วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10/05/2556

Noppadon Pattama 
(คำแปลแบบสรุปความ) คำแถลงตอบโต้แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556
พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 ที่มีข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน และข้อกล่าวหาเท็จมากมาย จึงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหา และนำเสนอลำดับเหตุการณ์การเมืองของไทยที่ชาวโลกสมควรจะได้รับทราบความจริง 
ปัญหาพื้นฐานของประเทศไทยคือ ประเทศต้องการมีประชาธิปไตย แต่กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยไม่เต็มใจที่จะยอมรับความต้องการของประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ได้แสดงผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 

1. พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีรวยก่อนเข้าสู่การเมือง
พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวร่ำรวยมานานก่อนเข้าสู่การเมือง ในปี 2537 ความร่ำรวยของครอบครัวได้ถูกประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เข้ารับตำแหน่งนักการเมืองครั้งแรกในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในปี 2537 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกและคนเดียวที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไป 2 ครั้งติดต่อกัน ในปี 2544 และ 2548 
ธุรกิจโทรคมนาคมที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นกิจการผูกขาด เพราะมีผู้แข่งขันรายอื่น และสัมปทานได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย จากรัฐบาลพลเรือนในปี 2532 ไม่ใช่จากรัฐบาลทหาร ตามคำกล่าวหาเท็จโดยพรรคประชาธิปัตย์

2. ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฯหลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเรื่องจินตนาการและเป็นเท็จ 
ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฆาตกรรมหลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง จากรายงานที่เป็นทางการของ ป.ป.ส. มีการเสียชีวิตเพียง 50 รายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตัวเลขการตาย 2,500 ศพ เป็นตัวเลขการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และจากทุกอาชญากรรมในช่วงเวลาหนึ่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณไม่เคยมีนโยบายยิงเพื่อสังหารผู้ค้ายา และไม่เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไปฆ่าใคร

3. การให้เหตุผลปกป้องการรัฐประหารที่น่าละอาย 
ในเดือนกันยายน 2549มี การรัฐประหารเพื่อล้ม พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลบล้างคะแนนเสียงของประชาชนชาวไทยกว่า 14 ล้านคน 
คณะรัฐประหารได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด จนถูกเรียกว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และคณะรัฐประหาร ได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอื่นๆ ในกลุ่มชนชั้นอำมาตย์ เพื่อที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฉบับปี 2550 ซึ่งประเทศไทย ยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จนปัจจุบัน
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและน่าละอาย ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพูดถึงการรัฐประหารในเดือน กันยายน 2549 ว่าเป็นเพียงการแทรกแซงโดยทหาร เพราะมันคือการทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง พรรคประชาธิปัตย์ควรจะตระหนักว่า การออกเสียงลงประชามติเพื่อเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในปี 2550 ได้กระทำขึ้นภายใต้บรรยากาศของการข่มขู่และความหวาดกลัวว่ารัฐบาลทหารอาจเลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดมาประกาศใช้ ถ้าการออกเสียงลงประชามติล้มเหลว

4. คนไทยปฏิเสธการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แต่ฝ่ายปฏิกิริยาและฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยยังคงทำงานอยู่ 
ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในปี 2550 ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย และทั้งๆ ที่มีการพยายามโดยคณะรัฐประหารที่จะป้องกันไม่ให้คนไทยใช้สิทธิ์เลือกตั้งพรรคฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ได้แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ปฏิเสธและไม่ยอมรับการรัฐประหารในปี 2549 
ในปี 2551 รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้เผชิญกับแรงกดดันให้ลงจากอำนาจ ท่ามกลางการประท้วงและการก่อความวุ่นวายโดยกลุ่ม พธม. พรรคพลังประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ในขณะที่กลุ่ม พธม. กล่าวหาว่าเป็นความพยายามที่จะนิรโทษกรรมทางการเมืองให้แก่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ กลุ่ม พธม. ได้ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤษภาคม 2551 เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ ส.ส. หลายคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมการประท้วง รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งต่อมาได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย 
ท้ายที่สุดนายสมัคร สุนทรเวช ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการออกรายการทีวีทำกับข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เข้าตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

