นาย นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ นาย เกียรติ สิทธิอมร กล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น นาย เกียรติ ได้ให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงหลายประการ เพราะ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีความเป็นอิสระ แต่ก็ควรต้องรับฟังเสียงสะท้อนของทุกภาคส่วน พ.ต.ท. ทักษิณ เพียงแต่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต จะเป็นเรื่องเสียหายตรงไหน เพราะที่ผ่านมา ก็มีหลายฝ่ายแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยมากมาย ไม่ว่า นาย กิตติรัตน์ ณ. ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือ ภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ใคร ๆ ก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ ธ.ป.ท. ได้
ส่วนที่ นายเกียรติ อ้างว่าไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง ก.ม. ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ก็เป็นการพูดเท็จ เพราะ ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 หลังจากที่มีการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 กำหนดให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น และให้อำนาจ ธ.ป.ท. มากมาย จนทำให้แม้แต่กระทรวงการคลัง ก็ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของประเทศได้อย่างเต็มที่ เพราะ พ.ร.บ. ดังกล่าว ไม่ได้กำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ร.ม.ว.คลังไว้อย่างชัดเจน ส่วนการที่ นาย เกียรติ อ้างว่า นักวิชาการส่วนใหญ่ เห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ย ไม่ได้ช่วยอะไร ซึ่งน่าจะหมายถึง ไม่ได้แก้ปัญหาเงินบาทแข็งนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงแล้ว นักวิชาการส่วนใหญ่ ได้เสนอความเห็นผ่านสื่อมาโดยตลอด ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นหนึ่งในมาตรการที่ ธปท. สามารถใช้เพื่อสกัดเงินทุนต่างประเทศ ไม่ให้ไหลเข้าไทยซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงได้ ดังนั้น คำพูดของนาย เกียรติ ที่ระบุว่า การลดอัตราดอกเบี้ย ไม่ได้ช่วยอะไร จึงเป็นคำพูดที่ไม่เป็นความจริง ทั้งยังเป็นการบิดเบือนความคิดเห็นของนักวิชาการอีกด้วย นอกจากนั้นจากเอกสารรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่รายงานต่อ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ระบุว่า สาเหตุของการแข็งค่าของเงินบาท เกิดจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถสกัดเงินทุนต่างประเทศ ไม่ให้ไหลเข้าไทยเพราะจะลดแรงจูงใจของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการแสวงผลกำไรในระยะสั้น แล้วอย่างนี้ นาย เกียรติ จะอ้างว่า การลดอัตราดอกเบี้ย จะไม่ได้ช่วยอะไร หรือ ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาเงินบาทแข็งได้อย่างไร
นักเศรษฐศาสตร์และนักธุรกิจชั้นนำเห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นมาตรการหนึ่งในการแก้ปัญหาเงินบาทแข็ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการนำรายได้เข้าประเทศ ไม่ใช่การทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางรายได้ประโยชน์อย่างที่นาย เกียรติ กล่าวหาอย่างไร้หลักฐาน ตรงกันข้าม หากปล่อยให้เงินบาทแข็งค่า โดยไม่รีบแก้ไข จะมีผู้เดือดร้อนมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งออก ผู้ผลิตวัตถุดิบป้อนผู้ส่งออก ธุรกิจภาคท่องเที่ยวและบริการในประเทศ หากธุรกิจเหล่านี้ต้องปิดกิจการลง จะทำให้คนไทยจำนวนมากต้องตกงาน อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ก็จะมีบุคคลบางจำพวกได้ประโยชน์ คือ คนปล่อยเงินกู้ นักเล่นหุ้นรายใหญ่ ๆ ในตลาด จึงขอถาม นาย เกียรติว่า เหตุที่พวกท่านคัดค้านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้ง ๆ ที่ รู้เต็มอกว่าเป็นมาตรการหนึ่งที่จะแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทนั้น ท่านได้คำนึงถึงชะตากรรมของผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่ในขณะนี้หรือไม่
.........................................................................................................................
