............................................................................................................................
..................................................................................................................................
3 ปัจจัยที่คน(ไทย)โดนหลอกซ้ำ ๆจากปาฏิหาริย์จอมปลอม
1.‘ไม่เชื่ออย่าลบหลู่’
เมื่อใดก็ตามที่มีคนสงสัยใน ปาฏิหาริย์ มักจะถูกดักคอไว้ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ชุดความคิดเช่นนี้ช่วยให้ มิจฉาชีพสบายใจมาหลายชั่วคน เพราะเพียงเขาอ้างอิง ศาสนา , ภูติผี หรือ คนที่น่าเคารพนับถือ มาอยู่ในการหลอกลวง เช่น เป็นยาที่หลวงพ่อมีส่วนร่วม ให้พร , เป็นเหรียญที่ทางวัดเจิม , เป็นน้ำที่เจ้าแม่ตะเคียนเส กไว้ , เป็นหลักสูตรที่ด็อกเตอร์เซ มเบ้ให้การรับรอง ฯลฯ
ก็จะทำให้ คนไทยไม่กล้าพิสูจน์ เพราะมีความเชื่อเดิมว่า ศาสนา , ภูตผี หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เป็นสิ่งที่ไม่ควรท้าทาย
ตรรกะที่ถูกมองข้ามมาตลอดคื อ ‘การตรวจสอบหรือพิสูจน์ ไม่ใช่ การลบหลู่’
ยิ่งในยุคสมัยนี้ที่เราไม่ไ ด้อยู่ในป่าในเขา เข้าถึงแหล่งความรู้มากมาย เรายิ่งควรร่วมกันส่งเสริมน โยบาย ‘ไม่เชื่อต้องพิสูจน์’
การพิสูจน์ไม่ใช่การลบหลู่ด ูหมิ่น แต่คือ การกำจัดเหลือบไรที่หากินกั บความสิ้นหวังและความกลัวขอ งมนุษย์
2.‘ดีกว่าไม่มี’
การกินหรือใช้อะไรโดยไม่พิส ูจน์เพราะเชื่อว่า ดีกว่าไม่มี เป็นวิธีคิดที่อันตราย โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข ้องกับชีวิต ความเป็นความตาย ซึ่งต้องใช้หลักการทางวิทยา ศาสตร์ แต่ดันใช้ เหตุผลทางศรัทธามาอธิบาย
เช่น
ให้ทหารถือเครื่องดักจับระเ บิดไปสำรวจระเบิด โดยไม่พิสูจน์ตามหลักฟิสิกส ์หรือวิทยาศาสตร์ว่าอุปกรณ์ นั้นใช้งานได้จริงหรือเปล่า แต่อาศัยความศรัทธาประมาณว่ า ขอแค่เชื่อมั่น มีใช้ดีกว่าไม่มี ย่อมทำให้ ทหารที่เดินดุ่มๆฝ่าดงระเบิ ด เสี่ยงอันตรายมากขึ้น เพราะผู้ใช้ลดความระมัดระวั งลง ฝากชีวิตไว้ที่เครื่องมือที ่คิดว่าทำงานได้จริง
ให้คนไข้โรคมะเร็งกินยาสูตร หมักผสมเอง โดยไม่พิสูจน์ว่ายารักษาได้ จริงหรือเปล่า แต่เชื่อว่า กินดีกว่าไม่กิน เพราะไม่กินก็ตายอยู่ดี อาจทำให้ คนไข้ตายเร็วกว่าเดิม
เพราะ ยาที่กินโดยไม่ได้มีการตรวจ สอบ อาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ท ี่ช่วยให้รู้สึกดีกระปรี้กร ะเปร่าชั่วคราวแต่ทำลายไตให ้พังเร็วขึ้น และ คนไข้แทนที่จะตายในหกเดือนจ ากมะเร็ง แต่ต้องสิ้นใจในสองอาทิตย์จ ากภาวะไตวาย
3.รายการโทรทัศน์