5. การยุบพรรคพลังประชาชน 
ในเดือนธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคเล็กอื่นๆ และได้ตัดสิทธิ์เลือกตั้งนักการเมือง 109 คน เป็นเวลา 5 ปี และทำให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากข้อหาที่ว่ากรรมการบริหารพรรค 1 คนได้จ่ายเงินประมาณ 20,000 บาท แก่ผู้นำท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารเพียงคนเดียวถูกตัดสินว่ากระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ก็ต้องถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไปด้วย

6. นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่เคยพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตรตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา
ข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อนำ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่มีความผิด จนก่อให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนนั้น เป็นความเท็จ เพราะทั้งสองท่านไม่เคยดำเนินการดังกล่าว

7. ส.ส. จำนวนมากถูกบังคับให้ออกจากพรรคการเมืองฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อไปสนับสนุนการตั้งรัฐบาลใหม่
ในเดือนธันวาคม 2551 หลังจากการยุบพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยถูกตั้งขึ้นแทนพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนั้น แต่พวกเราถูกบังคับและเสียสิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล เพราะได้มีการรัฐประหารเงียบเกิดขึ้น และพรรคเล็กพรรคน้อยได้ถูกบังคับให้ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้งในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และขาดอาณัติจากประชาชนที่จะทำเช่นนั้น พรรคเพื่อไทย พี่น้องคนเสื้อแดง และคนไทยนับล้าน ไม่ยอบรับความชอบธรรมของรัฐบาลนี้

8. ประชาชนชาวไทยเพียงแค่ต้องการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม 
คนเสื้อแดงประกอบไปด้วยประชาชนจากทุกภาคส่วน ซึ่งคัดค้านการรัฐประหารเพื่อล้มล้าง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้ออกจากตำแหน่งในปี 2549 และบุคคลเหล่านี้ไม่อาจทนต่อ ระบบสองมาตรฐาน และความอยุติธรรม กลุ่มคนดังกล่าวเหล่านี้เชื่อว่าสิทธิทางการเมืองถูกพรากไปโดยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ร่างโดยผู้ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขามีความเห็นว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความชอบธรรม เพราะเข้าสู่อำนาจโดยผลของการกดดันทางการเมืองและการเจรจาลับหลังจากที่มีการตัดสินของศาล ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนสองรัฐบาล ที่นำโดย นายสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพลังประชาชนไม่สามารถครอบงำคนเสื้อแดง พวกเขาได้ชุมนุมประท้วงเป็นเวลา 2-3 เดือน จนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้สั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามสลายการชุมนุมในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การใช้กระสุนจริงเพื่อสลายผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ และข้อเท็จจริงที่ว่าการปฏิบัติการได้เกิดขึ้นในเวลากลางคืน ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานสากล ยังผลให้มีผู้ประท้วงและทหารเสียชีวิตราว 91 ศพ และบาดเจ็บนับพันราย ศาลอาญาได้ตัดสินในหลายคดีว่าการเสียชีวิตเกิดจากกระสุนจริงที่ใช้โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ 

9. การตั้งข้อกล่าวหาคดีอาญาและคดีการก่อการร้ายต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ได้เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร และถูกสอบสวนโดย คตส.. ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารและสมาชิกประกอบไปด้วยบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเป็นอย่างมากต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ดังนั้นจึงขัดกับหลักนิติธรรม คดีที่ดินรัชดา ที่เป็นคดีเดียวที่ตัดสินว่า พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ มีความผิด ก็อยู่ในคดีดังกล่าวเหล่านี้ด้วย
การถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใยการประท้วง ทั้งๆ ที่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณได้ปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่องว่าท่านเพียงให้กำลังใจ และเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง นั่นก็คือประชาธิปไตยและความยุติธรรมสำหรับคนไทยทุกคน พยานที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ใช้เพื่อสนับสนุนข้อหาก่อการร้ายต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เป็นเพียงวิดีโอที่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณพูดกับคนเสื้อแดงว่า ถ้าทหารใช้ความรุนแรงต่อคนเสื้อแดง ให้พี่น้องคนเสื้อแดงไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัด พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ไม่เคยสั่งหรือขอให้ใครกระทำการที่ผิดกฎหมาย และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้ายที่ถูกตั้งขึ้นเพราะมีเหตุจูงใจทางการเมือง 

10. ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย 
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้นำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะ 265 ที่นั่งจากจำนวน 500 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยได้รณรงค์อย่างชัดเจนว่านโยบายที่นำเสนอนั้น พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เป็นคนคิด และพรรคเพื่อไทยเป็นคนทำ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ในสิ่งที่ตนเองเลือก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ของประเทศไทย ทั้งในทางข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง และท่านก็เป็นผู้ตัดสินใจในฐานะนายกรัฐมนตรี นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เข้าประชุมสภาฯ ตามที่เห็นว่าจำเป็น และไม่เคยมีเจตนาที่จะละเลยหน้าที่นี้ 
เหมือนพี่ชายของท่าน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยมีความปรารถนาที่จะครอบงำ 3 อำนาจ ตามที่กล่าวหาเท็จโดยประชาธิปัตย์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีความเห็นว่าฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ควรถ่วงดุลและตรวจสอบซึ่งกันและกันแทนที่จะครอบงำอำนาจอื่น คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อเร็วๆ นี้ ที่รับคำร้องที่ยื่นโดยสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหา ที่กล่าวหาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดย ส.ส. และ ส.ว. ที่ค้างอยู่ในรัฐสภาในขณะนี้ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ได้ก่อให้เกิดความกังวลใจในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมาก คำสั่งนี้ถูกมองโดยนักกฎหมายชั้นนำในประเทศ และคนไทยจำนวนหลายล้านคน ว่าเป็นการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่เกินเลยไป และอาจจะเป็นการละเมิดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ 
ปัญหาการเมืองในประเทศไทยจะยังคงมีอยู่ต่อไป ตราบใดที่เจตจำนงและการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้รับการเคารพ ไม่ควรมีพรรคการเมืองใดได้ประโยชน์จากการรัฐประหาร หรือจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เฉพาะ ประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และความยุติธรรม เท่านั้น ที่จะสามารถประกันให้มี สันติภาพ และความมั่งคั่งของประเทศไทย และของโลกได้

นพดล ปัทมะ
10 พฤษภาคม 2556

(คำแถลงตอบโต้แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556) RESPONSE TO THE PRESS RELEASE OF THE DEMOCRAT PARTY DATED MAY 7, 2013 
The Democrat Party issued a statement on May 7,2013 and it contains several unsubstantiated claims and false accusations. It is imperative for me to rebut the accusations and present our chronology of Thai political development. The world audiences deserve to be told the truth. 

The basic problem in Thailand is that the country wishes to be a democracy, but the anti-democracy forces have been unwilling to accept the wishes of a clear majority of the voters as expressed in recent elections.

1) Dr. Thaksin Shinawatra, the former Prime Minister, is rich before entering politics. 
Dr. Thaksin Shinawatra and his family is rich long before entering politics. In 1994, the wealth of his family is valued at no less than 60,000 million baht ( approximately 2,400 million US $.) He took up his first political position as Foreign Minister in 1994. He is the first and only Thai Prime Minister who won two consecutive general elections, in 2001 and 2005. 
The telecommunication business owned by the family was not a monopoly as there were competitors and the concessions were legally gained in 1989 during civilian government, not the military-led government as wrongly accused by the Democrat Party.

2) The claim that there were thousands of extrajudicial killings during Mr. Thaksin's "war of drugs" campaign is purely imaginative and wrong.
The claim that there were thousands of extrajudicial killings during Dr. Thaksin's "war of drugs" campaign is wholly wrong. According to an official report written by Anti-Narcotic Bureau, there were only 50 cases of drug related cases and deaths. The figures of 2,500 deaths represent deaths from all causes and crimes during certain period. Dr. Thaksin Shinawatra has never adopted any shoot to kill policy and certainly never had ordered any law enforcement officer to kill anyone.