ภูฏาน ประกาศเป็นประเทศปลอดสารพิษ 100% แห่งแรกในโลก
ประเทศเล็กๆ อย่างภูฏาน ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้คนทั้ งโลกต้องหันมาสนใจ เพราะประกาศว่าการพัฒนาประเ ทศของเขาคำนึงถึงดัชนีชี้วั ดความสุขของคนในชาติ มากกว่าดัชนีผลผลิตมวลรวมขอ งประเทศ มาคราวนี้ ในที่ประชุม Delhi Sustainable Development Summit 2013
Pema Gyamtsho รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ และเกษตร ได้ประกาศว่า ประเทศภูฏาน ตัดสินใจที่จะเพาะปลูกแบบปล อดสารพิษ เป็นเกษตรอินทรีย์ 100%
” ประเทศภูฏานมีพื้นที่เพาะปล ูกเป็นดินภูเขา เมื่อเราใช้สารเคมี มันไม่ได้อยู่แค่จุดที่เราใ ช้มัน แต่มันยังส่งผลกระทบถึงน้ำ และต้นไม้อื่นๆ เราจึงจำเป็นต้องนึกถึงสภาพ แวดล้อมโดยรวม เกษตรกรของเราก็เพาะปลูกโดย วิธีดั้งเดิมอยู่แล้ว พวกเขาเพาะปลูกแบบเกษตรอินท รีย์มาช้านานแล้ว”
“นอกจากนั้น เราก็ยังเป็นเมืองพุทธศาสนา เราเชื่อในการอยู่ร่วมกันกั บธรรมชาติอย่างกลมกลืน สัตว์ต่างๆก็มีสิทธิที่จะมี ชีวิตอยู่เช่นเดียวกับเรา เราอยากเห็นต้นไม้ พืชพรรณมีความสุข และแมลงก็มีความสุขด้วย”
ขอบคุณ : Greenista Society
ประเทศเล็กๆ อย่างภูฏาน ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้คนทั้
Pema Gyamtsho รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ และเกษตร ได้ประกาศว่า ประเทศภูฏาน ตัดสินใจที่จะเพาะปลูกแบบปล
” ประเทศภูฏานมีพื้นที่เพาะปล
“นอกจากนั้น เราก็ยังเป็นเมืองพุทธศาสนา
ขอบคุณ : Greenista Society
..........................................................................................................................
ปัญหาหมูๆ ที่ไม่หมู
ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา เหล่านักจุลชีว- วิทยาได้เสนอแนวคิดในการนำยาปฏิชีวนะไปใช้ในอุตสาห-กรรมปศุสัตว์ เพื่อขุนให้สัตว์อ้วนขึ้น หรือมีปริมาณเนื้อเพิ่ม มากขึ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวอาจสร้างปัญหาต่อสุขภาพของ มนุษย์ในอนาคต เพราะอาจมีการกลายพันธุ์ของแบคทีเรีย ที่พบอยู่ในธรรมชาติของสัตว์และเกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตาม กลุ่มเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้ให้ความ คิดเห็นว่าการกำจัดหรือลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะจะทำ ให้อุตสาหกรรมปศุสัตว์มีผลกระทบในด้านของต้นทุนและต้องขึ้นราคาสินค้าซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามจากผลงานวิจัยตลอด 1 ปี ที่ผ่านมาพบว่า การใช้ยาปฏิชีวนะแม้จะเป็นเพียงปริมาณน้อยในสัตว์ มีผลเป็นการเพิ่มการกลายพันธุ์ของเชื้อจุลินทรีย์ (Microbe) ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะมากขึ้น ซึ่งเมื่อตรวจสอบชนิดของเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะในสัตว์จะตรงกับเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะในคน ดังนั้น ประเทศเดนมาร์กจึงออกข้อบังคับห้ามใช้ยาปฏิชีวนะปริมาณตํ่าในสัตว์ เช่น ไก่ สุกร และฟาร์ม ปศุสัตว์อื่นๆ