แทนที่รายการโทรทัศน์จะเป็น สื่อที่ทำให้คนดูรู้ทันโลกม ากขึ้น ก็กลับกลายเป็นช่วยส่งเสริม ความงมงายอย่างเป็นทางการ เมื่อ ทุกสิ่งที่เป็น ปาฏิหาริย์ ได้ออกหน้าจอ โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบจร ิงจัง
แม้จะมีคำออกตัวของพิธีกรทำ นองว่า ‘โปรดใช้วิจารณญาณในการรับช ม’ แต่การที่ พิธีกรช่วยอวยให้ บุคคลหรือสิ่งของ ที่มีความสามารถพิเศษเหนือธ รรมชาติ เช่น มองเห็นอนาคต , ตรวจรักษาโรคโดยไม่ต้องใช้เ ครื่องมือหรือความรู้ทางการ แพทย์ , ค้นหา กรรม แล้วสามารถกำจัดทุกข์กำจัดโ รคทั้งหลายทั้งปวง ฯลฯ โดยไม่คิดเชิญผู้เชี่ยวชาญเ ฉพาะทางนั้นๆ เช่น หมอ หรือ นักวิทยาศาสตร์ มาร่วมตรวจสอบ ก็เท่ากับ ให้การยอมรับอย่างกลายๆ
อานิสงส์จาก การได้ออกทีวี ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค ้า และยกระดับ เรื่องเหลือเชื่อ ให้กลายเป็น ของดีที่พร้อมขายได้ในทันที
+++
... ... บางส่วนจาก 'ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ '
สุข - เศร้า - เหงา - คิด และ การใช้ชีวิตในโลกยุค 3G
รู้เท่าทันโลกยุคใหม่ หาคำตอบว่า social media (facebook/ twitter) มีกลไกอย่างไร ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนใช้โดยที่เรา ไม่รู้ตัว , เรื่องของค่านิยมคนดี , กรณีไม่เชื่ออย่าลบหลู่ , คิดต่าง แล้วต่อยตี , ทำไมคนยุคนี้เปลี่ยนมือถือถ ี่กว่าแต่ก่อน , เซ็นเซอร์ เบลอนม ดีหรือไม่ ฯลฯ
พบได้ในงานหนังสือที่ == บูธ D2 โซนเพลนนารี่ฮอลล์ == เน้อ
1.‘ไม่เชื่ออย่าลบหลู่’
เมื่อใดก็ตามที่มีคนสงสัยใน
ชุดความคิดเช่นนี้ช่วยให้ มิจฉาชีพสบายใจมาหลายชั่วคน
ก็จะทำให้ คนไทยไม่กล้าพิสูจน์ เพราะมีความเชื่อเดิมว่า ศาสนา , ภูตผี หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เป็นสิ่งที่ไม่ควรท้าทาย
ตรรกะที่ถูกมองข้ามมาตลอดคื
ยิ่งในยุคสมัยนี้ที่เราไม่ไ
การพิสูจน์ไม่ใช่การลบหลู่ด
2.‘ดีกว่าไม่มี’
การกินหรือใช้อะไรโดยไม่พิส
เช่น
ให้ทหารถือเครื่องดักจับระเ
ให้คนไข้โรคมะเร็งกินยาสูตร
เพราะ ยาที่กินโดยไม่ได้มีการตรวจ
3.รายการโทรทัศน์
แทนที่รายการโทรทัศน์จะเป็น
แม้จะมีคำออกตัวของพิธีกรทำ
อานิสงส์จาก การได้ออกทีวี ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค
+++
... ... บางส่วนจาก 'ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
สุข - เศร้า - เหงา - คิด และ การใช้ชีวิตในโลกยุค 3G
รู้เท่าทันโลกยุคใหม่ หาคำตอบว่า social media (facebook/
พบได้ในงานหนังสือที่ == บูธ D2 โซนเพลนนารี่ฮอลล์ == เน้อ
......................................................................................................................
