ยังคงหมอบกราบ
"แลธรรมเนียมที่หมอบคลานกรา บไหว้ในประเทศสยามนี้ เหนว่าเปนการกดขี่แก่กันแขง แรงนัก ผู้น้อยที่ต้องหมอบคลานนั้น ได้ความเหน็จเหนื่อยลำบาก [...] ธรรมเนียมอันนี้แลเหนว่าเปน ต้นแห่งการที่เปนการกดขี่แก ่กันทั้งปวง เพราะฉนั้นจึ่งจะต้องละพระร าชประเพณีเดิม ที่ถือว่าหมอบคลานเปนการเคา รพอย่างยิ่งในประเทศสยามนี้ เสีย"
ส่วนหนึ่งในคำประกาศเปลี่ยน ธรรมเนียมใหม่
หนังสือราชกิจจานุเบกษา ประกาศการยกเลิกการหมอบคลาน
พ.ศ. 2416
ที่มา: http://prachatai.com/ journal/2012/10/43275
-------------------------- --------
"การถวายบังคมแบ่งออกเป็น ๓ จังหวะ ดังนี้
จังหวะที่ ๑ ยกมือขึ้นประนมระหว่างอก ปลายนิ้วตั้งขึ้นแนบตัวไม่ก างศอก
จังหวะ ที่ ๒ ยกมือที่ประนมขึ้น ให้ปลายนิ้วหัว แม่มือจรดหน้าผากเงยหน้าขึ้ นเล็กน้อย
จังหวะที่ ๓ ลดมือกลับลงตามเดิมมาอยู่ ในจังหวะที่ ๑
ทำให้ครบ ๓ ครั้ง โดย จบลงอย่างจังหวะที่ ๑ แล้วจึงลดมือลง วางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้า ง
การถวายบังคม ดังกล่าวนี้ หญิงมีโอกาสใช้น้อย จะใช้ใน กรณีที่มีชายกับหญิงไปถวายบ ังคมร่วมกัน ถ้าหญิงล้วนให้ใช้วิธีหมอบก ราบ ทั้งนี้ เพื่อให้มีความถูกต้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดพ ิธีซ้อมการถวายบังคมให้กับส ่วนราชการจังหวัด โดยความร่วมมือจากสภาวัฒนธร รมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป ็นอย่างดี ในวันที่ ๒๒ ตุลาคมนี้"
ที่มา: http://ayutthaya.go.th/ page.php?news_ID=2537
by Admin AC & Ao
"แลธรรมเนียมที่หมอบคลานกรา
ส่วนหนึ่งในคำประกาศเปลี่ยน
หนังสือราชกิจจานุเบกษา ประกาศการยกเลิกการหมอบคลาน
พ.ศ. 2416
ที่มา: http://prachatai.com/
--------------------------
"การถวายบังคมแบ่งออกเป็น ๓ จังหวะ ดังนี้
จังหวะที่ ๑ ยกมือขึ้นประนมระหว่างอก ปลายนิ้วตั้งขึ้นแนบตัวไม่ก
จังหวะ ที่ ๒ ยกมือที่ประนมขึ้น ให้ปลายนิ้วหัว แม่มือจรดหน้าผากเงยหน้าขึ้
จังหวะที่ ๓ ลดมือกลับลงตามเดิมมาอยู่ ในจังหวะที่ ๑
ทำให้ครบ ๓ ครั้ง โดย จบลงอย่างจังหวะที่ ๑ แล้วจึงลดมือลง วางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้า
การถวายบังคม ดังกล่าวนี้ หญิงมีโอกาสใช้น้อย จะใช้ใน กรณีที่มีชายกับหญิงไปถวายบ
ที่มา: http://ayutthaya.go.th/
by Admin AC & Ao
..............................................................................................................
วันนี้ให้ลูกน้องในทีม ไม่ผ่านทดลองงาน (ฝากถึงน้องๆที่จบมาใหม่ๆ)
กระทู้สนทนา
วันนี้ให้น้องในทีม ไม่ผ่านทดลองงาน 1 คน ปรากฏว่าน้องเอาผมไปด่าใน Facebook ซะไม่เหลือชิ้นดี (น้องมา add เป็นเพื่อนตอนเข้างานแรกๆ)
ข้อความรุนแรงและหยาบคายมาก ถึงพ่อถึงแม่ที่เดียว แล้วก็มีเพื่อนๆของน้องเข้า comment กันอย่างเมามัน(เข้ามาร่วมกันด่าผม) อ่านแล้วก็เป็นห่วงน้อง....ต่อไปน้องจะเป็นอย่างไรต่อ
รับน้องคนนี้เข้ามาช่วงก่อนปีใหม่ ในตำแหน่ง Production Engineer อยู่ในทีม New Model น้องจบมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง เกรดเฉลี่ยค่อนข้างสูง บุคคลิกดี แต่พูดจาไม่ค่อยสุภาพ ชอบหลุดคำหยาบบ่อยๆ ช่วง 1 เดือนแรก ยังไม่มีอะไร มาแต่เช้า ขยัน บอกอะไรก็จด สอนอะไรก็ฟัง
พอปล่อยให้เข้าทีม ก็ดูอยู่ห่างๆ ปล่อยให้หัวหน้าทีมดูแลต่อ ปัญหาที่เจอคือ
1.น้องอ่อนในเรื่องภาษาอังกฤษมาก สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าค่อนข้างมีปัญหา (ฝรั่ง จีน มาเลเซีย อินดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปินส์) ดูจาก e-mail ที่น้องส่งออกไป cc ถึงผม เหมือนกับพิมพ์เป็นไทย แล้วเอาไปวางในโปรแกรมแปลภาษา อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ก็เลยให้หัวหน้าทีมช่วย ตรวจสอบก่อนส่ง mail ภาษาอังกฤษ แล้วก็บอกให้ไปเรียนภาษาเพิ่ม หรือไม่ก็ลองไล่ดู mail เก่าๆ ที่ Engineer คนก่อน เค้าคุยกับลูกค้าว่าคุยกันอย่างไร ขึ้นต้นอย่างไร เนื้อหาเป็นอย่างไร ลงท้ายอย่างไร
2. น้องใช้งาน Microsoft Excel ไม่เป็นเลย เอกสารที่ใช้ติดต่อกันภายในบริษัท หรือติดต่อลูกค้า 80 % เป็น Excel (งาน New Model เกี่ยวกับ Auto Part ตามระบบ TS 16949 เอกสารจะค่อนข้างเยอะ มีสูตรคำนวนเยอะ กราฟเยอะ ข้อมูล link กันเยอะ น้องไม่ได้เลย
3. PowerPoint ทำได้เด็กน้อย น่าใจหาย (อันนี้ไม่ซีเรียส เพราะแรกๆผมก็ไม่เป็นเหมือนกัน ค่อยๆฝึกกันก็ได้ เพราะในทีมมีเซียนอยู่แล้ว)
4. การประสานงานกับ Technician ,Leader ,Line production ค่อนข้างมีปัญหา EQ น้อย ชอบสั่งงานแล้วหายหน้าไปเลย งานสะดุดตลอด Line production ไม่รู้ว่าจะเอาไงต่อ
5. งานในทีมเป็นงานที่ไม่จบในเวลา บางครั้งต้อง Trial หลายๆ Condition ให้ลูกค้าเอากลับไป Test บางครั้ง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี1 ตี 2 ก็เคย ถ้าลูกค้ารอเอางานเราก็ต้องทำ แต่ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน case by case แต่น้องใจไม่สู้ หนีกลับบ้านโดยไม่แจ้งใคร ปล่อยให้ลูกค้านั่งรอ จนถูกลูกค้า complain ( case นี้ทำให้ทีมเข้าห้องมืดกันทั้งทีม)
6. 2 เดือนหลัง เริ่มมาสาย หลับในห้องประชุม (ทราบภายหลังว่าน้องติดเกมส์ออนไลน์อย่างหนัก)
7.น้องติด Facebook มาก เล่นทั้งวัน เคยถ่ายรูปงาน sample & Mold ไปอวดเพื่อนใน Face ซึ่งเป็น Part ของรถยนต์ที่จะออกปี 2015 (ทั้งที่เรื่องนี้ได้รับการ Train ในวันแรกที่เข้าทำงาน)
***ซึ่งผมได้เรียกเข้ามาคุย ชี้ข้อบกพร่องให้ทราบทุกเดือน (ต้องประเมินคะแนนส่ง HR ) และกำหนดเป้าหมายการทำงานให้น้องได้พัฒนา ถ้าเจอปัญหาก็จะเรียกมาสอนทุกครั้ง
แต่ครบ 4 เดือน น้องไม่พัฒนาขึ้นเลย จนสุดท้ายคะแนนไม่ผ่าน standard ผมเรียกมาคุย แล้วอธิบายให้ฟัง เป็นข้อๆ แต่เหมือนจะไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย เถียงแล้วเริ่มมีคำหยาบหลุดออกมา ผมก็เลยให้ปล่อยให้ HR จัดการต่อ เสียใจครับที่น้องไม่เข้าใจในสิ่งที่เราอยากจะสื่อ
ใน Facebook มีเพื่อนน้องคนนึงบอกว่า ไม่ต้องห่วงเราจบมาจาก.............ยังไงก็หางานได้ไม่ยาก ไม่ต้องไปสนใจบริษัท เ_ี้ยๆ แบบนั้น ก็จะบอกกับน้องว่า น้องกำลังทำให้ชื่อเสียงที่เค้าสั่งสมมานานต้องเสียไปหรือเปล่า ถ้า 10-20 ปีก่อนไม่เถียง แต่เดี่ยวนี้โลกมันเปลี่ยนเยอะ
อยากจะบอกน้องเหลือเกินว่า ชุดครุยที่พี่ใส่ตอนรับปริญญาก็สีเดียวกับน้อง อย่าเอาความคิดว่าเราเหนือกว่าคนอื่นมาฝังหัว
ผมเคยรับน้องคนหนึ่งจบเครื่องกล จาก ม.เอกชน แถวๆคลองหนึ่ง คลอง 2 เกรด 2 นิดๆ แต่น้องเก่งมาก เป็นงานเร็วมาก ภาษาพอใช้ computer OK การประสานงานใน Line เยี่ยม กล้าพูด กล้าแสดงออก อยู่ปีเดียวเป็นมือทำงานให้เลยก็ว่าได้ ตอนนี้ย้ายไปทำงานที่ระยอง เงิน
เดือนพอๆกับผมเลย ยังแวะมากินเหล้าด้วยกันตลอด
ฝากน้องๆที่จบมาใหม่ๆ
1.ลองสำรวจตัวเองเราขาดเรื่องอะไรไปบ้าง พยายามหามาเติมเต็ม ความรู้เกือบทุกอย่างอยู่ใน Internet อยากรู้เรื่องอะไรถาม google ,Youtube .