โดยทั่วไป เกษตรกรในหลายประเทศนำยาปฏิชีวนะ มาใช้ในการรักษาสัตว์ให้หายจากอาการเจ็บป่วย หรือเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น และเมื่อใช้ยาปฏิชีวนะในปริมาณน้อย จะเป็นการ เพิ่มปริมาณของเนื้อสัตว์ หรือป้องกันสัตว์จากการเจ็บป่วย
หลังจากการออกข้อบังคับดังกล่าว พบว่า หลังจากที่เจ้าของฟาร์ม ได้ปล่อยให้แม่สุกรและลูกได้ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ผลปรากฎว่า แม่สุกรมีนํ้าหนัก เพิ่มขึ้นจนมีระดับปกติ และมีอัตราการให้กำเนิดลูกสุกรมากกว่าเดิมเล็กน้อย ภายใต้การควบคุมความสะอาดของคอก การเพิ่มพื้นที่คอก และการทิ้งช่วงระยะเวลาในการผสมพันธุ์ให้เพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบันกลุ่มผู้เลี้ยงปศุสัตว์รายงานว่า มีผลผลิตมากกว่าในอดีตที่ยังมีการใช้ ยาปฏิชีวนะอยู่
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการเกษตร ยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการแพร่ของเชื้อที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ ในปัจจุบัน เราพบเชื้อที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะสายพันธุ์ ใหม่ ซึ่งเชื้อกลายพันธุ์บางชนิดสามารถทำให้เกิดโรคในคนในที่สุด
ดังนั้น ตัวอย่างของการหยุดการใช้ยาปฏิชีวนะใน ปศุสัตว์ดังเช่นประเทศเดนมาร์กที่ไม่มีผลกระทบต่อการผลิตและรายได้ของผู้เลี้ยง โดยที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ถือเป็น แนวทางที่หลายประเทศควรปฏิบัติตาม เพื่อลดโอกาสในการเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อในอนาคต
Photo: http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=our-big-pig-problem Read more: http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=our-big-pig-problem
...............................................................................................................................
..........................................................................................................................
สมุดบัญชีพลังงานครัวเรือน
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.465618586853689.1073741829.176812165734334&type=1
.........................................................................................................................