สวัสดีครับ พี่น้องคนไทยที่เคารพรักและ คิดถึงครับ
ผมไม่ได้ใช้ Facebook เป็นช่องทางพูดคุยกับพี่น้อ งมานานเพราะไม่อยากให้รบกวน การเมืองของรัฐบาล แต่นับวัน การเดินทางที่มากขึ้น ได้พบเห็นอะไรมากขึ้น กลัวว่าความรู้เหล่านั้นจะห ายไป ไม่ได้ share กับพี่น้องก็เลยปรึกษากับ Oak ว่าพ่อควรจะมีเกร็ดความรู้ม าเล่าให้พี่น้องฟัง Oak ก็เลยบอกให้พี่น้องทราบผ่าน Facebook : Oak Panthongtae Shinawatra ผมจึงขอโอกาสใช้วันที่ 3/4/ 56 ให้เป็นวันดีที่ตัวเลขต่อเนื่อง กับเพื่อความก้าวหน้าของชีว ิตของผู้สนับสนุนทุกท่าน ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆว ันนี้
ขอเริ่มเล่าเรื่องที่ผมได้ร ับเชิญจากประธานาธิบดี H. E. Mr. Emomalii Rahmon แห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นประเทศในสหภาพโซเวี ยตสมัยก่อน ปีนี้เขาเป็นเจ้าภาพจัดการป ระชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในก ลุ่ม ACD ( Asia Cooperation Dialogue ) ได้เชิญผมในฐานะเป็นผู้ก่อต ั้ง ACD ขึ้นมาครั้งผมเป็นนายกรัฐมน ตรี ให้ผมมาพูดถึงความสำคัญของ ACD ว่าเราควรจะมีวิสัยทัศน์ต่อ ไปอย่างไร ให้รัฐมนตรีต่างประเทศของ 32 ประเทศสมาชิกฟัง ซึ่งผมจะแนบสุนทรพจน์ของผมไ ว้ให้ท่านอ่านในอีกโพสต์ครั บ ผมคงไม่เล่าเรื่อง ACD ในตอนนี้นะครับ เกรงว่าจะยาวไป ประเทศทาจิกิสถานนี้ ผมมาเยือนเป็นทางการเมื่อ 9 ก.ย. 49 หลังจากนั้นก็เดินทางไปประช ุม ASEM (Asia-Europe) ที่กรุง Helsinki, Finland, ประชุม NAM Summit (ประเทศผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด) ที่ Cuba และก็เดินทางต่อไปประชุม General Assembly ของ UN ที่ New York, USA จนเกิดรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย.49
ทาจิกิสถานวันนี้ยังดูยากจน มาก แต่ก็มีร่องรอยของตึกที่สร้ างไว้สมัย Soviet Union อยู่พอสมควร แต่วันนี้เขาพัฒนาไปมาก มีทำเนียบฯใหม่ ที่ใหญ่และสวยงามมาก มีตึกรามขึ้นมาก เพราะเดิมทำแต่เกษตร วันนี้เขามีเหมืองเงินที่ให ญ่ระดับโลก มีเหมืองทองและแร่อื่นๆ ที่สำคัญกำลังพบแหล่งแก๊สที ่เป็นโครงสร้างเดียวกับที่พ บในเหมืองของอัฟกานิสถาน ความที่ประเทศเขาไม่ใหญ่ รายได้จึงนำมาพัฒนาประเทศได ้เยอะ ความเป็นธรรมชาติยังมีอยู่ม าก เพราะล้อมรอบด้วยภูเขา มีหิมะในหน้าหนาวและละลายเป ็นแหล่งน้ำที่สำคัญเพื่อการ เกษตรและไฟฟ้าตอนหิมะละลาย
ผักผลไม้ที่นี่ค่อนข้างสวยแ ละเป็น organic มาก ผมชอบมะเขือเทศที่นี่มาก ลูกใหญ่หวาน กรอบ ประธานาธิบดีจูงมือผมเดินชม สิ่งที่เขาสร้างขึ้นใหม่ๆ ด้วยความภูมิใจ ซึ่งผมก็ภูมิใจแทนเขาที่สาม ารถพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเ นื่อง ผมก็เลยเชิญท่านมาเยือนไทยเ ป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง และมาร่วมงาน Water Summit ที่เชียงใหม่ด้วย
วันนี้ขออนุญาตเล่าแค่นี้คร ับ เพราะเดี๋ยวจะไปพบกับนักการ เงินแถบนี้ เขาอยากพาเศรษฐีแถบนี้ไปลงท ุน แล้วก็มาเล่าความคืบหน้าของ การรื้อฟื้นความสำพันธ์กับซ าอุดิอาระเบียให้ฟัง เพราะนักธุรกิจซาอุฯเริ่มคิ ดหา potential ในเมืองไทยแล้ว เพราะได้รับสัญญาณจากผู้ใหญ ่ในประเทศว่า การรื้อฟื้นความสัมพันธ์จวน จะเป็นจริงแล้วครับ
ถ้าอ่านแล้วก็กรุณา share ช่วยให้ผมได้มีช่องทางพูดคุ ยกับคนไทยให้มากที่สุด อย่างสร้างสรรค์ แบบไม่มีการเมืองนะครับ
คิดถึงครับ
ทักษิณ ชินวัตร
ผมไม่ได้ใช้ Facebook เป็นช่องทางพูดคุยกับพี่น้อ
ขอเริ่มเล่าเรื่องที่ผมได้ร
ทาจิกิสถานวันนี้ยังดูยากจน
ผักผลไม้ที่นี่ค่อนข้างสวยแ
วันนี้ขออนุญาตเล่าแค่นี้คร
ถ้าอ่านแล้วก็กรุณา share ช่วยให้ผมได้มีช่องทางพูดคุ
คิดถึงครับ
ทักษิณ ชินวัตร
...................................................................................................................
