักชี Parsley (ภาษาอังกฤษ) และ Petroselinum crispum ( ชื่อวิทยาศาสตร์ ) ในเวบ pubmed.com ยังไม่พบการศึกษาในมนุษย์ที
>>> สรุปคำแนะนำจากอายุรแพทย์โร
อันนี้จากสมาคมโรคไตตัวเต็ม
http://www.nephrothai.org/
สนับสนุนข้อมูลโดย Dr. Oatega Spartan ( นามสมมติ ) อายุรแพทย์โรคไต
...........................................................................................................................
วุฒิสภาไทยอยู่ตรงไหน
======
หมายเหตุ: ดังที่ทีมงานได้พูดเสมอถึงก ารเปิดกว้างให้ผู้อ่านส่งข้ อมูลเข้ามาแบ่งปัน โพสต์นี้คือตัวอย่างที่เป็น รูปธรรมชิ้นแรกที่ผู้อ่านขอ งเราเป็นผู้ตระเตรียมข้อมูล และเขียนเนื้อหาขึ้นมาเองทั ้งหมด ทีมงานทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเ ท็จจริงและเรียบเรียงใหม่ให ้กระชับมากขึ้น
======
ผู้สนใจการเมืองหลายคนมักสง สัยว่าเอาเข้าจริงๆแล้ว วุฒิสภาคืออะไร ไม่มีวุฒิสภาได้หรือไม่ ที่มาของวุฒิสภามาจากไหน ประเทศอื่นๆเขามีวุฒิสภากัน หรือไม่ และหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเ ทียบกับวุฒิสภาของประเทศไทย
วุฒิสภาหรือสภาสูง เป็นหนึ่งในสถาบันการเมืองท ี่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยเกิดขึ้นในสมัยโรมันตั้ง แต่ 735 ปีก่อนคริสตกาล คำว่าวุฒิสภา (senate) มาจากภาษาละตินว่า senax แปลว่า ผู้อาวุโส เป็นที่คาดหวังของสังคมว่าจ ะเป็นสถาบันการเมืองที่มีอา วุโส เป็นที่ปรึกษา ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ ต่อสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ในโล กไม่มีวุฒิสภา มีเพียง 80 ประเทศในโลกเท่านั้นที่มีวุ ฒิสภา ในขณะที่ 114 ประเทศเลือกที่จะมีสภาผู้แท นเพียงสภาเดียว ตัวอย่างประเทศที่ยกเลิกวุฒ ิสภาไปหลังจากที่เคยมี เช่น นิวซีแลนด์ ยกเลิกวุฒิสภาในปี ค.ศ. 1950, เดนมาร์กในปี ค.ศ. 1954, สวีเดนในปี ค.ศ. 1970 และไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1991 ส่วนประเทศเกิดใหม่หลายประเ ทศในโลกก็เลือกที่จะมีสภาผู ้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวมาตั ้งแต่แรก เช่น อังโกลา บัลแกเรีย โคโมรอส โครเอเชีย จอร์เจีย มาลาวี หรือล่าสุดได้แก่ ติมอร์-เลสเต [1]
ประเทศที่เลือกจะไม่มีวุฒิส ภามองว่า การมีสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภ าเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้วสำ หรับการเป็นตัวแทนของประชาช นในฐานะที่เป็นองค์กรที่สะท ้อนเจตนารมณ์ของประชาชน การตัดสินใจใดๆ ในสภาผู้แทนจึงไม่น่าจะถูกข ัดขวางจากสภาอื่นที่ไม่ได้ม าจากประชาชน อีกทั้งการมีสภาเดียวจะยังท ำให้ตรวจสอบได้ง่ายกว่า ประหยัดกว่า และรวดเร็วกว่า
ส่วนประเทศที่เลือกที่จะมีว ุฒิสภาส่วนใหญ่จะจำกัดอำนาจ วุฒิสภาไว้มากกว่าสภาผู้แทน ราษฎร เช่น วุฒิสภาในประเทศอังกฤษได้ถู กจำกัดอำนาจลงอย่างมากมายหล ังจากมีการประกาศพระราชบัญญ ัติ Parliamentary Acts ในปี ค.ศ. 1911 และ 1949 แม้บางประเทศจะให้วุฒิสภาซึ ่งมีที่มาจากการเลือกตั้ง เช่น ประเทศญี่ปุ่นไม่ให้วุฒิสภา ควบคุมการงบประมาณของประเทศ
ในประเทศไทยนั้นได้กำหนดให้ มีวุฒิสภาเป็นครั้งแรกในรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 โดยในสมัยนั้นเรียกว่า พฤฒิสภา และมาจากการเลือกตั้ง แต่เนื่องจากบทเฉพาะกาลในรั ฐธรรมนูญกำหนดให้ในระยะแรกพ ฤฒิสภามาจากการแต่งตั้ง จึงไม่ได้มีการเลือกตั้งพฤฒ ิสภาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ [2]
ปี พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญไทยได้กำหนดให้มี สมาชิกวุฒิสภาเท่ากับจำนวนส มาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมาจากการเลือกตั้งโดยพระ มหากษัตริย์ [3]