...............................................................................................................................
นามบัตรที่่ใช้ความร้อนจากร
............................................................................................................................
เช้าวันสุดท้ายในญี่ปุ่น ขณะนั่งรถไปสนามบิน เห็นเด็ก ๆ เดินไปโรงเรียนเป็นกลุ่ม ๆ ตลอดทาง เพื่อนคนไทยซึ่งมีครอบครัวใ นญี่ปุ่นเล่าว่า ที่นี่มีกฎกำหนดให้นักเรียน ชั้นประถมทุกคนต้องเดินไปโร งเรียนเอง มีกฎห้ามไม่ให้ผู้ปกครองขับ รถไปส่งลูกที่โรงเรียน ไม่ว่ารวยหรือจน ก็ต้องให้ลูกเดินไปโรงเรียน เอง (ส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนอยู่ไ ม่ไกลจากบ้าน เดิน ๒-๓ กม.ก็ถึงแล้ว ทั้งนี้เพราะเขามีกฎให้เด็ก ประถมเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ถ้าไปเรียนที่อื่น ก็ต้องรับผิดชอบเอง) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ค นญี่ปุ่นเดินเก่งมาก เพราะถูกฝึกให้ขยันเดินตั้ง แต่เล็ก
การให้เด็กเดินไปโรงเรียนเอ งนี้ แก้ปัญหาจราจรติดขัดยามเช้า ได้เป็นอย่างดี แต่ที่สำคัญก็คือ เป็นการส่งเสริมให้เด็ก ๆ ในละแวกเดียวกันมีความคุ้นเ คยกันและช่วยเหลือกัน เพราะต้องเดินกันเป็นกลุ่ม ๆ ถ้ามาถึงหน้าบ้านใครแล้ว เขายังไม่พร้อม ก็ต้องรอ จะทิ้งกันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ฝึกให้เด็กเป็ นคนตรงต่อเวลา เพราะหากตื่นสายอาบน้ำช้า ก็ทำให้เพื่อน ๆ ต้องรอ ถ้าไม่อยากให้เพื่อนรอ ก็ต้องมารอหน้าบ้านเมื่อถึง เวลา
บางช่วงจะเห็นเด็กโตจูงมือเ ด็กเล็กอยู่หน้าแถว เด็กโตเหล่านี้มีหน้าที่ดูแ ลเด็กเป็นคน ๆ ทั้งขาไปและขากลับ เป็นการสร้างสัมพันธภาพ ส่งเสริมความมีน้ำใจและความ รับผิดชอบตั้งแต่วัยเยาว์
ระหว่างทางจะมีผู้ใหญ่ยืนตา มทางแยก โดยเฉพาะตรงทางม้าลาย เพื่อนบอกว่าผู้ใหญ่เหล่านั ้นคือครูที่ทางโรงเรียนส่งม าเพื่อดูแลความปลอดภัยให้นั กเรียน แต่บางครั้งก็เป็นผู้ปกครอง ที่แบ่งเวรกันมาดูแลความปลอ ดภัยของเด็ก ๆ
เพียงแค่การไปโรงเรียน ก็เห็นความร่วมมือและความพร ้อมเพรียงของคนทุกฝ่าย ตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ ไปจนถึงครู ไม่ต้องสงสัยว่ากิจกรรมเหล่ านี้ซึ่งเกิดขึ้นวันแล้ววัน เล่าติดต่อกันหลายปี จะมีผลในการกล่อมเกลาจิตใจค นญี่ปุ่นให้นึกถึงส่วนรวมแล ะทำงานเป็นหมู่คณะได้มากเพี ยงใด
การให้เด็กเดินไปโรงเรียนเอ
บางช่วงจะเห็นเด็กโตจูงมือเ
ระหว่างทางจะมีผู้ใหญ่ยืนตา
เพียงแค่การไปโรงเรียน ก็เห็นความร่วมมือและความพร
.............................................................................................................................
[ Advertising ] ป้ายโฆษณาอัศจรรย์ เด็กเท่านั้นที่เห็น! ซ่อนเบอร์แจ้งจับผู้ใหญ่ทาร