2.ภาษา อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน (ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยการดู นารูโต๊ะ ปิด subtitle แล้วกลับมาดูใหม่ (เปิด sub) ดูไปหลายรอบ สามารถสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้
3.Skill เรื่อง MS Office จำเป็นต่อการทำงาน ต้องสามารถใช้งานได้พอสมควร
4.EQ ,การคิดบวก
5.ความอดทน การวางแผนงาน การแก้ปัญหา การปรึกษา การขอคำแนะนำ
6.การบริหารเวลา
7.เล่นเกมส์ได้ แต่อย่าติดเกมส์ ----> อันนี้แถม
8.นึกถึงอนาคต อย่ารีบแต่งงาน อย่ามีบัตรเครดิตหลายๆใบ ----> อันนี้ก็แถม
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
แก้ไขคำผิดครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชี้แจงครับ
1.เป็นเรื่องจริงครับ
2.ไม่มีความคิดที่จะประจานใครทั้งสิ้นครับ อยากให้เป็นกรณีศึกษามากกว่า
3.สิ่งที่ทำให้น้องไม่ผ่านทดลองงาน คือ น้องไม่พัฒนา ปรับปรุง ในสิ่งที่เราแนะนำ เพราะนั่นเป็นสิ่งจำเป็นต่องานที่ได้รับมอบหมาย
4.ผมยอมรับระบบการสรรหาบุคคลากรของบริษัทผมไม่เข้มข้นพอ รวมถึงผมในถานะผู้สัมภาษณ์คนหนึ่ง
5.มีคำถามว่าต้องอยู่จนกว่างานจะเสร็จ มี OT หรือเปล่า แล้วบอกน้องล่วงหน้าแล้วหรือยัง ว่าต้องทำงานแบบนี้
ตอบ จ่าย OT ตามที่เขียนไปครับ ไม่จำกัดชั่วโมง จ่ายเท่าที่ทำครับ ,ทุกอย่างชี้แจงก่อนเริ่มงานวันแรกครับ
ข้อความรุนแรงและหยาบคายมาก ถึงพ่อถึงแม่ที่เดียว แล้วก็มีเพื่อนๆของน้องเข้า comment กันอย่างเมามัน(เข้ามาร่วมกันด่าผม) อ่านแล้วก็เป็นห่วงน้อง....ต่อไปน้องจะเป็นอย่างไรต่อ
รับน้องคนนี้เข้ามาช่วงก่อนปีใหม่ ในตำแหน่ง Production Engineer อยู่ในทีม New Model น้องจบมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง เกรดเฉลี่ยค่อนข้างสูง บุคคลิกดี แต่พูดจาไม่ค่อยสุภาพ ชอบหลุดคำหยาบบ่อยๆ ช่วง 1 เดือนแรก ยังไม่มีอะไร มาแต่เช้า ขยัน บอกอะไรก็จด สอนอะไรก็ฟัง
พอปล่อยให้เข้าทีม ก็ดูอยู่ห่างๆ ปล่อยให้หัวหน้าทีมดูแลต่อ ปัญหาที่เจอคือ
1.น้องอ่อนในเรื่องภาษาอังกฤษมาก สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าค่อนข้างมีปัญหา (ฝรั่ง จีน มาเลเซีย อินดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปินส์) ดูจาก e-mail ที่น้องส่งออกไป cc ถึงผม เหมือนกับพิมพ์เป็นไทย แล้วเอาไปวางในโปรแกรมแปลภาษา อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ก็เลยให้หัวหน้าทีมช่วย ตรวจสอบก่อนส่ง mail ภาษาอังกฤษ แล้วก็บอกให้ไปเรียนภาษาเพิ่ม หรือไม่ก็ลองไล่ดู mail เก่าๆ ที่ Engineer คนก่อน เค้าคุยกับลูกค้าว่าคุยกันอย่างไร ขึ้นต้นอย่างไร เนื้อหาเป็นอย่างไร ลงท้ายอย่างไร
2. น้องใช้งาน Microsoft Excel ไม่เป็นเลย เอกสารที่ใช้ติดต่อกันภายในบริษัท หรือติดต่อลูกค้า 80 % เป็น Excel (งาน New Model เกี่ยวกับ Auto Part ตามระบบ TS 16949 เอกสารจะค่อนข้างเยอะ มีสูตรคำนวนเยอะ กราฟเยอะ ข้อมูล link กันเยอะ น้องไม่ได้เลย
3. PowerPoint ทำได้เด็กน้อย น่าใจหาย (อันนี้ไม่ซีเรียส เพราะแรกๆผมก็ไม่เป็นเหมือนกัน ค่อยๆฝึกกันก็ได้ เพราะในทีมมีเซียนอยู่แล้ว)
4. การประสานงานกับ Technician ,Leader ,Line production ค่อนข้างมีปัญหา EQ น้อย ชอบสั่งงานแล้วหายหน้าไปเลย งานสะดุดตลอด Line production ไม่รู้ว่าจะเอาไงต่อ
5. งานในทีมเป็นงานที่ไม่จบในเวลา บางครั้งต้อง Trial หลายๆ Condition ให้ลูกค้าเอากลับไป Test บางครั้ง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี1 ตี 2 ก็เคย ถ้าลูกค้ารอเอางานเราก็ต้องทำ แต่ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน case by case แต่น้องใจไม่สู้ หนีกลับบ้านโดยไม่แจ้งใคร ปล่อยให้ลูกค้านั่งรอ จนถูกลูกค้า complain ( case นี้ทำให้ทีมเข้าห้องมืดกันทั้งทีม)
6. 2 เดือนหลัง เริ่มมาสาย หลับในห้องประชุม (ทราบภายหลังว่าน้องติดเกมส์ออนไลน์อย่างหนัก)
7.น้องติด Facebook มาก เล่นทั้งวัน เคยถ่ายรูปงาน sample & Mold ไปอวดเพื่อนใน Face ซึ่งเป็น Part ของรถยนต์ที่จะออกปี 2015 (ทั้งที่เรื่องนี้ได้รับการ Train ในวันแรกที่เข้าทำงาน)
***ซึ่งผมได้เรียกเข้ามาคุย ชี้ข้อบกพร่องให้ทราบทุกเดือน (ต้องประเมินคะแนนส่ง HR ) และกำหนดเป้าหมายการทำงานให้น้องได้พัฒนา ถ้าเจอปัญหาก็จะเรียกมาสอนทุกครั้ง
แต่ครบ 4 เดือน น้องไม่พัฒนาขึ้นเลย จนสุดท้ายคะแนนไม่ผ่าน standard ผมเรียกมาคุย แล้วอธิบายให้ฟัง เป็นข้อๆ แต่เหมือนจะไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย เถียงแล้วเริ่มมีคำหยาบหลุดออกมา ผมก็เลยให้ปล่อยให้ HR จัดการต่อ เสียใจครับที่น้องไม่เข้าใจในสิ่งที่เราอยากจะสื่อ
ใน Facebook มีเพื่อนน้องคนนึงบอกว่า ไม่ต้องห่วงเราจบมาจาก.............ยังไงก็หางานได้ไม่ยาก ไม่ต้องไปสนใจบริษัท เ_ี้ยๆ แบบนั้น ก็จะบอกกับน้องว่า น้องกำลังทำให้ชื่อเสียงที่เค้าสั่งสมมานานต้องเสียไปหรือเปล่า ถ้า 10-20 ปีก่อนไม่เถียง แต่เดี่ยวนี้โลกมันเปลี่ยนเยอะ
อยากจะบอกน้องเหลือเกินว่า ชุดครุยที่พี่ใส่ตอนรับปริญญาก็สีเดียวกับน้อง อย่าเอาความคิดว่าเราเหนือกว่าคนอื่นมาฝังหัว
ผมเคยรับน้องคนหนึ่งจบเครื่องกล จาก ม.เอกชน แถวๆคลองหนึ่ง คลอง 2 เกรด 2 นิดๆ แต่น้องเก่งมาก เป็นงานเร็วมาก ภาษาพอใช้ computer OK การประสานงานใน Line เยี่ยม กล้าพูด กล้าแสดงออก อยู่ปีเดียวเป็นมือทำงานให้เลยก็ว่าได้ ตอนนี้ย้ายไปทำงานที่ระยอง เงิน
เดือนพอๆกับผมเลย ยังแวะมากินเหล้าด้วยกันตลอด
ฝากน้องๆที่จบมาใหม่ๆ
1.ลองสำรวจตัวเองเราขาดเรื่องอะไรไปบ้าง พยายามหามาเติมเต็ม ความรู้เกือบทุกอย่างอยู่ใน Internet อยากรู้เรื่องอะไรถาม google ,Youtube .