3) Shameful defence of the military coup 
In September 2006, a military coup deposed Dr.Thaksin Shinawatra, Prime Minister and leader of Thai Rak Thai Party (TRT) and removed a democratically elected government from office, overturning the votes of more than 14 million Thais.
A junta tore up our most democratic 1997 constitution (so-called “people constitution) and worked with allies in the establishment to impose a highly undemocratic charter in 2007; Thailand is still governed under this undemocratic framework.
It is unthinkable and shameful for the Democrat Party to refer to the military coup in September 2006 as military intervention as it is clearly the destruction of democracy. Also, the Party should be aware that the national referendum held to approve the draft 2007 Constitution was conducted under the atmosphere of threat and fear that the military government may choose any constitution to govern the country if referendum fails.

4)Thai people rejected the 2006 coup but the reactionary and anti-democratic forces still at work 
The victory of People Power Party (PPP), successor to the TRT in December 2007, despite elections being held under an undemocratic constitution and despite massive efforts by the junta to prevent people from freely voting pro-Thaksin party back to office, demonstrated that the majority of Thai people firmly rejected the 2006 coup.
During 2008, the PPP government led by Mr. Samak Sundaravej facing pressure to step down amid mounting protest and unrest by the People's Alliance for Democracy (PAD). The PPP supports the amendment of the 2007 constitution while anti-government protesters, PAD, perceived it as the political amnesty of Dr.Thaksin. They seized the government house and the Suvanabhumi International Airport in December 2008.l MPs from Democrat party also joined the street protest and one of them, Mr Kasit Bhirom, was appointed Thai foreign Minister against whom terrorism charge has been brought. 
Eventually, Mr. Samak Sundaravej was held disqualified to remain the Prime Minister of Thailand by the Constitutional court due to his appearance in the TV cooking show, much to the widespread astonishment of our supporters. Mr. Somchai Wongsawat succeeded him as the new Prime Minister.

5)The dissolution of the People Power Party ( PPP)
In December 2008, the constitutional court dissolved the PPP and smallers parties and banned 109 politicians from politics for five years, and removed Mr. Somchai Wongsawat on the ground that one of the party executive members paid around 600 US$ to local leader prior to the election date. Despite the fact that one party executive committee member was found guilty of electoral fraud, all other innocent executive members were also banned from holding offices.

6) Mr. Samak Sundaravej and Mr. Somchai Wongsawat never attempted to pass amnesty law to help Dr. Thaksin Shinawatra
The Democrat Party’s claim that “Both Mr.Samak and Mr.Somchai attempted to introduce and pass an Amnesty Law to help and facilitate Mr. Thaksin Shinawatra’s return to Thailand with impunity, sparking off street protests and they failed” is wholly wrong as they have never done so.

7) MPs were forced to leave our party to form the new government
In December 2008 after the dissolution of our second party, PPP, and despite the fact that our third and newly formed party, the Phue Thai Party was then the largest party in Thailand, we were deprived of our rights to form the government as the silent coup was staged and smaller parties were forced to form the government led by our opponent, the Democrat Party. They never won an election in the past twenty years and clearly lacked popular mandate to do so. Phue Thai Party, the red shirts and many millions of Thais do not accept the legitimacy of that government. 

8 ) Thai people just want democracy and the rule of law
The Red Shirts consist of various groups of people from all parts of Thailand. They oppose the military coup that ousted Dr.Thaksin in 2006 and cannot tolerate double standard and injustice. They believe that their political rights have been deprived by the present Constitution, drafted by those appointed by the Coup leader. Moreover, they take the view that Mr. Abhisit Vejjajiva's government is illegitimate because it came to power as a result of political pressure and back-room deals after controversial court rulings ousted two elected governments headed by Mr. Samak Sundaravej and Mr. Somchai Wongsawat. Neither Dr.Thaksin nor the PPP controls the Red Shirts.They had staged their rally for a few months when the government ordered the soldiers armed with offensive weapons to disperse them on May 19, 2010, and thereby caused heavy casualties. The use of live rounds to disperse the protesters rallying within their constitutional right and the fact that the operation was carried out at night was not in accordance with the international procedure. As a result, almost 91 demonstrators and soldiers died and thousands injured. The Criminal Court has ruled in several cases that deaths were caused by live bullets used by the armed forces.