ปาฐกถาที่ประชุม ACD ปลุกเอเชียร่วมสร้างเส้นทาง สายไหมยุคใหม่
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเชิญจากนายเอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐท าจิกิสถาน เป็นแขกเกียรติยศปาฐกถาในพิ ธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนต รีกรอบความร่วมมืออาเซีย (ACD) ครั้งที่ 11 ณ กรุงดูชานเบ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2556
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเชิญมาร่วมการประช ุม ACD ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน ประเทศซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยแ หล่งอารยธรรมและศิลปวัฒนธรร มอันเลอค่า และขอขอบคุณรัฐบาลแห่งสาธาร ณรัฐทาจิกิสถานที่ให้เกียรต ิเชิญมาปาฐกถาในวันนี้ ซึ่งในโอกาสที่ได้กลับมาเมื องดูชานเบ ในครั้งนี้ทำให้อดหวนคิดถึง อดีตไม่ได้ โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2549 เป็นวันที่ผมเดินทางมาเยี่ย มเยียน สาธารณรัฐทาจิกิสถานอย่างเป ็นทางการประเทศสุดท้าย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งสิบวันหลังจากนั้นก็เกิ ดการรัฐประหารขึ้นในประเทศไ ทยขณะที่ผมยังปฏิบัติราชการ ในต่างประเทศ
ACD ถือกำเนิดที่ประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน 2545 ซึ่งในครั้งนั้นมีประเทศผู้ ร่วมก่อตั้ง ACD 18 ประเทศมาร่วมประชุมด้วยกัน ทำให้บรรยากาศอบอุ่นมากสำหร ับความตั้งใจในการที่จะรวมต ัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากมองย้อนกลับไปเกือบ 10 ปีก่อน ที่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่ว มมือกันในภูมิภาคแห่งนี้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ในเวลานั้นประเทศต่างๆ ในทวีปอื่นเริ่มมีการรวมตัว กันเป็นกลุ่มแล้ว แต่ประเทศในทวีปเอเชียยังไม ่ได้คิดถึงการรวมตัว โชคดีที่ว่ากลุ่มประเทศอาเซ ียนมีการรวมศูนย์กันอยู่แล้ ว ประกอบกับการยอมรับและได้รั บการสนับสนุนจากมิตรประเทศใ นแถบเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกกลาง ทำให้เอเชียของเราสามารถหลอ มรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกั นได้จากทุกมุมทวีป จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก และนั่น จึงก่อเกิด ACD ขึ้นมา
นับตั้งแต่วันที่มีความหมาย นั้นเป็นต้นมา ผมยินดีที่จะบอกว่าองค์กรขอ งพวกเราเติบโตขึ้นด้วยความม ั่นคงและทรงพลัง นับตั้งแต่ปี 2545 มีประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็ นเท่าตัว โดยในเวลานี้มีประเทศสมาชิก แล้ว 32 ประเทศ ซึ่งได้แก่ประเทศสมาชิกจากโ ซนเอเชียตะวันออกกลางและเอเ ชียใต้ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็นกล ุ่มที่มีขนาดครอบคลุมไปทั้ง ทวีป
ซึ่งการรวมตัวเป็นกลุ่มประเ ทศ อย่าง ACD มีความจำเป็น สำหรับภูมิภาคของเรา และผมเชื่อว่ามีความสำคัญไม ่มากก็น้อยจึงขออนุญาตนำมาพ ูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้
ทวีปเอเชีย มีประชากรมากกว่าสี่พันล้าน คน นับเป็น 60% จากจำนวนประชากรทั้งโลก มีตลาดการค้าขายที่ใหญ่ มหึมาและเป็นแหล่งรวมทรัพยา กรมนุษย์อันมีค่า ที่นี่คือที่ที่มีดินแดนกว้ างใหญ่ ขนาดราว 30% ของเปลือกโลก และที่นี่มีความหลากหลายของ ทรัพยากรธรรมชาติปริมาณมหาศ าล และยังเป็นดินแดนที่เศรษฐกิ จเติบโตสูงที่สุดในโลก เป็นภูมิภาคหลักที่ผลักดันค วามเจริญของโลกในตลอดหลายสิ บปีมานี้ ปริมาณการส่งสินค้าของออกขอ งภูมิภาคนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอ ย่างต่อเนื่องตลอดหลายสิบปี มานี้ และปัจจุบันมูลค่าการค้าขาย ของเอเชียมีปริมาณ30% ของการค้าขายทั้งโลก
ในระยะเริ่มต้นของการก่อตั้ ง ACD เอเชียมีทุนสำรอง สะสมรวมกันประมาณหนึ่งล้านล ้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของทุน แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเท ศ แต่วันนี้เปอร์เซ็นต์ของจำน วนดังกล่าวสูงขึ้นอย่างน่าป ระหลาดใจ
ไม่เพียงแต่ขนาดของเศรษฐกิจ ในเอเชียที่มีการขยายตัวอย่ างมาก แต่การขยายตัวยังรวมไปถึงกา รขยายตัวในมิติอื่นๆ เช่น ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม เอเชียเป็นแหล่งกำเนิดของศา สนาสำคัญ รวมไปถึงมีสิ่งมหัศจรรย์ของ โลกโบราณ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ หลายสิ่ง และเอเชียก็ยังเป็นหนึ่งในด ินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของอา รยธรรมโบราณนับย้อนหลังได้ห ลายพันปี