อ่านต่อ: www.creativemove.com/
.................................................................................................................................
...............................................................................................................................
» ปัญญาจากฝูงชน / CROWDSOURCING
» เมื่อปัญญาจากผู้เชี่ยวชาญ ถูกท้าทายด้วย ปัญญาจากคนธรรมดา
กรณีศึกษาที่ 1 :
ตอนนี้หลายท่านหลังจากใช้บร ิการกับบริษัทชั้นนำ คงเจอเหตุการณ์นี้ใช่ไหมครั บ “พี่คะ อาจจะมีคนโทรไปถามพี่ เรื่องการใช้บริการของเรา ถ้าเขาโทรมาฝากพี่ให้ 10 เต็ม 10 เลยนะคะ”
มีคนถามว่ารู้สึกยังไงกับเห ตุการณ์นี้ เชื่อว่าหลายคนคงคิดคล้ายๆ กันว่า ถ้าเป็นเราเองในฐานะพนักงาน ให้บริการก็คงรู้สึกลำบากใจ
ถ้ามีการเอาระบบนี้ไปใช้ในม หาวิทยาลัย เหล่าคณาอาจารย์คงเศร้า เพราะต่อให้เป็นเทวดา สอนเสร็จ ก็คงต้องบอกกับลูกศิษย์บังเ กิดเกล้าว่า
“นักศึกษาครับ จะมีคนโทรมาถามความพึงพอใจเ รื่องการสอนนะ เป็นบริษัทที่มหาวิทยาลัยจ้ างมา ช่วยให้คะแนนเต็มห้าด้วยนะ”
ระบบการให้คะแนนเพื่อวัดงาน บริการ เป็นอะไรที่เป็น “นวัตกรรม” ที่บริษัทเอกชนชั้นนำหลายแห ่งกำลัง “คลั่ง” ใช้งานอยู่ เพราะว่ามัน “วัดได้”
หลายๆบริษัทจ้างบริษัทที่เช ี่ยวชาญเรื่องนี้มาสำรวจควา มเห็นของลูกค้า แล้วเอาผลที่ได้มาให้คุณให้ โทษพนักงาน แล้วเอามาปรับปรุงงานบริการ
แต่เราก็จะเห็นพนักงานของบร ิษัทส่วนใหญ่จะ “ลักไก่” ขอคะแนนลูกค้าหน้าตาเฉย ก็ไม่ทราบกันว่าจะเอาคะแนนอ ย่างนี้ไปวัดอะไรได้
ผมเคยถามภรรยาว่า “คุณคิดยังไง” เธอตอบว่า “ก็รู้สึกนะ ว่าไม่เข้าท่า บางครั้งถึงกับคิด ว่า “นี่ ที่พูดกับเราดีๆ บริการดีๆ นี่ หวังคะแนน เหรอ แค่นี้เองเหรอ”
::::::::::::::::
กรณีศึกษาที่ 2 :
ลูกศิษย์ผมเค้าไปช่วยชาวบ้า นพัฒนาตลาดขายต้นตะโก แถวชัยภูมิ
เขาไปถามลูกค้าที่ซื้อซ้ำ (แสดงว่าเราต้องมีดี เขาถึงตามมาซื้อ) เธอถามว่า “ชอบเราตรงไหน จุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากลับม าซื้อคืออะไร”
ได้คำตอบดังนี้ครับว่า “ชอบตรงที่บริการนี้ดีมากค่ ะ”
“ทำไมล่ะคะ” ลูกศิษย์ผมถาม
ลูกค้าเลยตอบว่า...
“ ตอนนั้น ซื้อต้นตะโกจากทางร้านไป เอาไปลงปลูกไว้ที่บ้านในกรุ งเทพ มันเกิดจะตายขึ้นมา เลยจะโทรกลับ ปรากฏว่า ทำนามบัตรหาย ไม่รู้จะทำยังไง พอดีทางร้านโทรกลับมาถามว่า มีปัญหาอะไรไหม ที่สุดก็เลยบอกทางร้าน ทางร้านเลยสอนวิธีฟื้นต้นตะ โกให้ ตอนนี้งามเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นเลยบอกต่อคนอื่น ว่าให้มาซื้อที่นี่”
นี่เป็นที่มาของโครงการติดต ามลูกค้า ไม่ได้โทรไปถามคะแนน ประเมิน แต่เป็นการโทรไปถามว่า ลูกค้าซื้อต้นตะโกไปมีปัญหา อะไรไหม
เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ลูกศิ ษย์ในองค์กรขนาดใหญ่ที่นิยม จ้างที่ปรึกษาแพงๆ ฟัง ได้เรื่องครับ ตอนนี้เลยใช้ “ตะโกโมเดล” หลังจากใช้บริการเสร็จ ก็โทรไปถามว่าชอบอะไร ได้ที่ต้องการครบไหม ปรากฏลูกค้าชอบ มาซื้อบริการด้านอื่นๆเพิ่ม อีก สนิทกับลูกค้ามากขึ้น มีการบอกต่อมากขึ้น
แนวคิดนี้ก็อาจ “เทพ” ไม่น้อยไปกว่า แนวคิดที่คุณได้จากที่ปรึกษ า ที่ค่าตัวแพงมากๆ ในกรณีศึกษาแรก
ถ้าคุณเชื่อว่า “คนธรรมดาทั่วไป คนเดินถนน บ้านนอก ก็อาจให้คำตอบดีๆกับคุณได้ ไม่แพ้ที่ปรึกษาราคาแพง ระดับโลก”
::::::::::::::::
ความเชื่ออย่างในกรณีที่สอง เชื่อว่า “คนธรรมดา คนทั่วไป บ้านๆ ก็ได้ อาจให้คำตอบดีๆ กับเราได้”
แนวคิดอย่างกรณีที่สองนี้เร าเรียกว่าแนวคิด Crowdsourcing (คราวด์ช๊อสซิ่ง) หรือ ปัญญาจากฝูงชน (Wisdom of the Crowd วิสดอม อ๊อฟ เดอะ คราวด์)
เป็นแนวคิดที่เริ่มมีการกล่ าวขวัญถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แนวคิดนี้บอกเลยว่า “ปัญญาจากฝูงชน คนธรรมดา หลายๆ คน ดีกว่าปัญญาที่ได้จากผู้เชี ่ยวชาญเพียงคนเดียว”
Crowdsourcing เป็นสิ่งที่จุดประกายความหว ังให้กับองค์กรที่ “รู้” เรื่องนี้เพราะคุณอาจได้คำต อบที่ดีกว่า เร็วกว่า ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า
::::::::::::::::
มีบริษัทนึงครับ ชื่อ Innocentive เริ่มใช้แนวคิดนี้มาพักใหญ่
ปรกติแล้วปัญหายากๆทางวิศวก รรมนี่ บริษัทใหญ่จะมองหาผู้เชี่ยว ชาญ ซึ่งก็บอกตรงๆ ว่าหายาก ค่าตัวแพง หรือจะไปจ้างที่บริษัทที่ปร ึกษาบางครั้งมันก็ยากจริงๆ ครับ แทบเป็นไปไม่ได้
เขาเลยใช้แนวคิด Crowdsourcing ครับ ก็เป็นเว็บเลย มีปัญหาอะไรบอกเขา เดี๋ยวเขาจะไปประกาศให้ฝูงช นของเขาทราบ ก็คือใครก็ได้ครับ แล้วก็จะมีคนเสนอตัวแก้ปัญห า
โดยที่ Innocentive จะไม่บอกให้ลูกค้ารู้เลยว่า ใครเป็นคนแก้ปัญหาให้เขา บ่อยครั้งที่พบว่าหลังแก้ปั ญหาทางฟิสิกส์ หรือวิศวกรรมยากๆ ได้แล้ว พอเฉลยออกมา คนจ้างต้องประหลาดใจครับ เพราะแทนที่จะเป็นวิศวกรระด ับปริญญาเอก กลับกลายเป็นครูสอนฟิสิกส์ช ั้น ม. 4 ที่จบระดับปริญญาตรี
ดู http:// www.innocentive.com/
::::::::::::::::
อีกแห่งหนึ่งเป็นบริษัทรับอ อกแบบที่ ชื่อ Designcrowd ใช้แนวคิดนี้ครับ ...ก็ได้ผล
ใครอยากให้ออกแบบอะไรก็ไปโพ สต์แนวคิดไว้ สักพักคุณก็จะเจอใครไม่รู้จ ากทั่วโลกส่งแบบดีไซน์ดีๆ ให้คุณพิจารณาเลือกซื้อ
ดูที่ link นี้ ครับ
http:// www.designcrowd.com/ testimonials/
ว่ามีบริษัท องค์กรชั้นนำมาลองใช้บริการ ถึงกับบอกเลยว่าดีกว่าจ้างเ อเจนซี่โฆษณาดังๆ งานดีกว่าเร็วกว่า แถมถูกกว่า 50%
::::::::::::::::
ด้านการเงิน...มีการนำมาใช้ เรื่องการระดมทุน เราเรียกว่า Crowdfunding เช่นที่
www.crowdfunding.com