2.ภาษา อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน (ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยการดู นารูโต๊ะ ปิด subtitle แล้วกลับมาดูใหม่ (เปิด sub) ดูไปหลายรอบ สามารถสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้
3.Skill เรื่อง MS Office จำเป็นต่อการทำงาน ต้องสามารถใช้งานได้พอสมควร
4.EQ ,การคิดบวก
5.ความอดทน การวางแผนงาน การแก้ปัญหา การปรึกษา การขอคำแนะนำ
6.การบริหารเวลา
7.เล่นเกมส์ได้ แต่อย่าติดเกมส์ ----> อันนี้แถม
8.นึกถึงอนาคต อย่ารีบแต่งงาน อย่ามีบัตรเครดิตหลายๆใบ ----> อันนี้ก็แถม
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
แก้ไขคำผิดครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชี้แจงครับ
1.เป็นเรื่องจริงครับ
2.ไม่มีความคิดที่จะประจานใครทั้งสิ้นครับ อยากให้เป็นกรณีศึกษามากกว่า
3.สิ่งที่ทำให้น้องไม่ผ่านทดลองงาน คือ น้องไม่พัฒนา ปรับปรุง ในสิ่งที่เราแนะนำ เพราะนั่นเป็นสิ่งจำเป็นต่องานที่ได้รับมอบหมาย
4.ผมยอมรับระบบการสรรหาบุคคลากรของบริษัทผมไม่เข้มข้นพอ รวมถึงผมในถานะผู้สัมภาษณ์คนหนึ่ง
5.มีคำถามว่าต้องอยู่จนกว่างานจะเสร็จ มี OT หรือเปล่า แล้วบอกน้องล่วงหน้าแล้วหรือยัง ว่าต้องทำงานแบบนี้
ตอบ จ่าย OT ตามที่เขียนไปครับ ไม่จำกัดชั่วโมง จ่ายเท่าที่ทำครับ ,ทุกอย่างชี้แจงก่อนเริ่มงานวันแรกครับ
.........................................................................................................
» บทความสร้างเสริมแนวคิด พิชิตปัญหา..."ความเข้าใจผิ ด"
ความเข้าใจผิด...มักเกิดจาก การด่วนสรุปและติดยึดในความ คิดจนไม่สามารถยอมรับความจร ิง(หรือความเห็น)ที่สวนทางก ับความคิดนั้น
- คู่รักมักกล่าวหาอีกฝ่ายว่า นอกใจเพียงเพราะเห็นเขา(หรื อเธอ)หัวร่อต่อกระซิกกับเพศ ตรงข้ามในร้านอาหาร
- เพียงแค่ทักเพื่อนแล้วเขาไม ่ทักตอบแถมมีสีหน้ามึนตึง ก็สรุปแล้วว่าเขาไม่พอใจเรา เราก็เลยมึนตึงกับเขาเป็นกา รตอบโต้
ความคิดกับความจริงนั้นไม่ใ ช่สิ่งเดียวกัน แม้ความคิดสามารถนำเราไปสู่ ความจริง เช่นเดียวกับแผนที่ที่พาเรา ไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่เราก็พบบ่อยมิใช่หรือว่า แผนที่ (โดยเฉพาะที่ทำอย่างหยาบ ๆ และโดยคนที่ไม่รู้จริง) สามารถพาเราไปผิดทิศผิดทางไ ด้
◌◌◌◌◌◌◌◌
Case Study#1 :
บิดาของ “วิทยา” เป็นคนสูบบุหรี่จัดจนเป็นมะ เร็งปอด ระหว่างที่พ่อเข้ารับการรัก ษาตัวที่โรงพยาบาล เขาขอร้องให้พ่อเลิกสูบบุหร ี่ตามคำแนะนำของหมอ พ่ออิดออดแต่ก็ยอมตามในที่ส ุด
เมื่อรักษาครบกำหนด พ่อกลับมาพักฟื้นที่อพาร์ทเ มนท์ที่ลูกเช่าให้ แต่อาการก็ทรุดลงตามลำดับ วันหนึ่งขณะที่มาเยี่ยมพ่อ เขาเห็นก้นบุหรี่หลายอันตกอ ยู่บนระเบียง จึงต่อว่าพ่อ แต่พ่อปฏิเสธ
เขาโมโหมากที่พ่อปากแข็ง จึงใช้คำรุนแรงกับพ่อ หลังจากนั้นไม่นานพ่อได้เสี ยชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน
เมื่อจัดงานศพเสร็จ เขามาเก็บข้าวของของพ่อที่อ พาร์เมนท์ เขาแปลกใจที่พบว่ายังมีก้นบ ุหรี่ที่เพิ่งทิ้งใหม่ ๆ ตกอยู่ที่ระเบียง
ในที่สุดเขาจึงรู้ว่าก้นบุห รี่ที่เห็นในวันนั้นไม่ใช่ข องพ่อ แต่เป็นของห้องข้างบนที่โยน ลงมาและคงโดนลมพัดปลิวมาตกท ี่ระเบียงห้องของพ่อ
เขารู้สึกผิดมากที่ไม่เชื่อ พ่อแถมกล่าวหาพ่อว่าดื้อดึง และปากแข็ง แต่สายไปแล้วที่จะไปขอขมาท่ าน
◌◌◌◌◌◌◌◌
บทวิเคราะห์ :
วิทยาไม่เชื่อพ่อเพราะมั่นใ จในความคิดของตนเอง เมื่อเห็นก้นบุหรี่ที่ระเบี ยงห้องของพ่อ เขาก็สรุปทันทีว่าพ่อไม่ยอม เลิกบุหรี่ เขาไม่ยอมมองมุมอื่น ทั้ง ๆ ที่พ่อยืนกรานว่าไม่ได้สูบบ ุหรี่
ความเชื่อมั่นในความคิดของต นนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่มึน ตึงกับพ่อ จนกลายเป็นตราบาปในใจเขา
รูปการน่าจะเป็นอย่างที่วิท ยาคิด แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไ ม่ หากวิทยาไม่ด่วนสรุป หรือเผื่อใจไว้บ้างว่า ความจริงอาจไม่เป็นอย่างที่ เขาคิด เขาคงไม่กล่าวหาและใช้คำรุน แรงกับพ่อเช่นนั้น นี้คือบทเรียนราคาแพงของเขา
เมื่อเห็นหรือได้ยินอะไรก็ต าม เรามิได้รับรู้เฉย ๆ แต่มักจะมีความคิดหรือข้อสร ุปเกี่ยวกับสิ่งนั้นตามมาด้ วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ยิ่งเป็นเรื่องที่เราถือว่า สำคัญ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องตีความห รือคิดต่อจากสิ่งที่เห็นและ ได้ยิน นี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัญหามักเกิดขึ้นเมื่อเร าเชื่อมั่นในความคิดหรือข้อ สรุปนั้น จนบางครั้งเผลอทึกทักว่าเป็ นความจริง
◌◌◌◌◌◌◌◌
ในทำนองเดียวกัน...ความคิดบ างอย่างก็กลับพาเราเหินห่าง จากความจริง ดังนั้นจึงไม่ควรหลงเชื่อคว ามคิดเสียทีเดียวนัก ควรหัดทักท้วงความคิดบ้าง
อย่าลืมว่าแผนที่ที่ดีที่สุ ดไม่สามารถเป็นตัวแทนของควา มจริงได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงอย่างไรก็ยังมีข้อมูลหรื อรายละเอียดสำคัญที่ขาดหายไ ป
อย่าว่าแต่ความคิดเลย แม้แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาข องเรา ก็ยังเชื่อไม่ได้ร้อยเปอร์เ ซ็นต์ว่าเป็นความจริง หรือไม่สามารถยืนยันได้ว่าต รงกับความเป็นจริงร้อยเปอร์ เซ็นต์
◌◌◌◌◌◌◌◌
Case Study#2 :
ขณะที่อาจารย์ผู้หนึ่งกำลัง บรรยายวิชาอาชญาวิทยา จู่ ๆ ชายพร้อมอาวุธก็บุกเข้ามาใน ห้องบรรยาย พร้อมกับฉกชิงกระเป๋าเอกสาร ของอาจารย์ไป
หลังจากที่โจรวิ่งออกไปแล้ว อาจารย์ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉ ย ถามนักศึกษาซึ่งตกตะลึงทั้ง ชั้น ว่าโจรผู้นั้นมีลักษณะอย่าง ไร
ปรากฏว่าคำตอบที่ได้แตกต่าง กันไปคนละทิศละทาง โจรมีทั้งรูปร่างผอมและอ้วน ทั้งใส่และไม่ใส่แว่นตา มีทั้งผมดำและผมบลอนด์ มีทั้งสูง ๕ ฟุตครึ่งไปจนถึง ๖ ฟุตครึ่ง มีทั้งใส่เสื้อเชิร์ต-กางเก งยีนส์ และ สวมเสื้อหนัง-กางเกงสีน้ำตา ล
เฟรด อินเบา (Fred Inbau) คืออาจารย์ผู้นี้
เขาต้องการชี้ให้เห็นว่าคำใ ห้การของประจักษ์พยานนั้นไม ่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็เพราะเราเห็นควา มจริงแต่บางแง่ ส่วนที่เหลือหากไม่มองข้ามไ ปก็เติมแต่งเอาเอง
ความทรงจำในสมองของเราจึงมี ทั้งความจริงและความคิดปรุง แต่งปะปนกัน ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้ง ใจ ยิ่งไปกว่านั้นความทรงจำของ เราแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และง่ายที่คนอื่นจะมาต่อเติ มหรือแทรกแซงได้ด้วย