หากมองข้ามฉากหลังของความมั ่งคั่ง เราก็ต้องยอมรับว่าในอีกหลา ยๆ พื้นที่ในเอเชีย ประชากรของเรายังคงมีฐานะยา กจนอยู่ และมันรบกวนความรู้สึกของผม ที่ว่าจำนวนประชากรที่ยากจน นั้นมีอยู่จำนวนมากและไม่ได ้รับการเอาใจใส่ แม้ว่าเรามีการแลกเปลี่ยนอา รยธรรมระหว่างกันและกันมาตั ้งแต่โบราณกาล แต่เอเชียก็ยังคงแข่งขันระห ว่างกัน และหลายครั้งที่พาให้ประเทศ พัวพันกับความขัดแย้งระหว่า งกัน ซึ่งน่าเสียดายเพราะเราน่าจ ะทำให้เกิดความพยายามที่จะร ่วมมือกัน และนำพาความเข้มแข็งมาสู่ภู มิภาคนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมเล็งเห็นว่าการรวมตัวเป็น กลุ่มลักษณะนี้จะช่วยทำให้เ กิดการเจรจาต่อรองและร่วมมื อระหว่างกัน เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยน แปลงความขัดแย้ง ความแตกต่างไปสู่ผลประโยชน์ ที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับได้ ซึ่งจะเป็นหนทางสร้างความเข ้มแข็งในหมู่ประเทศสมาชิกแล ะขยายฐานพันธมิตรต่อไปยังภู มิภาคอื่น
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็ นการเติบโตก้าวหน้าและการเพ ิ่มจำนวนประเทศสมาชิกใน ACD ตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน ่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย อย่างไรก็ตามหลังจากที่พ้นต ำแหน่งในปี 2549 ผมพบว่ามีความกระตือรือร้นล ดลงและมีประเทศสมาชิกมาเพิ่ มใหม่เพียง 2 ประเทศ ดังนั้นในวันนี้จึงขอให้พวก ท่านทั้งหลายหันมาฟื้นฟู ACDให้เป็นพลวัตใหม่ให้กับท ุกชีวิต
ในช่วงเวลานี้ จะเห็นว่าประเทศหลายๆ ประเทศในภูมิภาคอื่นของโลกป ระสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและกา รเงินอย่างหนัก แต่เอเชียของเรายังคงมีความ แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพดีอ ยู่มาก ดังที่เห็นว่าการขยายตัวของ เศรษฐกิจโลกเป็นผลมาจากการข ยายตัวของเศรษฐกิจจากเอเชีย แต่ถึงแม้ว่าการขยายตัวในภู มิภาคนี้ของเรายังเป็นไปด้ว ยดีอยู่ ก็ยิ่งควรที่จะรวมกลุ่มกัน เพราะช่วยกันเสริมสร้างความ แข็งแกร่งระหว่างกัน จะได้เป็นการเพิ่มโอกาสในกา รแข่งขันต่อภูมิภาคอื่นด้วย
พวกเราส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้ผ ลิตสินค้าหลักให้กับผู้บริโ ภคในภูมิภาคอื่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายังอ่ อนด้อยเรื่องการสร้างมูลค่า เพิ่มในสินค้าที่ส่งออก ดังนั้นแทนที่เราจะต้องมาแข ่งขันตัดราคากันเอง การรวมตัวเป็น ACD จะช่วยทำให้ลดการแข่งขันและ ลดความขัดแย้งในหมู่ประเทศส มาชิกได้
เอกอัครราชทูต ผู้มีเกียรติ สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท ่าน สองพันปีก่อน บรรพบุรุษของพวกเราได้ทำการ ค้าขายตามเส้นทางโบราณอันเล ื่องชื่อ เส้นทางสายไหม บนถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่ม ีความยาวกว่า 8,000 กิโลเมตรสายนี้ เริ่มต้นจากประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีนทอดผ่านบางส่วนขอ งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ไปสู่ตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป และแอฟริกา เส้นทางการค้านานาประเทศสาย นี้เป็นถนนสำคัญของการแลกเป ลี่ยนสินค้า ความรู้และเทคโนโลยี รวมไปถึงศาสนา ปรัชญาและศิลปวัฒนธรรม
การที่เรามีโอกาสพูดคุยเชื่ อมโยงกันในภูมิภาคในวันนี้ เปรียบได้กับว่าพวกเรากำลัง สร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ โดยการเชื่อมโยงประเทศสมาชิ ก ACD แล้วโยงต่อไปยังภูมิภาคอื่น ผ่านระบบถนน ระบบทางรถไฟ การเดินเรือและการเดินทางทา งอากาศ ซึ่งถือเป็นฮาร์ดแวร์หลัก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ละเลย ซอฟต์แวร์ ซึ่งมีความสำคัญระดับเดียวก ัน คำว่าซอฟต์แวร์ก็หมายถึง วัฒนธรรม ศาสนา อารยธรรมที่สืบเนื่องมาอย่า งยาวนานของหมู่ประเทศสมาชิก ซึ่งทั้งสององค์ประกอบนี้จะ ช่วยสร้างให้เราได้เส้นไหมท ี่สุดพิเศษ ที่มีความยืดหยุ่นสูง สง่าและประเมินค่าได้ยาก
และขอถือโอกาสนี้เรียนเชิญท ุกท่านร่วมเดินทางบนเส้นทาง สายไหมยุคใหม่ ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งบนถนนแ ห่งความเกียรติยศ ยิ่งใหญ่ และเจริญรุ่งโรจน์ตลอดไป
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเชิญจากนายเอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐท
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ACD ถือกำเนิดที่ประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน 2545 ซึ่งในครั้งนั้นมีประเทศผู้
นับตั้งแต่วันที่มีความหมาย
ซึ่งการรวมตัวเป็นกลุ่มประเ
ทวีปเอเชีย มีประชากรมากกว่าสี่พันล้าน
ในระยะเริ่มต้นของการก่อตั้
ไม่เพียงแต่ขนาดของเศรษฐกิจ
หากมองข้ามฉากหลังของความมั
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมเล็งเห็นว่าการรวมตัวเป็น
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็
ในช่วงเวลานี้ จะเห็นว่าประเทศหลายๆ ประเทศในภูมิภาคอื่นของโลกป
พวกเราส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้ผ
เอกอัครราชทูต ผู้มีเกียรติ สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท
การที่เรามีโอกาสพูดคุยเชื่
และขอถือโอกาสนี้เรียนเชิญท
...................................................................................................................
" ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์ "