ต่อมาในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2492 ได้กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามี จำนวน 100 คน กำหนดไว้ว่าต้องมีความรู้คว ามสามารถ และอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป [4]
หลังจากนั้นประเทศไทยได้กลั บไปใช้ระบบสภาเดี่ยว สลับกับสองสภา โดยปกติในรัฐธรรมนูญที่มีที ่มาจากการรัฐประหาร ได้แก่ รัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2495, 2502, 2515, 2519, 2534 และ 2549 [5][6][7][8][9][10] มักกำหนดให้มีสภานิติบัญญัต ิแห่งชาติเพียงสภาเดียว และไม่มีวุฒิสภา แต่ถ้ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษ ฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ก็มักจะมีวุฒิสภามาประกบ เช่น ในรัฐธรรมนูญ 2511, 2517, 2521 และ 2534 [11][12][13][14]
ในปี พ.ศ. 2540 รัฐธรรมนูญไทยได้กำหนดให้มี วุฒิสภามาจากการเลือกตั้งเป ็นครั้งแรก และอำนาจหน้าที่เปลี่ยนไปมา ก เพราะนอกจากจะมีหน้าที่กลั่ นกรองร่างกฎหมายและควบคุมตร วจสอบการบริหารราชการแผ่นดิ นแล้ว ยังมีหน้าที่พิจารณาเสนอแต่ งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์ก รอิสระตามรัฐธรรมนูญ การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสร ะของรัฐตามรัฐธรรมนูญ อีกด้วย [15]
ในปี 2550 รัฐธรรมนูญ [16] ได้ย้อนกลับไปกำหนดให้วุฒิส ภามาจากการเลือกตั้งผสมกับก ารแต่งตั้ง โดยผู้สมัคร สว. ที่จะได้รับการสรรหาจะมี 5 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มภาควิชาการ ภาคองค์กรเอกชน ภาครัฐ และภาคอื่น ๆ และได้รับการคัดเลือกโดยคณะ กรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาจ ํานวน 7 คนคือ
1. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
2. ประธาน กกต.
3. ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
4. ประธาน ปปช.
5. ประธาน คตง.
6. ผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งที่ปร ะชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกมา 1 คน
7. ผู้พิพากษาศาลปกครองสูงสุดซ ึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองส ูงสุดเลือกมา 1 คน [17]
ในทางกลับกัน หากไปดูที่มาของคณะกรรมการส รรหาวุฒิสภาทั้ง 7 ตำแหน่ง ก็น่าสังเกตว่า ตำแหน่งเหล่านี้ล้วนมีที่มา จากการคัดเลือกโดยวุฒิสภาเช ่นกัน
======
หมายเหตุ: ดังที่ทีมงานได้พูดเสมอถึงก
======
ผู้สนใจการเมืองหลายคนมักสง
วุฒิสภาหรือสภาสูง เป็นหนึ่งในสถาบันการเมืองท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ในโล
ประเทศที่เลือกจะไม่มีวุฒิส
ส่วนประเทศที่เลือกที่จะมีว
ในประเทศไทยนั้นได้กำหนดให้
ปี พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญไทยได้กำหนดให้มี
ต่อมาในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2492 ได้กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามี
หลังจากนั้นประเทศไทยได้กลั
ในปี พ.ศ. 2540 รัฐธรรมนูญไทยได้กำหนดให้มี
ในปี 2550 รัฐธรรมนูญ [16] ได้ย้อนกลับไปกำหนดให้วุฒิส
1. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
2. ประธาน กกต.
3. ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
4. ประธาน ปปช.
5. ประธาน คตง.
6. ผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งที่ปร
7. ผู้พิพากษาศาลปกครองสูงสุดซ
ในทางกลับกัน หากไปดูที่มาของคณะกรรมการส
................................................................................................................
................................................................................................................................