9) Criminal and Terrorism charges against Dr. Thaksin
All charges against Dr. Thaksin have been brought after the coup and been investigated by the Asset Examination Committee set up by the Coup leader and several members of which are hostile political opponents of Dr. Thaksin. This is clearly against the natural justice and rule of law. The land deal case, the only case decided against Dr. Thaksin , is included.
Dr. Thaksin was accused of being a mastermind of the protest despite constant denials on his part that he merely lends them moral support and agrees with what they are demanding, i.e. true democracy and justice for all Thai. The piece of evidence that the Abhisit government used to support the terrorist charge against him is the videos showing Dr.Thaksin stating to the Red Shirts that if the army commits violence against the Reds then they should gather at provincial halls. He has never asked anyone to commit any illegal act and denies the politically motivated terrorism charges.

10) Majority of Thai people support Phue Thai Party
Miss Yingluck Shinawatra led Phue Thai Party to election victory on July 3, 2011. The party won 265 seats out of 500 seats. We publicly campaigned on the basis that the policies are thought of by Dr. Thaksin and would be implemented by Phue Thai Party. Miss Yingluck Shinawatra was elected Prime Minister of Thailand and the voters got what they voted for. She is in law and in fact the Prime Minister of Thailand and she makes the decisions. She attends the parliamentary meetings as she deems necessary and has no intention to avoid the functions.
Like her brother, she has never had any aspiration to control the three branches of government as falsely accused by the Democrat party. She always takes the view that each branch of the Judiciary, the Executive and the Legislative should, instead of dominating other branch of power, do a check and balance of power. The recent decision by the Constitutional court to admit case filed by group of unelected Senators, charging that the draft constitutional amendments by MPs and senators pending in the Parliament are unconstitutional, is a cause for great concern. This decision has been viewed by country leading lawyers and millions of Thai people as judicial overreach and an infringement of the separation of power principle.
Political turmoil in Thailand will persist as long as the will and decision of the majority is not respected. No political party should ever benefit from the coup or unconstitutional constitution. Only democracy, the rule of law and justice can guarantee peace and prosperity of Thailand and the world at large.

Noppadon Pattama 
10 May 2013
.........................................................................................................................

...........................................................................................................................




ชวนดูหนัง Lincoln

อยากชวนทุกท่านชมภาพยนต์จากชีวิตจริงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่เป็นทีรักมากที่สุดของคนทั่วโลกตลอดกาล หนังจับเอาเรื่องราวช่วงเวลาไม่กี่เกือนสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของลินคอล์นก่อนถูกลอบสังหาร ในช่วงที่ประเทศกำลังแตกแยก เกิดสงครามกลางเมือง และท่านพยายามต่อสู้อย่างที่สุดที่จะผ่านบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 13 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ที่ให้มีการเลิกทาสครับ

สร้างจากบทของ โทนี่ คัสเชอร์ จาก Munich และกำกับโดยพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก

ผู้เขียนเองแม้จะซาบซึ้งกับประวัติศาสตร์ตรงนี้มากอยู่แล้วแต่เมื่อนำมาทำเป็นภาพยนต์จนเห็นเป็นชีวิตจริงขึ้นมาก็รู้สึกมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ได้เห็นว่าการเลิกทาสของปธน.ลินคอล์นนั้นเป็นเรื่องยากแสนยาก ต้องต่อสู้กับสถานการณ์สงครามกลางเมืองฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ ปัญหาการเมืองดีโมแครท-รีพับลิกัน ปัญหาแรงกดดันจากภรรยาของตัวเอง เสี่ยงต่อการสูญเสียความนิยม ได้เห็นถึงความยืนหยัดเพื่อความถูกต้องของลินคอล์นจริงๆ ดูแล้วได้ทั้งความประทับใจและข้อคิดหลายเรื่อง