1. เป็นธรรมดาของโลก ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโ ลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที ่รอดพ้นจากคำนินทา เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าของเ รา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐ บริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพาล กล่าวโจมตีว่าร้ายจนได้ แล้วนับประสาอะไรกับเราที่เ ป็นแค่คนธรรมดาสามัญที่ยังม ีทั้งดีและชั่วจะรอดพ้นปากค นนินทาไปได้ คิดอย่างนี้แล้วจะได้สบายใจ ว่า การถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และ ยังคงมีอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้ าดินสลาย
2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปราร ถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนิน ทา กล่าวร้ายว่าอย่างนั้นอย่าง นี้ ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในคว ามดีของเรา อุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่ นไหวในลมพายุฉันใด บัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นใน ความดี ย่อมไม่หวั่นไหวในคำสรรเสริ ญ และ คำนินทาแม้ฉันนั้น
3. ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาว่ า คนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริ ษยา เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาใ ห้ร้อนรุ่มเสียก่อน จึงจะสามารถพูดนินทาว่าร้าย คนอื่นออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงสาร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขา
อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียด หรือ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิ ตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจคน ที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เข าต้องเป็นผู้อยู่ในโลกนี้ด้ วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ ได้
4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิ ดหาจุดอ่อนในตัวของเรา เพื่อเอามาพูดโจมตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ตัวเรา เองก็มีอยู่จริงแต่ทว่าเราไ ม่รู้ตัวมาก่อน นี้เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่ านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได ้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะขอบคุ ณคนนินทาเรา เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดน อนคิดช่วยค้นหาข้อมูลมาช่วย ให้เราปรับปรุงตนเอง
5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสั งคม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความ สัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือเน้นเรื่องการใช้อำนาจคร อบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข ่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ) ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี ก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่ รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่น ดีกว่าตน สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแน วดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมด า ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แ ล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอ ะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทา นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏ การณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรร มกับสังคมไทยกันอย่างจริงจั ง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยง แปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจา ก "แนวดิ่ง" ให้เป็น "แนวราบ" คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็น ใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต ็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จ ะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า "สังคมเสื่อมถอยเพราะคนดีท้ อแท้" หรือ "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" จะได้เลิกใช้กันเสียที
1. เป็นธรรมดาของโลก ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโ
2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปราร
3. ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา
อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียด หรือ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิ
4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิ
5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสั
ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรร
.........................................................................................................................