◌◌◌◌◌◌◌◌
ทั้งหมดนี้...ชี้ว่า “ความจริง”ในสายตาหรือการรั บรู้ของเรานั้น มักจะมีความคิดเจือปนหรือปร ุงแต่งไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงมักจะไม่ตรงกับคว ามเป็นจริง
ที่ควรตั้งเป็นข้อสังเกตก็ค ือตัวอย่างที่ยกมานี้เป็นเห ตุการณ์กลาง ๆ ที่ไม่เกี่ยวพันกับอคติของผ ู้สังเกต หากเป็นเรื่องที่ผู้สังเกตม ีอคติหรือความคิดล่วงหน้าอย ู่ก่อนแล้ว ก็จะเห็นความจริงคลาดเคลื่อ นยิ่งไปกว่านี้
เช่น...ถ้าชอบใคร(ฉันทาคติ) ก็เห็นเขาดีไปหมด มองไม่เห็นด้านร้ายของเขาเล ย หรือถ้าโกรธใคร (โทสาคติ)ก็เห็นแต่ด้านร้าย ของเขา มองไม่เห็นความดีของเขาเลย
ด้วยเหตุที่เรามีข้อจำกัดใน การรับรู้ จึงไม่ควรยึดติดถือมั่นว่าก ารรับรู้ของเราถูกต้อง ส่วนของคนอื่นนั้นผิด
ในทำนองเดียวกันความคิดหรือ ข้อสรุปใด ๆ ก็ไม่ควรด่วนสรุปหรือมั่นใจ ว่าถูกต้อง ควรเผื่อใจไว้เสมอว่าเรายัง เห็นความจริงไม่ครบถ้วนและส ิ่งที่เราคิดนั้นอาจผิดก็ได ้
จริงอยู่เราคงทำอะไรไม่ได้เ ลยหากไม่มีข้อสรุปบางอย่างห รือเชื่อว่าบางสิ่งบางอย่าง เป็นความจริง แต่ระหว่างที่เราทำไปตามควา มคิดหรือความเชื่อนั้น ก็ควรเปิดใจรับรู้สิ่งที่แต กต่างไปจากความคิดและความเช ื่อนั้นบ้าง
◌◌◌◌◌◌◌◌
ในพุทธศาสนามีหลักธรรมข้อหน ึ่งที่เกื้อกูลต่อการพัฒนาป ัญญา ได้แก่
“สัจจานุรักษ์”
คือ...การพร้อมรับฟังความคิ ดความเห็นของผู้อื่นด้วยใจเ ป็นกลาง ไม่ด่วนตัดสินว่าเป็นเท็จ และไม่ยึดติดหรือยืนกรานว่า สิ่งที่ตนรู้หรือคิดเห็นเท่ านั้นถูกต้องเป็นจริง
สัจจานุรักษ์...หากใช้คู่กั บกาลามสูตรก็จะช่วยให้เราไม ่ตกเป็นทาสของความคิด พร้อมเปิดใจกว้างเพื่อเข้าถ ึงความจริงให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะข้อที่พระพุทธองค์ต รัสว่า “อย่าปลงใจเชื่อเพราะตรรกะ… เพราะการอนุมาน….เพราะเข้าไ ด้กับทฤษฎีที่พินิจแล้ว…เพร าะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็ นไปได้ รวมทั้งอย่าปลงใจเชื่อด้วยก ารคิดตรองตามแนวเหตุผล”
ถ้าเราไม่ด่วนสรุปหรือหลงเช ื่อความคิดของตน แม้จะดูมีเหตุผลเพียงใด เราจะทะเลาะวิวาทหรือทำร้าย กันน้อยลง แม้กระทั่งกับคนที่เรารักหร ือรักเรา
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : พระไพศาล วิสาโล | คอลัมน์ ชวนสังคมคิด
ความเข้าใจผิด...มักเกิดจาก
- คู่รักมักกล่าวหาอีกฝ่ายว่า
- เพียงแค่ทักเพื่อนแล้วเขาไม
ความคิดกับความจริงนั้นไม่ใ
◌◌◌◌◌◌◌◌
Case Study#1 :
บิดาของ “วิทยา” เป็นคนสูบบุหรี่จัดจนเป็นมะ
เมื่อรักษาครบกำหนด พ่อกลับมาพักฟื้นที่อพาร์ทเ
เขาโมโหมากที่พ่อปากแข็ง จึงใช้คำรุนแรงกับพ่อ หลังจากนั้นไม่นานพ่อได้เสี
เมื่อจัดงานศพเสร็จ เขามาเก็บข้าวของของพ่อที่อ
ในที่สุดเขาจึงรู้ว่าก้นบุห
เขารู้สึกผิดมากที่ไม่เชื่อ
◌◌◌◌◌◌◌◌
บทวิเคราะห์ :
วิทยาไม่เชื่อพ่อเพราะมั่นใ
ความเชื่อมั่นในความคิดของต
รูปการน่าจะเป็นอย่างที่วิท
เมื่อเห็นหรือได้ยินอะไรก็ต
ยิ่งเป็นเรื่องที่เราถือว่า
◌◌◌◌◌◌◌◌
ในทำนองเดียวกัน...ความคิดบ
อย่าลืมว่าแผนที่ที่ดีที่สุ
อย่าว่าแต่ความคิดเลย แม้แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาข
◌◌◌◌◌◌◌◌
Case Study#2 :
ขณะที่อาจารย์ผู้หนึ่งกำลัง
หลังจากที่โจรวิ่งออกไปแล้ว
ปรากฏว่าคำตอบที่ได้แตกต่าง
เฟรด อินเบา (Fred Inbau) คืออาจารย์ผู้นี้
เขาต้องการชี้ให้เห็นว่าคำใ
ความทรงจำในสมองของเราจึงมี
◌◌◌◌◌◌◌◌
ทั้งหมดนี้...ชี้ว่า “ความจริง”ในสายตาหรือการรั
ที่ควรตั้งเป็นข้อสังเกตก็ค
เช่น...ถ้าชอบใคร(ฉันทาคติ)
ด้วยเหตุที่เรามีข้อจำกัดใน
ในทำนองเดียวกันความคิดหรือ
จริงอยู่เราคงทำอะไรไม่ได้เ
◌◌◌◌◌◌◌◌
ในพุทธศาสนามีหลักธรรมข้อหน
“สัจจานุรักษ์”
คือ...การพร้อมรับฟังความคิ
สัจจานุรักษ์...หากใช้คู่กั
โดยเฉพาะข้อที่พระพุทธองค์ต
ถ้าเราไม่ด่วนสรุปหรือหลงเช
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : พระไพศาล วิสาโล | คอลัมน์ ชวนสังคมคิด
..........................................................................................................
Sahapol Nakvanich 55555
.....................................................................................................
สิ่งที่นักทวงคืนชอบท่องเป็
แต่ความเป็นจริงคือระบบสัมป
นอกจากนั้นแล้วด้วยระบบสัมป
เอ๊ะ ชาวออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย เค้าอยากทวงคืนปตท.เหมือนเร
........................................................................................................
["กรณีจัสมาติ" : แผลใจที่อเมริกาฝากไว้ให้แก ่ชาวนาไทย ]
.. ความขัดแย้งทางการค้าและอื่ นๆ ที่เกี่ยวกับกรณีข้าวระหว่า งไทยและสหรัฐ อเมริกา มีอยู่หลายประเด็น ครอบคลุมเกี่ยวกับประเด็นกา รเปิดตลาดข้าว การใช้เครื่องหมายการค้าและ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนประเด็นเกี่ยวกับสินค ้าเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น
.. เมื่อปี 2541 คนไทยต้องตกตะลึงกันทั่วหน้ า เมื่อรู้ว่า “จัสมาติ” ไม่ได้หมายถึง “ข้าวหอมมะลิของไทย” แต่หมายถึงข้าวสายพันธุ์อื่นที่ ปลูกในรัฐเท็กซัส โดยบริษัทไรซ์เทคแห่งสหรัฐอ เมริกาได้จดชื่อดังกล่าวเป็ นเครื่องหมายทางการค้า นำมาซึ่งความเคลื่อนไหวของอ งค์กรความหลากหลายทางชีวภาพ และภูมิปัญญาไทย หรือไบโอไทย ที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด
.. โดยระบุว่า การใช้ชื่อเครื่องหมายการค้ าว่า จัสมาติ เป็นความจงใจที่ต้องการหลอก ลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ข้าวพันธุ์ดังกล่าวเป็นข้าว หอมมะลิ (Jasmine) ซึ่งประเทศไทยมีชื่อเสียงโด ่งดังทั่วโลกว่า ข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวพันธ ุ์ดีที่สุดในโลก และครองตลชาดสหรัฐอเมริกาได ้ถึงร้อยละ 75 ของข้าวที่นำเข้าทั้งหมด
.. จนกลายเป็นปัญหาทางการค้าที ่กลายเป็นประเด็นสาธารณะเมื ่อปี 2542 คือความขัดแย้งในกรณีที่สหร ัฐอนุญาตให้อุตสาหกรรมข้าวภ ายในประเทศของตน สามารถขายข้าวเมล็ดยาวพันธุ ์ใดก็ตามได้ภายใต้ชื่อ “จัสมินไรซ์” ทั้งนี้โดยสหรัฐอ้างว่า “จัสมินไรซ์” เป็นชื่อ “ทั่วไป”(Generic name) ดังนั้นบริษัทไรซ์เทคของสหร ัฐจึงได้จดเครื่องหมายการค้ า “จัสมาติ” (JASMATI) แล้วแอบอ้างว่าเป็น “ข้าวหอมมะลิที่ปลูกที่เท็ก ซัส”
.. กรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอ ใจให้กับประชาชนไทยทุกระดับ ชาวนาไทยประท้วงรัฐบาลสหรัฐ ในเรื่องดังกล่าว และต่อมารัฐบาลไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ยื่นฟ้ องต่อกรรมาธิการการค้าของสห รัฐ แต่กรรมาธิการชุดดังกล่าวก็ ปฏิเสธที่จะรับคำฟ้องโดยอ้า งว่าการกระทำดังกล่าว ไม่ผิดกฎหมายของสหรัฐ เมื่อปี 2543 สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ได้จัดการประชุมทางไกล (VDO Conference) ขึ้นที่กรุงเทพเพื่อหาทางลด ข้อขัดแย้งและความไม่พอใจขอ งประชาชน ไทย โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯแนะ นำให้ฝ่ายไทยใช้กฎหมายเครื่ องหมายการค้า (Trade Mark) เพื่อปกป้องข้าวหอมมะลิของไ ทย
.. อนึ่ง ย้อนไปเหตุการณ์ที่เคยเกิดข ึ้นเมื่อปี 2510 และต่อมาในปี 2540 มีการนำพันธุ์ข้าวซึ่งคาดว่ าจะเป็นพันธุ์ข้าวเดลล่า (Della) ของอิตาลีหรือไม่ก็ข้าวสายพ ันธุ์ RT ของสหรัฐเองไปจดเครื่องหมาย การค้า "จัสมาติ" แล้วอ้างว่าเป็น "ข้าวหอมมะลิที่ปลูกในเท็กซ ัส" และก่อนหน้านี้ไม่นานในปี 2545 กลุ่มนักวิจัยของสหรัฐที่นำ โดยสถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติ ที่อาร์คันซอส์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยอาร์คันซ อส์ และมหาวิทยาลัยฟลอริดา จัดทำโครงการ "Step Wise Program" เพื่อพัฒนาข้าวหอมมะลิให้ปล ูกได้ในสหรัฐ จนเกิดการประท้วงของชาวนาไท ยเพราะเกรงว่าสหรัฐจะนำข้าว ที่ปรับปรุงขึ้นไปจดสิทธิบั ตร ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกข้า วของไทย
.. ทั้งนี้กรณี” จัสมาติ” ซึ่งยังไม่ทันจางไปจากความท รงจำ ที่ในปี 2544 ความขัดแย้งเกี่ยวกับการนำพ ันธุกรรมข้าวหอมมะลิของไทยไ ปใช้อย่างไม่เหมาะสม ก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสถาบันวิจัยข้าวของสหร ัฐที่เดล บัมเปอร์ รัฐอาร์คันซอส์ ร่วมกับสถาบันวิจัยอีก 2 แห่ง คือศูนย์วิจัยและการศึกษาเอ ฟเวอร์เกลด มหาวิทยาลัยฟลอริดา และศูนย์วิจัยและส่งเสริมพั นธุ์ข้าว มหาวิทยาลัยอาร์คันซอส์ ได้เริ่มต้นโครงการปรับปรุง ข้าวหอมมะลิเพื่อปลูกในสหรั ฐ (Stepwise Program for Improvement of Jasmine Rice for the United States) ขึ้น
.. ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงพันธุ์ ข้าวหอมมะลิสำหรับปลูกในสหร ัฐและแข่งขันกับข้าว ไทยโดยตรง นักวิจัยชาวสหรัฐอ้างว่าได้ พันธุกรรมข้าวหอมมะลิไปจากส ถาบันวิจัยข้าวนานา ชาติ แต่กลับไม่ปรากฏการลงนามในส ัญญาการเคลื่อนย้ายพันธุกรร ม (MTA-Material Transfer Agreement) แต่อย่างใด เป็นการแสดงเจตนาที่จะจดสิท ธิบัตรข้าวที่ปรับปรุงจากข้ าวหอมมะลิ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่อา จยอมรับได้ตามกติการะหว่างป ระเทศ และการวิจัยดังกล่าวอาจเป็น การละเมิดต่อกฎหมายคุ้มครอง พันธุ์พืช พ.ศ.2542 ของไทยได้เช่นกันหากพบว่ามี การนำเอาข้าวหอมมะลิจากประเ ทศไทยไปใช้ประโยชน์ โดยไม่ดำเนินตามขั้นตอนที่ถ ูกต้อง
.. ที่สำคัญปัญหานี้ได้สร้างคว ามไม่พอใจให้กับเกษตรกรและป ระชาชนไทยโดยทั่วไป มีการเดินขบวนของชาวนาที่ทุ ่งกุลาร้องไห้กว่า 2,000 คน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2544 และกว่า 1,500 คนที่หน้าสถานทูตสหรัฐเมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน
..กรณีของข้าวหอมมะลิไทยนั้ นได้มีการต่อสู้กับข้าวของส หรัฐฯ มานาน นับตั้งแต่ ศาสตราจารย์คริส เดเรน แห่งมหาวิทยาลัยมลรัฐฟลอริด ้า (University of Florida) ได้ปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะ ลิของไทยมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2538 และสามารถผลิตข้าวหอมมะลิกล ายพันธุ์ได้สำเร็จ แต่ได้รับการทักท้วงโดยรัฐบ าลไทยจัดจ้างทนายความคัดค้า นการจดสิทธิบัตรข้าวหอมมะลิ กลายพันธุ์ดังกล่าวได้สำเร็ จ
.. จนต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ได้มี บริษัท ไรซ์เทค ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ทำการจดทะเบียนข้าวสายพันธุ ์ที่ปลูกในรัฐเท็กซัสว่า “จัสมาติ” เป็นเครื่องหมายทางการค้า ซึ่งเป็นความจงใจที่ต้องการ หลอกลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจว ่า ข้าวพันธุ์ดังกล่าวเป็น ข้าวหอมมะลิ (Jasmine) หรือ “ข้าวหอมมะลิของไทย” ซึ่งรัฐบาลหาทางออกโดยหันไป จดชื่อเครื่องหมายทางการค้า “Thai Hom Mali Rice” แทน แต่ความพยายามของสหรัฐฯ มิได้หยุดเพียงเท่านั้น ในปี 2549 มหาวิทยาลัยแห่งรัฐหลุยส์เซ ียน่าได้พัฒนาข้าวหอมพันธุ์ ใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จเรียกว่ า “Jazzman” และอ้างว่ามีคุณภาพใกล้เคีย งกับข้าวหอมมะลิไทย
.. ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าพ่อค ้าข้าวสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความต้องการข้าว หอมมะลิที่เพิ่มขึ้นเป็นลำด ับ และต้องการแย่งชิงสัดส่วนตล าดข้าวของไทยในสหรัฐฯ จึงได้ผลักดันและนำเสนอข้าว อเมริกันจัสมินเข้ามาแข่งกั บข้าวหอมมะลิไทย ปัจจุบัน พบว่า มีข้าวหอมมะลิอเมริกันเลียน แบบข้าวหอมมะลิไทยวางจำหน่า ยในตลาดซึ่งเป็นเขตอาณาดูแล ของสคต.ชิคาโก จำนวน 6 แบรนด์ คือ
--> 1. Thai Orchid: บรรจุ/ จำหน่ายโดยบริษัท Producer Rice Mill ในรัฐอาร์คันซอส์เน้นตลาดธุรกิจบริ การอาหาร(Foodservice) เป็นหลัก
--> 2. Louisiana Jasmine: เป็นข้าวพันธุ์ Jazzman ปลูกโดย Louisiana Rice Mill
--> 3. Jazzmen Rice: จำหน่ายโดย Jazzmen Rice, LLC ในรัฐหลุยส์เซียน่า โดยซื้อข้าวจาก Louisiana Rice Mills มาบรรจุและจำหน่ายภายใต้แบร นด์ Jazzmen Rice
--> 4. Cajun Country : บริษัท Falcon Rice Mill เป็นบรรจุ/จัดจำหน่าย โดยซื้อข้าวจาก Jimmy Hoppe Farm ซึ่งนำพันธุ์ข้าว Jazzman มาปลูกขาย
--> 5. Jasmati: บรรจุ/จำหน่ายโดย Ricetec. Inc. ในรัฐเท็กซัส
--> 6. Della: เป็นข้าวจัสมินของบริษัท Specialty Rice, Inc. ในรัฐอาร์คันซอส์
.. ข้าวอเมริกันจัสมิน 6 แบรนด์ ที่กล่าวข้างต้นถูกนำเข้ามา ขายแข่งแย่งชิงลูกค้าข้าวหอ มมะลิไทย โดยเฉพาะ 3 แบรนด์แรก คือ Louisiana Jasmine, Jazzmen Rice ซึ่งเป็นข้าวพันแจ้สแมนของร ัฐหลุยส์เซียน่า และ แบรนด์ Thai Orchid ซึ่งเป็นข้าวอเมริกันจัสมิน มีจุดประสงค์ที่จะเข้ามาชนก ับข้าวหอมมะลิไทยโดยแท้จริง โดยวางกลยุทธ์การตลาดให้สาม ารถแข่งขันกับข้าวหอมมะลิไท ยได้ ดังนี้..