ขณะเดียวกันก็ได้ข้อคิดทางศาสนวิทยาไปด้วยก็คือ ในเวลานั้น การถกเถียงในสภาเรื่องจะเลิกทาสหรือไม่เลิกทาสนั้น มีการยกเอาเรื่องพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวด้วย ฝ่ายที่คัดค้านการเลิกทาสก็บอกว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างคนมาให้เท่าเทียมกัน สร้างบางพวกให้เกิดมาเป็นนาย สร้างบางพวกมาให้คอยรับใช้พวกแรก ใครหนุนให้เลิกทาสถือว่าทำผิดธรรมชาติ ...ส่วนคนที่สนับสนุนการเลิกทาสก็บอกว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างคนเรามาให้เท่ากันทางธรรมชาติ แต่พระเจ้าให้เราต้องทำให้คนเราเท่ากันทางกฎหมาย

...สรุปง่ายๆว่า คนเราลองอยากได้อะไรแล้วละก้อ มักเอาพระเจ้ามาเข้าข้างตัวเองได้ทุกเรื่องนั่นแหละ เวลาจะอ้างพระเจ้าคนเราจึงไม่ควรเอาความเห็นแก่ตัวและอคติของตัวเองมาแฝงไว้ด้วย

........................................................................................................................




ภาพสะท้อนที่น่าเศร้า

"แม่สอนผมไม่ให้นินทาว่าร้ายคนอื่น ถ้าแม่ได้ยินผมพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคนอื่น แม่จะจับผมไปยืนหน้ากระจก สั่งให้จ้องตัวเอง 5 นาที เหตุผลหรือครับ แม่บอกว่า ทุกคำพูดไม่ดี ที่เราพูดถึงคนอื่นคือภาพสะท้อนที่น่าเศร้าของตัวเอง"

Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group

................................................................................................................................



.............................................................................................................................




ช่วงนี้เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นครับ

เอกสาร : การดำเนินงานรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อรองรับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2

(หากอยากอ่านแบบสรุป ก็ลองไปที่ หน้า 20-23 : แอดมิน)

http://www.kkn2.net/sms/data/attachment/files/9e48f2495b9056a26fca.pdf?PHPSESSID=2f3238178c92337130116afa4f7c99a4

หากท่านใด ยังไม่ได้อ่าน แถลงการณ์จากชมรมครูรากหญ้าแห่งประเทศไทย
http://www.kruthai.info/view.php?article_id=2899

.................................................................................................................................


"ใครว่ารัฐบาลนี้ไม่สนับสนุนการศึกษา?

ดูสิครับ พอมีข่าวแถลงนโยบายอะไรใหม่ๆ ของรัฐบาลออกมา เราจะพบสารพัดผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการอิสระโผล่มาให้ความเห็นเจาะลึกอย่างอึกทึกครึกโครมเพียบ ตั้งแต่รถยนต์ แรงงาน การขนส่งคมนาคม การศึกษา จนถึงภาษาไทย ภาษาอังกฤษในวาทะของนายกฯและรัฐมนตรี

ขณะที่รัฐบาลที่แล้ว ไม่ยักมีผู้รู้ออกมาพูดอะไร ทั้งน้ำมันปาล์มขาดแผง ชั่งไข่ เช็คช่วยชาตื พากันเงียบเป็นเป่าสาก เห็นมั้ยครับ รัฐบาลนี้ขยันทำให้คนฉลาดแสวงหาความรู้แสดงออกมาตามสื่อจริงๆ"

--- มิตรสหายท่านหนึ่งว่าไว้

...................................................................................................................................


"กรณียุบโรงเรียนทำให้สรุปได้ว่า คนเกลียดยิ่งลักษณ์ด่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นแม้ว่ามันจะเริ่มสมัยอภิสิทธิ์ ในทางตรงกันข้าม คนรักยิ่งลักษณ์ก็ชมทุกอย่าง แม้ว่ามันจะเริ่มสมัยมาร์ค"

มิตรสหายท่านหนึ่ง

................................................................................................................................

เจาะข่าวเด่น : ยุบ-รวม รร.ขนาดเล็ก
รมว.พงษ์เทพ VS อดีต รมว. ชินวรณ์ 
ใครสนใจลองฟังดูนะครับ ^_^

http://www.dootv3579.com/play-9714/ดูเจาะข่าวเด่นย้อนหลัง-(ยุบ-รวม-รรขนาดเล็ก)-10-พฤษภาคม-2556.html
................................................................................................................................