.........................................................................................................................
..........................................................................................................................
...............................................................................................................................
มันคือศิลปะ~
.........................................................................................................................
"5 coffees, 2 for us, 3 pending"
เนเปิ้ล อิตาลี, บัลแกเรีย และบางเมืองในยุโรป ได้เกิดวัฒนธรรม 'Pending Coffee' หรือการสั่งกาแฟเผื่อผู้ยาก ไร้ โดยจ่ายค่ากาแฟเกินจำนวน ทางร้านจะลงรายการไว้ และในวันอันนานเหน็บ คนยากจนหรือคนไร้บ้านจะเข้า มาถามว่า "มี pending coffee ไหม"
เป็นวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงกา รเชื่อในคุณความดีของมนุษย์ ทั้งการเผื่อแผ่ การยอมรับ ความซื่อสัตย์
เคยคิดมานานแล้วว่าเวลาทานข ้าวข้างทางถ้าบอกว่าเอาเงิน เก็บไว้เผื่อให้ร้านทำข้าวใ ห้ใครที่ยากจนมาทานจะเป็นไป ได้หรือไม่ (ถ้าไม่ถูกหาว่าเพี้ยนไปซะก ่อน)
เราทุกคนสามารถทำสิ่งมีค่าใ ห้เกิดขึ้นกับผู้อื่นได้เสม อ
#The Unsung Hero Series by Fire
เนเปิ้ล อิตาลี, บัลแกเรีย และบางเมืองในยุโรป ได้เกิดวัฒนธรรม 'Pending Coffee' หรือการสั่งกาแฟเผื่อผู้ยาก
เป็นวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงกา
เคยคิดมานานแล้วว่าเวลาทานข
เราทุกคนสามารถทำสิ่งมีค่าใ
#The Unsung Hero Series by Fire
...........................................................................................................................
มีคนถามเข้ามาเยอะมากเกี่ยว กับการ์ตูนเรื่อง Saint Oniisan หรือ Saint Young Men
เนื้อเรื่องเป็นเหตุการณ์สม มุติว่าถ้าหากจีซัส(พระเยซู )และบุดด้า(พระพุทธเจ้า) ลงมาพักร้อนบนโลกมนุษย์ยุคป ัจจุบันจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้มีข่าวดีฮะ คือมีคนอัพซับไทยขึ้นบนเว็บ ดูวิดีโอออนไลน์แล้ว (จริงๆคือหลายวันแล้วแต่ผมเ พิ่งเห็น)
ใครที่รอซับไทยอยู่เชิญเสพไ ด้เลยฮะ
Link: http://alive.in.th/ watch_video.php?v=R9OHAS9RU G11
//002
เนื้อเรื่องเป็นเหตุการณ์สม
ตอนนี้มีข่าวดีฮะ คือมีคนอัพซับไทยขึ้นบนเว็บ
ใครที่รอซับไทยอยู่เชิญเสพไ
Link: http://alive.in.th/
//002
Kraren Current - -!! มั่นใจ
Bordin Tik เคยอ่านเล่มแรก ฮาดีๆ
ส่วนเรื่องอื่นอย่าไปคิดอะไรมาก คิดเยอะปวดหัว
จักรพงษ์ จำรูญ อยากกด share แต่คิดว่าอาจโดนด่ามากกว่าคนกด like
Supapong Wanitpongpan อย่าไปยึดติดครับกอล์ฟ
........................................................................................................................
...........................................................................................................................
อ้าว ซะงั้น !
.......................................................................................................................
Kung Witoon Think different way it will solve the problem.
..................................................................................................................