.............................................................................................................................
.....................................................................................................................
แบบนี้สิพระเอกตัวจริง ชอบมาก ๆ *
http://www.facebook.com/photo.php?v=537499519627351
....................................................................................................................
........................................................................................................................
.......................................................................................................................
Ketsara Walundet
ทุกจังหวะของชีวิตมีเหตุผล. ..และมีที่มาที่ไปอย่างมีท่ วงทำนอง
ดังนั้น ไม่ต้องเร่ง เร่งร้อน แค่เต็มที่กับทุกอย่างก็พอ
เกสรา
03.04.2013
ทุกจังหวะของชีวิตมีเหตุผล.
ดังนั้น ไม่ต้องเร่ง เร่งร้อน แค่เต็มที่กับทุกอย่างก็พอ
เกสรา
03.04.2013
............................................................................................................................
ต่อจากเมื่อคืนนี้ครับ .... ที่จะแชร์ให้ฟังวันนี้มีเป็ นทฤษฏีมีชื่อว่า ทฤษฎีลิง 5 ตัว .... เป็นการทดลองในปี 1966 เพื่อศึกษาการควบคุมลิง โดยการทดลองเริ่มจาก นำลิง 5 ตัวมาใส่ในห้องทดลองเดียวกั น แล้วมีบันไดตั้งอยู่กลางห้อ ง ที่สุดบันไดมีกล้วยอยู่สำหร ับล่อลิงให้ปีนขึ้นมา หากมีลิงตัวใดตัวหนึ่งปีนขึ ้นมา จะมีน้ำเย็นจากฉีดลงมาจากเพ ดานใส่ลิงที่เหลือ ... ทำไปสักพัก ลิงจะรู้ว่า ถ้ามีใครปีนบันได พวกมันทีเหลือจะถูกฉีดน้ำแน่ ๆ ดังนั้นเมื่อมีตัวไหนพยายาม ปีนบันได ตัวที่เหลือก็จะจัดการทันที สรุปสุดท้าย ก็จะไม่มีลิงตัวไหนพยายามปี นบันไดอีกเลย ....
การทดลองยังไม่จบ ต่อมาก็นำลิงตัวออก 1 ตัวแล้วเอาลิงใหม่ใส่เข้าไป แทนที่ ลิงใหม่จะไม่รู้เรื่องก็จะว ิ่งไปปีนบันได ลิงเก่าทั้งสีก็จะวิ่งเข้าต ีลิงใหม่ โดยที่ลิงใหม่ก็จะส่งสายตาถ ามว่าตีฉันทำไมว้าาาา .... สุดท้ายลิงตัวใหม่ก็จะไม่กล ้าปีนบันไดอีก ....
การทดลองก็จะเอาลิงเก่าออกอ ีก แล้วเอาลิงตัวใหม่ใส่เข้าไป เหตุการณ์ก็จะเป็นเหมือนเดิ มอีก คือลิงใหม่จะวิ่งไปปีนบันได แล้วลิงตัวที่เหลือ ก็จะรุมเข้าตี ทำการเปลี่ยนลิง จนไม่เหลือลิงชุดเก่า ที่เคยโดนน้ำฉีดเลย แต่ว่าเหมือนมันกลายเป็นธรร มเนียมไปเสียแล้วว่า "ห้ามปีนบันได" แม้ลิงทั้งชุดที่อยู่ในห้อง จะไม่เคยโดนน้ำเย็นเลย และไม่รู้ว่า ปีนบันได แล้วเป็นอย่างไร แต่หากมีการเปลี่ยนลิงตัวให ม่เข้ามา แล้วพยายามจะปีนบันได ลิงตัวที่เหลือ ก็จะพุ่งเข้าตีเสมอ ๆ ลิงตัวใหม่ก็ได้แต่สงสัย ว่าเพราะอะไรฟระ ><
ส่วนลิงตัวเก่าก็คงได้แต่คิ ดในใจ ไม่รู้เฟ้ย ก็เค้าทำมาแบบนี้ เอ็งก็ต้องอยู่แบบนี้แหละ มันเป็นกฎของที่นี่ จบ.
การทดลองยังไม่จบ ต่อมาก็นำลิงตัวออก 1 ตัวแล้วเอาลิงใหม่ใส่เข้าไป
การทดลองก็จะเอาลิงเก่าออกอ
ส่วนลิงตัวเก่าก็คงได้แต่คิ
..........................................................................................................................
http://www.youtube.com/watch?v=wEz6ZL4sIKQ
.............................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น