ลองคิดดูสิคุณจะทำอะไร อยากตั้งใจทำอะไรดีๆ หรือเดือดร้อน ในอดีต หน้ามืดมากๆ ก็อาจกลายเป็นหนี้นอกระบบ แต่อยากทำธุรกิจ อยากสร้างหนัง ทำงานสร้างสรรค์ คุณก็วิ่งไปหาธนาคารใกล้บ้า น คุณอาจถูกปฏิเสธ จาก “ผู้เชี่ยวชาญ” ทางการเงิน
มาเลยครับมาหาฝูงชน ที่นี่คุณอยากทำอะไร ตั้งแต่ระดมเงินทุนเพื่อการ ศึกษาของคุณเอง ช่วยทหารผ่านศึกษา สร้างธุรกิจใหม่ ผ่าตัดหัวใจ พัฒนาพลังงานทางเลือก มาเลย เอาความฝันของคุณมาประกาศให ้ฝูงชนได้รับทราบ
เท่าที่เห็นเมื่อประกาศไปก็ มักจะมีใครที่เป็นชาวบ้านๆ ธรรมดา บางทีอาจมาจากมุมใดของโลกก็ ได้ ออกตังค์ให้คุณไปทำอะไรดีๆ เสมอครับ
ดูที่นี่เป็นตัวอย่างครับ เป็นแนวทางการะดมทุนในโครงก ารประเภทต่างๆ
http://www.gofundme.com/ fundraising-ideas/
::::::::::::::::
#บทสรุป :
แนวคิดหรือความเชื่ออย่างที ่สอง ในมุมมองของผม เป็นคำตอบของประเทศของเราคร ับ เป็นคำตอบในทุกด้านตั้งแต่ก ารบริหาร วิศวกรรม การเงิน ความคิดสร้างสรรค์และทุกอย่ าง
สังคมเราพึ่งพา “ปัญญาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ กลุ่ม” มานานเกินไปแล้วครับ ลองค้นหา “ปัญญาจากฝูงชน Crowdsourcing” สิครับ ผมว่าสังคมเราจะพัฒนาไปได้ไ กลกว่านี้มาก
ที่พูดมาทั้งหมดมิได้ชวนให้ คุณปฏิเสธ "ผู้เชี่ยวชาญ" ทั้งหมด ล่าสุดผมก็ต้องพึ่งพาสัตวแพ ทย์ให้มาฉีดวัคซีนหมาที่บ้า นครับ ผมเองเพียงเสนอทางเลือกให้เ ท่านั้นครับ
การได้ผู้เชี่ยวชาญนั้นดีมา กๆครับ หากแต่เราก็ไม่ควรจะเดินตาม ผู้เชี่ยวชาญแบบไม่ลืมหูลืม ตา
และวันใดถ้าคุณรู้สึกว่าอะไ รบางอย่างมันทะแม่งๆ ก็ลองคิดถึงทางเลือกนี้ดูคร ับ
ส่วนใครทุนไม่หนา บารมีไม่ถึงที่จะเข้าถึงทรั พยากรอะไรที่มันอยู่ในระบบแ บบเดิมๆ นี่เป็นทางเลือกและความหวัง ของคุณเลยครับ
::::::::::::::::
Credit : ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์ กูรูด้าน Appreciative Inquiry
» เมื่อปัญญาจากผู้เชี่ยวชาญ ถูกท้าทายด้วย ปัญญาจากคนธรรมดา
กรณีศึกษาที่ 1 :
ตอนนี้หลายท่านหลังจากใช้บร
มีคนถามว่ารู้สึกยังไงกับเห
ถ้ามีการเอาระบบนี้ไปใช้ในม
“นักศึกษาครับ จะมีคนโทรมาถามความพึงพอใจเ
ระบบการให้คะแนนเพื่อวัดงาน
หลายๆบริษัทจ้างบริษัทที่เช
แต่เราก็จะเห็นพนักงานของบร
ผมเคยถามภรรยาว่า “คุณคิดยังไง” เธอตอบว่า “ก็รู้สึกนะ ว่าไม่เข้าท่า บางครั้งถึงกับคิด ว่า “นี่ ที่พูดกับเราดีๆ บริการดีๆ นี่ หวังคะแนน เหรอ แค่นี้เองเหรอ”
::::::::::::::::
กรณีศึกษาที่ 2 :
ลูกศิษย์ผมเค้าไปช่วยชาวบ้า
เขาไปถามลูกค้าที่ซื้อซ้ำ (แสดงว่าเราต้องมีดี เขาถึงตามมาซื้อ) เธอถามว่า “ชอบเราตรงไหน จุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากลับม
ได้คำตอบดังนี้ครับว่า “ชอบตรงที่บริการนี้ดีมากค่
“ทำไมล่ะคะ” ลูกศิษย์ผมถาม
ลูกค้าเลยตอบว่า...