--> 1. ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บร ิโภคทราบว่า เป็นข้าวจัสมิน 100% (100% Jasmine Rice) ไม่ผสมปนข้าวคุณภาพต่ำ
--> 2. ข้าวบรรจุถุงขนาดน้ำหนัก 25 ปอนด์ ให้มีขนาดบรรจุเท่ากับข้าวห อมมะลิไทยที่ได้รับความนิยม ยกเว้น แบรนด์ Cajun Country, Jasmati และ Della ซึ่งมีขนาดบรรจุประมาณ 1-2 ปอนด์ ซึ่งมุ่งผู้บริโภค Mainstream เป็นสำคัญ
--> 3. ข้าวอเมริกันจัสมินทั้ง 3 แบรนด์เข้าวางจำหน่ายในร้าน ชำ/ ซุปเปอร์มาร์เก็ตเอเซียซึ่งเ ป็นช่องทางจำหน่ายหลักของข้ าวหอมมะลิไทย อีกทั้งนำไปวางขายติดกับข้า วหอมมะลิไทย เพื่อแย่งชิงลูกค้าข้าวหอมม ะลิไทย
--> 4. กำหนดราคาขายปลีกต่ำกว่าของ หอมมะลิไทยเล็กน้อยหรือประม าณ 1.00-1.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อถุง 25 ปอนด์ ซึ่งจะดึงดูดซื้อที่สนใจซื้ อข้าวในราคาต่ำ เช่น ข้าว Louisiana Jasmine ขายในราคาถุงละ 20.99 เหรียญสหรัฐฯ และ ข้าว Jazzmen Rice ขายปลีกถุงละ 20.55 หรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยขายป ลีกถุงละ 21.50 - 23.50 เหรียญสหรัฐฯ
--> 5. ข้าวอเมริกันเลียนแบบใช้ชื่ อเป็นไทยเพื่อล่อลวงผู้บริโ ภคเข้าใจว่าเป็นข้าวหอมมะลิ เช่น บริษัท Producer Rice Mill ใช้ชื่อแบรนด์ "Thai Orchid" และยังมีชื่อภาษาไทย "ข้าวหอมมะลิ" ตอกย้ำว่าเป็นข้าวของไทย ทั้ง ๆ ที่เป็นข้าวอเมริกัน หรือ ข้าวแบรนด์ Louisiana Jasmine พิมพ์ชื่อภาษาไทย "ข้าวหอมมะลิ" ลงบนถุงข้าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ข้าวจัสมินสหรัฐฯ มีเจตนาวางกลลวงผู้บริโภคเข ้าใจว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทย
--> 6. บริษัทค้าข้าวอเมริกันจัสมิ นจัดจ้างตัวแทนการขาย (Sales Agent) และ ตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพื่อนำข้าวไปขายต่อให้แก่ร ้านค้าปลีก
..นักวิจัยข้าวของสหรัฐฯ พยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาพ ันธุ์ข้าวของสหรัฐฯ ให้มีคุณภาพได้ทัดเทียมกับข ้าวหอมมะลิไทยมาเป็นลำดับ นับตั้งแต่ข้าวพันธุ์ Jasmine85, Jasmati, Jazzman, JES และ Jazzman-2 และคาดว่า จะมีข้าวหอมอเมริกันพันธุ์ใ หม่ออกมานำเสนอต่อตลาดอีกใน อนาคต เพื่อเข้าแย่งชิงสัดส่วนตลา ดข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หนทางตลาดข้าวหอมมะลิไทยจะไ ม่ราบรื่นดังเช่นที่ผ่านมา
.. ข้าวหอมมะลิไทยจะเสียเปรียบ ข้าวอเมริกันจัสมินซึ่งประก าศว่าเป็นข้าว 100% ไม่ผสมอีกทั้ง เป็นการเปิดโอกาสให้ข้าวคู่ แข่งขันโจมตีว่า ข้าวหอมมะลิไทยที่จำหน่ายใน สหรัฐฯ มีคุณภาพต่ำเนื่องจากมีการผ สมข้าวเม็ดยาว และจะเป็นผลให้ข้าวหอมมะลิไ ทยจสูญเสียตลาดให้ข้าวอเมริ กันจัสมินนอกจากนั้นแล้ว ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า จุดขายสำคัญของข้าวหอมมะลิไ ทย คือ การดำรงความบริสุทธิ์ หรือ มีส่วนผสมน้อยที่สุด หรือ หมายความว่า ข้าวหอมมะลิจะต้องเป็นหนึ่ง เดียว ไม่มีหลายระดับ
.. ท้ายนี้ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถีห รือไบโอไทย ได้เคยกล่าวไว้ว่า "ควรตรวจสอบพันธุกรรมของพัน ธุ์ข้าวแจสแมนด้วย โดยอย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าเ ป็นพันธุ์ข้าวที่พัฒนาจากพั นธุ์ข้าวหอมของจีน เนื่องจากในระยะยาวหากข้าวห อมพันธุ์ใหม่นี้ ถูกนำไปจดสิทธิบัตร และพบว่าเกี่ยวข้องกับข้าวห อมมะลิของไทยอาจทำให้เกิดปั ญหาเกี่ยวกับการส่งออกข้าวห อมมะลิ และปัญหาอื่นๆที่กระทบสิทธิ ในพันธุกรรมของชาวนาไทยได้" ..
**เพิ่มเติม..
www.senate.go.th/senate/ report_detail.php?report_id =4
และ : www.ftawatch.org/all/ article/17961 ..
อรุณสวัสดิ์ครับผม .. @//กอล์ฟ .. : )
.. ความขัดแย้งทางการค้าและอื่
.. เมื่อปี 2541 คนไทยต้องตกตะลึงกันทั่วหน้
.. โดยระบุว่า การใช้ชื่อเครื่องหมายการค้
.. จนกลายเป็นปัญหาทางการค้าที
.. กรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอ
.. อนึ่ง ย้อนไปเหตุการณ์ที่เคยเกิดข
.. ทั้งนี้กรณี” จัสมาติ” ซึ่งยังไม่ทันจางไปจากความท
.. ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงพันธุ์
.. ที่สำคัญปัญหานี้ได้สร้างคว
..กรณีของข้าวหอมมะลิไทยนั้
.. จนต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ได้มี บริษัท ไรซ์เทค ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ทำการจดทะเบียนข้าวสายพันธุ
.. ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าพ่อค
--> 1. Thai Orchid: บรรจุ/
--> 2. Louisiana Jasmine: เป็นข้าวพันธุ์ Jazzman ปลูกโดย Louisiana Rice Mill
--> 3. Jazzmen Rice: จำหน่ายโดย Jazzmen Rice, LLC ในรัฐหลุยส์เซียน่า โดยซื้อข้าวจาก Louisiana Rice Mills มาบรรจุและจำหน่ายภายใต้แบร
--> 4. Cajun Country : บริษัท Falcon Rice Mill เป็นบรรจุ/จัดจำหน่าย โดยซื้อข้าวจาก Jimmy Hoppe Farm ซึ่งนำพันธุ์ข้าว Jazzman มาปลูกขาย
--> 5. Jasmati: บรรจุ/จำหน่ายโดย Ricetec. Inc. ในรัฐเท็กซัส
--> 6. Della: เป็นข้าวจัสมินของบริษัท Specialty Rice, Inc. ในรัฐอาร์คันซอส์
.. ข้าวอเมริกันจัสมิน 6 แบรนด์ ที่กล่าวข้างต้นถูกนำเข้ามา
--> 1. ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บร
--> 2. ข้าวบรรจุถุงขนาดน้ำหนัก 25 ปอนด์ ให้มีขนาดบรรจุเท่ากับข้าวห
--> 3. ข้าวอเมริกันจัสมินทั้ง 3 แบรนด์เข้าวางจำหน่ายในร้าน
--> 4. กำหนดราคาขายปลีกต่ำกว่าของ
--> 5. ข้าวอเมริกันเลียนแบบใช้ชื่
--> 6. บริษัทค้าข้าวอเมริกันจัสมิ
..นักวิจัยข้าวของสหรัฐฯ พยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาพ
.. ข้าวหอมมะลิไทยจะเสียเปรียบ
.. ท้ายนี้ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถีห
**เพิ่มเติม..
www.senate.go.th/senate/
และ : www.ftawatch.org/all/
อรุณสวัสดิ์ครับผม .. @//กอล์ฟ .. : )
.................................................................................................................
ลูกเทนนิสมีประโยชน์มากกว่า
..............................................................................................................
............................................................................................................
เหลือบเห็นอันนี้เข้าพอดี ความคืบหน้าล่าสุด ปางน้ำฟ้าฟ้องอาจารย์เจิมศั
.............................................................................................................
นายกฯไทยไปประชุมและเชื่อมส ัมพันธ์กับประเทศมองโกเลีย มีข่าวในสื่อทั่วไปตามปกติ
แต่ฉุกใจเมื่ออ่านโพสต์ ทูเดย์ ในคอลัมน์ 7 (ฉบับวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2556 หน้า 1) กล่าวถึงมองโกเลียว่า“อยู่แ ถบเทือกเขาอัลไต” ซึ่งผมไม่รู้มาก่อน
เลยย้อนคิดไปเมื่อ พ.ศ. 2529 มองโกเลียรวมอยู่ในสหภาพโซเ วียต(ยังไม่แตกอย่างทุกวันน ี้) สำนักข่าวปราฟดายุคนั้นชักช วนท่านพี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กับผมไปเล่าเรื่อง 200 ปี สุนทรภู่ ที่มอสโก
เมื่อถึงโรงแรมในมอสโก เจ้าหน้าที่ปราฟดาถามว่าอยา กไปเที่ยวที่ไหนในโซเวียต?
ผมตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่าอ ยากไปเขาอัลไต
เขาทำท่างงมาก แล้วย้อนถามว่าจะไปทำไม?
ผมบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติ อยากถ่ายรูปคู่กับญาติไปฝาก คนไทยที่สนใจประวัติศาสตร์ถ ิ่นกำเนิดคนไทย ว่าหน้าตาท่าทางเชื้อสายบรร พชนคนอัลไตเป็นอย่างนี้ๆ จะได้ชื่นอกชื่นใจว่ายังมีญ าติอยู่อัลไต
แล้วก็อธิบายให้เจ้าหน้าที่ ปราฟดารู้ต้นสายปลายเหตุ ว่าตำราประวัติศาสตร์แห่งชา ติของไทย บอกว่าบรรพชนคนไทยมีแหล่งกำ เนิดบริเวณเทือกเขาอัลไต แล้วถูกรุกรานต้องอพยพถอนรา กถอนโคนลงทางทิศใต้ไปตั้งอา ณาจักรน่านเจ้า
แต่ถูกลูกหลานเจงกิสข่านรุก รานอีก เลยหนีลงไปถึงดินแดนของมอญแ ละขอม ยอมเป็นขี้ข้าขอม กระทั่งปลดแอกไล่ขอมออกไป แล้วยึดดินแดนขอม จนกระทั่งตั้งตนเป็นอิสระ มีราชธานีแห่งแรกชื่อกรุงสุ โขทัย
เจ้าหน้าที่ปราฟดาได้ยินอย่ างนั้นก็หัวเราะอย่างฉงนสนเ ท่ห์มากๆ แล้วบอกว่าอัลไตเป็นภูเขาน้ ำแข็ง ไม่มีชุมชนบ้านเมือง ทางโซเวียตใช้เป็นที่ตั้งสถ านีเรดาร์ไว้ติดตามความเคลื ่อนไหวทางทหารของสหรัฐ สรุปว่าจัดให้ไปอัลไตไม่ได้
ผมไม่ได้ติดใจอะไร เพราะพูดขึ้นมาเล่นๆสนุกๆแค ่นั้นว่าอยากไปเยี่ยมญาติที ่ภูเขาอัลไต ไม่คิดจะไปได้จริง
เพราะตอนนั้นก็รู้อยู่เต็มอ กว่าประวัติศาสตร์แห่งชาติข องไทย เป็นนิยายแห่งชาติที่ยังมีอ ิทธิพลต่อวิธีคิดไทยบางพวกจ นบัดนี้ โดยเฉพาะในหมู่ครูบาอาจารย์ จำนวนหนึ่งกับนายทหารจำนวนม ากในกองทัพ
แต่ที่น่ากลัวก็คือขณะนี้ยั งมีอิทธิพลต่อความคิดของนัก วิชาการทางประวัติศาสตร์โบร าณคดีแห่งชาติทั้งหลายในกระ ทรวงวัฒนธรรม
แม้ไม่พูดถึงเทือกเขาอัลไตว ่าเป็นถิ่นกำเนิดของคนไทยเห มือนก่อน แต่ยังยึดมั่นผูกพันว่าคนไท ยเป็นเชื้อชาติเผ่าพันธุ์บร ิสุทธิ์ มีกำเนิดที่ใดที่หนึ่ง แล้วอพยพถอนรากถอนโคนมาอยู่ ในไทย
ดูได้จากการจัดแสดงและคำอธิ บายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยังรักษาทฤษฎีอพยพของคนไทยจ ากที่ต่างๆไม่ยอมเลิกรา ทั้งๆโลกนี้ไม่มีมนุษย์คนไห นเชื่อถือแนวคิดอย่างนี้
เว้นเสียแต่มนุษย์ต่างดาว
โบราณศิลปวัตถุหายจากพิพิธภ ัณฑสถานแห่งชาติ ถือเป็นเรื่องปกติที่มีสม่ำ เสมอแต่ปิดบังซ่อนเร้นมาตลอ ด เท่าที่รู้ก็นานราวครึ่งศตว รรษ
แต่น่าสะพรึงกลัวและสยองขวั ญ ถ้าความรู้หายจากพิพิธภัณฑส ถานแห่งชาติ โดยที่รัฐบาลไม่ได้ใส่ใจ เพราะมุ่งรถไฟความเร็วสูง ขณะที่สังคมวัฒนธรรมความรู้ ช้าและตกต่ำ
แต่ฉุกใจเมื่ออ่านโพสต์ ทูเดย์ ในคอลัมน์ 7 (ฉบับวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2556 หน้า 1) กล่าวถึงมองโกเลียว่า“อยู่แ
เลยย้อนคิดไปเมื่อ พ.ศ. 2529 มองโกเลียรวมอยู่ในสหภาพโซเ
เมื่อถึงโรงแรมในมอสโก เจ้าหน้าที่ปราฟดาถามว่าอยา
ผมตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่าอ
เขาทำท่างงมาก แล้วย้อนถามว่าจะไปทำไม?
ผมบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติ อยากถ่ายรูปคู่กับญาติไปฝาก
แล้วก็อธิบายให้เจ้าหน้าที่
แต่ถูกลูกหลานเจงกิสข่านรุก
เจ้าหน้าที่ปราฟดาได้ยินอย่
ผมไม่ได้ติดใจอะไร เพราะพูดขึ้นมาเล่นๆสนุกๆแค
เพราะตอนนั้นก็รู้อยู่เต็มอ
แต่ที่น่ากลัวก็คือขณะนี้ยั
แม้ไม่พูดถึงเทือกเขาอัลไตว
ดูได้จากการจัดแสดงและคำอธิ
เว้นเสียแต่มนุษย์ต่างดาว
โบราณศิลปวัตถุหายจากพิพิธภ
แต่น่าสะพรึงกลัวและสยองขวั
.........................................................................................................
"รัฐบาลใหม่ที่ขึ้นมามีอำนา
"หลังจากนั้น อะไรเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดแร
ที่มา : มติชน 25 เมษายน 2553
................................................................................................................
http://www.cookiecoffee.com/diary/55446/like-facebook-donate-truth-whale-death-veterinarian
ทุกคนกด Like บริจาคแต่ผมไม่เคยได้เงิน : จากหมอปลาวาฬ
ฝาก Share แต่มีภาพศพปลาวาฬ, ใครไม่อยากดู ไม่อยากรับรู้ก็ข้ามไป…
เมื่อวานผมมีนัดกับชาว Blog ท่านนึง, เป็นสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านทะเล
เรานัดกันที่ Starbucks @ Bangkok Mediplex เอกมัย, โดยตัวเค้าเพิ่งกลับมาจากการผ่าศพวาฬสองตัวที่มาเกยตื้น ณ เกาะช้างเมื่อเดือน Apr 2013 ที่ผ่านมา และสิ่งนึงที่เค้าเล่าให้ผมฟังก็คือ…
มี Facebook Fan Page หลายที่เอาภาพปลาวาฬไปหากินด้วยการชวนกด Like, อ้างว่าจะเอาเงินมาบริจาค
แต่ตัวเค้าซึ่งเป็นสัตวแพทย์ดูแล Case นี้ ไม่เคยได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว…
เรื่อง Facebook หลอกให้กด Like เพื่อปั๊มยอด Fan เพื่อจะได้เอาจำนวน Like เยอะๆ ไปขายนั้น, ผมว่าใครๆ ก็น่าจะเคยได้ยิน แต่อาจสงสัยกันว่ามันมีวิธีหากินแบบนี้จริงๆ หรือ ?
บางทีก็เป็นภาพศพเด็กบ้างหรือภาพทหารที่ตายในภารกิจภาคใต้บ้าง
เป็นภาพการฆ่าและทรมาณสัตว์บ้าง
หลังๆ เห็นเอาภาพในหลวงมาเขียนสั่งให้กด Like เพื่อแสดงความจงรักภักดีก็มี
แต่นี่เป็นครั้งแรกครับที่ผมได้ยินคำยืนยันจากปากสัตวแพทย์ที่ดูแลวาฬเกยตื้นสองตัวนี้เป็นเวลา 43 วันก่อนจะสิ้นใจ
ว่ามีคนกด Like ภาพจำนวนมหาศาลแต่ไม่มีเงินบริจาคมาถึงพวกเค้าเลยแม้แต่บาทเดียว…
เค้าเล่าให้ผมฟังเรื่อง Case ของปลาวาฬสองตัวนี้, มีตัวหนึ่งถูกตั้งชื่อเล่นว่า “Peanut”
เพราะว่ามันกินข้าวไม่ได้ และผอมมากจนทั้งตัวเหลือแค่หัวโตๆ กับตรงหาง, ส่วนตรงกลางคอดกิ่ว
เหมือนกับถั่วลิสง…
ทีมแพทย์ต้องเกี่ยวตัวมันเอาไว้ด้วยชูชีพ เพื่อไม่ให้มันจม เพราะว่ามันไม่มีแม้แต่แรงจะลอยตัวเอง
[วาฬไม่ใช่ปลาแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จึงต้องขึ้นลงเหนือผิวน้ำเพื่อรับอากาศหายใจ]
วันสุดท้ายก่อน Peanut จะเสียชีวิต, ทีมสัตวแพทย์ต้องลอยตัวอยู่ในบ่อลึกหลายเมตรเพื่อช่วยกันอุ้มมันไว้แล้วปั๊มหัวใจจากด้านล่างของตัว ถึงตอนนี้ วาฬมีอาการเรอและสำลักกลิ่นเหม็น คาดว่าเพราะอวัยวะภายในเน่า
แล้วมันก็จากไปในที่สุด
พวกที่รวยจากศพปลาวาฬก็คือ Facebook ที่เอาชีวิตของพวกมันมาใช้หากิน โดยไม่คืนอะไรให้กับพวกมันเลย
PS. ผมลงภาพศพและอวัยวะภายในที่ถ่ายจากมือถือของสัตวแพทย์ท่านนี้แค่รูปเดียวพอดีกว่า, แค่เพื่อยืนยันว่าผมคุยกับเจ้าของ Case จริง ส่วน 2 ภาพหลังที่เป็นวาฬตอนยังมีชีวิตอยู่นั้น, Search จากใน Google ครับ
อยากฝาก Share ให้ทราบทั่วกัน หากไม่รบกวนจนเกินไป…
..........................................................................................................
+ + + ความหมายของปริมาณสำรองปิโต
..............................................................................................................
...............................................................................................................
ศาลตัดสินจำคุกแกนนำพันธมิตร 6 เดือน ปรับ 20000 บาท - รอลงอาญา 1 ปีคดีหมิ่นแม้ว
วันที่ 2 พ.ค. ที่ศาลจ.ปทุมธานี ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 1234/2551 คดีหมายเลขแดงที่ 1868/2552 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มอบอำนาจให้ นายพิชา ป้อมค่าย เป็นโจทก์ฟ้องแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยที่ 1 นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 2 นายพิภพ ธงไชย จำเลยที่ 3 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำเลยที่ 4 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จำเลยที่ 5 นายสุริยะใส กตะศิลา จำเลยที่ 6 บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 7 และบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด จำเลยที่ 8 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2551 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 8 ได้ร่วมกันโฆษณาด้วยเอกสารและคำแถลง เรื่องการคัดค้านและประณามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิดของตนเองและพวกพ้อง ผ่านการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังจากประชาชนทั่วไป และ 8 แกนนำ ได้มาที่ศาลจังหวัดปทุมธานีพร้อมกัน เมื่อเวลา 09.00 น. และศาลได้นัดพร้อมคู่ความ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 20000 บาท รอลงอาญา 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 – 8 ศาลพิพากษายกฟ้อง และรอดูว่าฝ่ายโจทก์จะยื่นศาลฎีกาต่อในระยะเวลา 1 เดือนหรือไม่.
................................................................................................