......................................................................................................................
..........................................................................................................................
หลายๆครั้งที่ผมได้เห็นการถกกัน โดยเฉพาะที่เี่กี่ยวโยงกับพุทธ
ก็จะมีหลายๆคน นำเสนอกาลามสูตร (เกสปุตตสูตร)
ซึ่งผมก็ยินดีอย่างยิ่งที่มีคนนำ concept นี้มาใช้
เพราะทำให้ใช้สติไตร่ตรองก่อน ไม่หูเบา ไม่หลงเชื่อง่ายๆ
ผมขอพูดถึงที่มาของพระสูตรนี้สักหน่อยนะครับ
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ถึงนิคมของพวกกาลามะ ชื่อว่าเกสปุตตะ
ครั้งนั้น ชนกาลามโคตร ชาวเกสปุตตนิคมได้เข้าไปเฝ้าผู้มีพระภาคเจ้าจนถึงที่ประทับ
เมื่อต่างก็นั่งลงเรียบร้อยแล้ว จึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า มีสมณพราหมณ์ 2 พวก มาที่เกสปุตตนิคม แล้วทั้ง 2 พวก ก็พูดประกาศแต่เฉพาะวาทะของตัวเท่านั้น ส่วนวาทะของผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ ชนกาลาม จึงมีความเคลือบแคลงสงสัยในสมณพราหมณ์เหล่านั้น ว่า ท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็ควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลงสงสัย มาเถิดท่านทั้งหลาย
ท่านทั้งหลาย
1. มา อนุสฺสวเนน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยฟังตามกันมา
2. มา ปรมฺปราย - อย่าเพิ่งเชื่อโดยถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบๆ กัน
3. มา อิติกิราย - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
4. มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา
5. มา ตกฺกเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดเดาเอาเอง
6. มา นยเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
7. มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยตรึกเอาตามอาการที่ปรากฏ
8. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นว่าต้องกับความเห็นของตน
9. มา ภพฺพรูปตา - อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อได้
10. มา สมโณ โน ครูติ - อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ส่วนใหญ่จะยกขึ้นมาแต่ส่วน 10 ข้อนี้
และอ้างว่า จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว
ผลก็คือ เกิดความสับสน!
กลายเป็นว่า ต้องได้พิสูจน์ด้วยตัวเองทุกอย่างถึงจะเชื่อได้
หรือบางคนแย้งว่า งั้นถ้าบอกว่ายาบ้าไม่ดี ก็เชื่อไม่ได้ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองสินะ!!!
นอกจากนั้นบางคนยังบอกว่า ก็กาลามสูตรบอกว่าอย่าเชื่อ แล้วทำไมยังเชื่อกาลามสูตร
ทั้งนี้เนื่องจากใจความสำคัญใหญ่อีกส่วนหนึ่งหายไป
คือ
"เมื่อใดท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้ บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ เมื่อนั้นท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย"
และ
"เมื่อใดท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้ บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อสุข เมื่อนั้นท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ "
ในพระสูตรยังมีการยกตัวอย่าง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความไม่โลภ ความไม่โกรธ ความไม่หลง
โดยตรัสถามประเด็นหลักๆคือ
1. ธรรมเหล่านี้เป็นกุศลหรืออกุศล?
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ?
3. ท่านผู้รู้ติเตียนหรือท่านผู้รู้สรรเสริญ?
4. ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขหรือหาไม่ ในข้อนี้ท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไร?
ด้วยความชัดเจนดังนี้ ชาวกาลามะจึงถวายตัวเป็นพุทธบริษัทนับแต่นั้น
Kraren Current โอ้ว... กระจ่างแจ้งแล้วสำหรับคนที่อ้างถึงกาลามสูตรเพื่อไปใช้บิดเบียนข้อเท็จจริงให้เกิดความสับสน ขอแชร์นะครับท่าน
Supapong Wanitpongpan ด้วยความยินดีครับ
...................................................................................................................
.......................................................................................................................
......................................................................................................................
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. เปิดเผยกรณีในสังคมออนไลน์ แชร์เนื้อหาระบุข้อห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ 11 ข้อ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีข้อห้ามในการเล่นสงกรานต์ตามที่ปรากฏ โดยเนื้อหาดังกล่าวทางตร.ไม่ได้จัดทำ! -_-
สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากแหล่งข่าวต่างๆ...
ว่าแต่...ข้อห้ามที่กระจายอยู่ มันมาจากไหนกันล่ะ???!!
..........................................................................................................................
........................................................................................................................
...............................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น