จากความเห็น : คุณ Nan Mtnk 

วันนี้เห็นมีผู้อัจฉริยะเชี่ยวชาญเรื่องโรงเรียนเกิดขึ้นมากมายในเฟสบุคในเวลาที่รวดเร็วมากแต่ละท่านดราม่าเสมือนนึงว่าเคยเรียนในโรงเรียนเหล่านั้น บางคนแต่งกลอนได้สะเทือนใจยิ่งกว่าไปนั่งเรียนเองซะอีก มามะ มาฟังครูที่เค้าสอนในพื้นที่จริงเค้าพูดมั่งไหมคะ อ้อ เค้าเขียนเกิน 3 บรรทัดนะคะ อดทนหน่อย

http://www.kruthai.info/view.php?article_id=2899

.................................................................................................................................

จากความเห็น : คุณ ดอกลั่นทม บนหลุมฝังศพ 

ซึ่งพูดถึงการยุบโรงเรียนที่ปฏิบัติจริงอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก เป็น Project ระยะยาวซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2536 
...................................................................................................
ใช้คำว่า หลอมรวมโรงเรียน น่าจะเหมาะสมกว่ากับคำว่า ยุบโรงเรียน

สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 แก้ปัญหาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กโดยใช้หลักสามเกลอโมเดล

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ได้มีการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อร่วมรับฟังและระดมแนวคิดในการแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้หลักสามเกลอโมเดลหรือศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก โดยมีนายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธาน
สำหรับรูปแบบของสามเกลอโมเดล นายบวร เทศารินทร์ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้เผยว่า เป็นแนวคิดเชิงบริหารจัดการระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนขนาดเล็ก เด็กค่อนข้างน้อย จำนวนครูน้อย ชุมชนยากจน โดยวิธีการคือ การรวมตัวของโรงเรียนขนาดเล็ก 3 แห่ง ในเขตตำบลยางอุ้มและตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท ได้แก่ โรงเรียนไชยศรีสุข โรงเรียนมิตรมวลชน 5 บ้านไทยเจริญ และโรงเรียนคำบอนวิทยาสรรพ์ ซึ่งรวมกันแล้วมีบุคลากรรวมเป็น ผู้บริหาร 3 คน ครู 10 คน ลูกจ้างชั่วคราว 7 คน นักเรียน 132 คน และผู้บริหารก็เปลี่ยนกันเป็นประธานของโรงเรียนศูนย์เครือข่ายพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก
ในด้านการดำเนินงานคือ การหมุนเวียนเด็กเคลื่อนที่ไปทุกโรงเรียนตามรายวิชาหลัก เช่น นักเรียนชั้น ป.1-2 จะรวมกันเรียนวิชาภาษาไทย สังคม ที่โรงเรียนมิตรมวลชน ขณะเดียวกันนักเรียนชั้น ป.3-4 จะรวมตัวกันเรียนวิชาคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ ที่โรงเรียนคำบอนวิทยาสรรพ์ และนักเรียนชั้น ป.5-6 จะรวมกันเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ วิชาภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนไชยศรีสุข เป็นต้น ถ้าเป็นวิชารองก็เรียนที่โรงเรียนต้นสังกัด ซึ่งจากการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2553-ปัจจุบัน ทำให้นักเรียนได้มีโอกาสในการพัฒนาด้านวิชาการ ด้านสังคมการเรียนรู้มากขึ้น เป็นที่น่าพอใจ
ส่วนปัญหาที่พบขึ้นก็คือการขนส่งนักเรียนไปเรียนตามรายวิชาต่าง ๆ เพราะขาดบุคลากร บางวัน ผอ.เป็นคนขับรถ นักการภารโรง ก็ต้องดูแลเด็กหลังรถ และปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทาง สพป.กาฬสินธุ์เขต 2 จะได้หาวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาดียิ่งขึ้น...
............................................................................................
........................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น