................................................................................................................
การทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตาย ชาวอินเดียเขาถือว่าคนตายแล ้วเกิดอีก เหมือนกับที่เราเชื่ออยู่ใน สมัยนี้ เวลาใครตายไปแล้วเขาก็ไปทำบ ุญที่ป่าช้า ด้วยการเอาอาหารไปกองในป่าช ้าให้วิญญาณบรรพบุรุษมากิน ปีหนึ่งนั้นเราทำกันใหญ่ครา วหนึ่งเรียกว่าสารท... ก็การทำบุญสารทอย่างบ้านเรา นั่นเองแหละ คนทั้งหลายก็ไปทำกันมาก เอาของไปกองที่ป่าช้า...สูง เหมือนกับจอมปลวก
พระพุทธเจ้าท่านไปเห็นการกร ะทำเช่นนั้น เห็นว่าการเอาอาหารมาทิ้งให้มดกินนี้ไม่ได้คว าม ถ้าหากเอาอาหารไปแจกคนยากจน ให้สมณะชีพราหมณ์ผู้ประพฤติ ชอบ ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่า พระองค์จึงสอนให้รู้จักบริจ าคทาน เอาสิ่งที่ควรจะเซ่นบรรพบุร ุษนั้นไปทำทานเสีย แจกแก่คนยากจน แก่สมณะชีพราหมณ์ สิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นวัต ถุที่มีค่าแก่สังคมมนุษย์ ดีกว่าที่จะให้เป็นวัตถุมีค ุณค่าแ่ก่มดแก่ปลวกซึ่งนอนอ ยู่ในป่าช้า
พระพุทธเจ้าท่านไม่เชื่อ ไม่ส่งเสริม ในสิ่งที่คนอินเดียเขาทำกัน มาก่อน พระองค์เป็นผู้กล้าพูดกล้าแ สดง
ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำด้วย ความภูมิใจว่า ไม่มีครูอาจารย์คนใดในโลกที ่กล้าพูดให้คนเข้าใจอย่างอง ค์พระพุทธเจ้าขอให้ท่านลองอ ่านประวัติของครูอาจารย์ในโ ลก ซึ่งมีหลายองค์ด้วยกัน ใครบ้างที่กล้าพูดอย่างพระพ ุทธเจ้า ที่จะกล้าตัดสินในสิ่งที่คว รอย่างองค์พระพุทธเจ้า.. ไม่มีเลย เมื่อได้อ่านประวัติพระพุทธ เจ้า ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจที่ได้ ทำงานที่พระองค์เคยกระทำมาใ นสมัยสองพันห้าร้อยปีมาแล้ว แม้ว่าจะมีคนเชื่อไม่กี่คน แต่ข้าพเจ้าได้ใช้สิ่งนั้นใ ห้เป็นประโยชน์แก่ชีวิต ด้วยการทำงานที่เป็นประโยชน ์เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนา ต่อไป ข้าพเจ้าเลื่อมใสพระพุทธเจ้ าในข้อนี้ พระพุทธเจ้าท่านไปไหนท่านก็ พยายามเปลี่ยนความเป็นอยู่ข องสังคมในอินเดีย ให้เข้าระบบการที่ถูกต้องแล ะเรียบร้อย
พระพุทธเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงไ ปในรูปอย่างนี้ แม้เหตุการณ์อื่นๆก็มีอีกมา ก ถ้าเราอ่านศึกษาเรื่องเกี่ย วกับพระพุทธเจ้า อ่านพระสูตรต่างๆอันเป็นหลั กคำสอนเราจะเห็นว่า พระพุทธเจ้านี้ทรงทำการปฎิบ ัติตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อเข้าสู่ระบบใหม่ อันจะเป็นไปเพื่อความสุขแก่ สังคมอย่างแท้จริง....
เลิกเชื่ออย่างไร้เหตุผล พึ่งตนพึ่งธรรมะ หน้า ๒๗๖-๒๗๗
หลวงพ่อปัญญานันทภิขุ
พระพุทธเจ้าท่านไปเห็นการกร
พระพุทธเจ้าท่านไม่เชื่อ ไม่ส่งเสริม ในสิ่งที่คนอินเดียเขาทำกัน
ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำด้วย
พระพุทธเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงไ
เลิกเชื่ออย่างไร้เหตุผล พึ่งตนพึ่งธรรมะ หน้า ๒๗๖-๒๗๗
หลวงพ่อปัญญานันทภิขุ
...................................................................................................
เลิกค่อนขอดทำลายชาติกันเถอ
ภาพที่เห็นทั้งหลายก็แค่มุม
.......................................................................................................
...................................................................................................................
http://www.youtube.com/watch?v=NAB53JELGiQ
.................................................................................................................
"...บรูตัสกล่าวว่า ซีซาร์มักใหญ่ใฝ่สูง เขาจึงสมควรตาย ใช่ บรูตัสเป็นผู้ทรงเกียรติ แต่เวลาที่คนยากจนอดตาย ซีซาร์หลั่งน้ำตา นี่หรือคือผู้มักใหญ่ใฝ่สูง
มาร์ค แอนโทนี กล่าวแก่ชาวโรมต่อหน้าศพซีซ
(เก็บความจากภาพยนตร์เรื่อง
..........................................................................................................
...............................................................................................................
[ Creative ] ดูคลิปจับผิดภาพ: ไอเดียสุดกึ๋นรณรงค์ความปลอ
ดูคลิ๊ป/อ่านต่อ: www.creativemove.com/
.................................................................................................................
...................................................................................................................
.....................................................................................................................
นักปั่นควรรู้
-ขี่จักรยานบนทางราบด้วยควา
-ขี่จักรยานด้วยขนาดความเร็
-ขี่จักรยานในช่วงความเร็วป
ที่มา http://manager.co.th/
..............................................................................................................
ลานเกียร์ บ่ายโมง วันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ไม่พลุกพล่านเหมือนปรกติ นิสิตภาคปรกติปิดภาคการศึกษ
.................................................................................................................
เรือนกระจก อย่างประหยัดและรักษ์โลก ครับผม
..............................................................................................................
เปนเรื่องปวดหัวเวลาที่จะใช
.....................................................................................................
freedom house องค์กรสิทธิมนุษยชนสากลที่ไ ด้รับความเชื่อถือเป็นอันดั บต้นๆของโลก ได้จัดอันดับ เสรีภาพสื่อ ปี 2013
และตอแหลแลนด์ก็ไม่เคยทำให้ ผิดหวัง โดยเสรีภาพสื่อของไทยถูกจัด อันดับอยู่ใน categories Not Free เช่นเดียวกับ พม่า อัฟกานิสถาน ปากีสถาน เขมร ลาว เวียดนาม อียิปต์ ลิเบีย ซูดาน เอกัวดอร์ จีน ซาอุ อิรัก ซีเรีย เอธิโอเปีย โซมาเลีย ไนเจอร์ อัลจีเรีย ฯลฯ
โดยในรายงานระบุ factors สองอย่างใหญ่ๆ ที่ทำให้คะแนนประเทศไทยตกต่ำลง คือ
1.มาตรา 112
2.การแผ่อำนาจการตีความกฎหม ายของฝ่ายตุลาการ ที่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพ
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐ านที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นชัดๆ ว่า ต่อให้อีปู ไม่ไปพูดที่มองโกลเลีย สายตาที่ชาวโลกมองเข้ามาในต อแหลแลนด์ เค้ามองเห็นรากฐานปัญหาของต อแหลแลนด์ว่าจริงๆแล้วมันมา จากฝ่ายไหนกันแน่
รายงานฉบับเต็มอยู่นี่ครับ ประเทศที่มีการทำลูกศรชี้ออ กมา คือประเทศที่ freedomhouse ทำรายงานพิเศษไว้ เพราะมีนัยยะในการเปลี่ยนแป ลงของอันดับชัดเจน ไม่ดีขึ้นมาก ก็แย่ลงมาก ของตอแหลแลนด์อยู่ในประเภทห ลังhttp:// www.freedomhouse.org/sites/ default/files/ Freedom%20of%20the%20Press% 202013%20-%20Infographic.p df
credit : www.freedomhouse.org
และตอแหลแลนด์ก็ไม่เคยทำให้
โดยในรายงานระบุ factors สองอย่างใหญ่ๆ ที่ทำให้คะแนนประเทศไทยตกต่ำลง
1.มาตรา 112
2.การแผ่อำนาจการตีความกฎหม
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐ
รายงานฉบับเต็มอยู่นี่ครับ ประเทศที่มีการทำลูกศรชี้ออ
credit : www.freedomhouse.org
...............................................................................................................
"ทุกคนมักเชื่อในความโหดร้า ยของศัตรูและไม่เชื่อในเรื่ องร้ายกาจของฝ่ายตน โดยไม่แม้กระทั่งคิดที่จะตร วจสอบหลักฐาน"
“Everyone believes in the atrocities of the enemy and disbelieves in those of his own side, without ever bothering to examine the evidence.”
จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell)
เป็นนามปากกาของ เอริก อาร์เทอร์ แบลร์ (Eric Arthur Blair)
นักเขียน นักวิจารณ์ด้านการเมืองและว ัฒนธรรมชาวอังกฤษ งานเขียนที่น่าสนใจเช่น Animal Farm ซึ่งเป็นนิยายล้อเลียนการเม ือง, 1984 ซึ่งกล่าวถึงเผด็จการอำนาจน ิยมเบ็ดเสร็จ
Source : http://www.goodreads.com/ quotes/ 104989-everyone-believes-in -the-atrocities-of-the-ene my-and-disbelieves
“Everyone believes in the atrocities of the enemy and disbelieves in those of his own side, without ever bothering to examine the evidence.”
จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell)
เป็นนามปากกาของ เอริก อาร์เทอร์ แบลร์ (Eric Arthur Blair)
นักเขียน นักวิจารณ์ด้านการเมืองและว
Source : http://www.goodreads.com/
.........................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น