“ ตอนนั้น ซื้อต้นตะโกจากทางร้านไป เอาไปลงปลูกไว้ที่บ้านในกรุ
นี่เป็นที่มาของโครงการติดต
เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ลูกศิ
แนวคิดนี้ก็อาจ “เทพ” ไม่น้อยไปกว่า แนวคิดที่คุณได้จากที่ปรึกษ
ถ้าคุณเชื่อว่า “คนธรรมดาทั่วไป คนเดินถนน บ้านนอก ก็อาจให้คำตอบดีๆกับคุณได้ ไม่แพ้ที่ปรึกษาราคาแพง ระดับโลก”
::::::::::::::::
ความเชื่ออย่างในกรณีที่สอง
แนวคิดอย่างกรณีที่สองนี้เร
เป็นแนวคิดที่เริ่มมีการกล่
Crowdsourcing เป็นสิ่งที่จุดประกายความหว
::::::::::::::::
มีบริษัทนึงครับ ชื่อ Innocentive เริ่มใช้แนวคิดนี้มาพักใหญ่
ปรกติแล้วปัญหายากๆทางวิศวก
เขาเลยใช้แนวคิด Crowdsourcing ครับ ก็เป็นเว็บเลย มีปัญหาอะไรบอกเขา เดี๋ยวเขาจะไปประกาศให้ฝูงช
โดยที่ Innocentive จะไม่บอกให้ลูกค้ารู้เลยว่า
ดู http://
::::::::::::::::
อีกแห่งหนึ่งเป็นบริษัทรับอ
ใครอยากให้ออกแบบอะไรก็ไปโพ
ดูที่ link นี้ ครับ
http://
ว่ามีบริษัท องค์กรชั้นนำมาลองใช้บริการ
::::::::::::::::
ด้านการเงิน...มีการนำมาใช้
www.crowdfunding.com
ลองคิดดูสิคุณจะทำอะไร อยากตั้งใจทำอะไรดีๆ หรือเดือดร้อน ในอดีต หน้ามืดมากๆ ก็อาจกลายเป็นหนี้นอกระบบ แต่อยากทำธุรกิจ อยากสร้างหนัง ทำงานสร้างสรรค์ คุณก็วิ่งไปหาธนาคารใกล้บ้า
มาเลยครับมาหาฝูงชน ที่นี่คุณอยากทำอะไร ตั้งแต่ระดมเงินทุนเพื่อการ
เท่าที่เห็นเมื่อประกาศไปก็
ดูที่นี่เป็นตัวอย่างครับ เป็นแนวทางการะดมทุนในโครงก
http://www.gofundme.com/
::::::::::::::::
#บทสรุป :
แนวคิดหรือความเชื่ออย่างที
สังคมเราพึ่งพา “ปัญญาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
ที่พูดมาทั้งหมดมิได้ชวนให้
การได้ผู้เชี่ยวชาญนั้นดีมา
และวันใดถ้าคุณรู้สึกว่าอะไ
ส่วนใครทุนไม่หนา บารมีไม่ถึงที่จะเข้าถึงทรั
::::::::::::::::
Credit : ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์ กูรูด้าน Appreciative Inquiry
...................................................................................................................
..........................................................................................................................
» Freeconomics เศรษฐกิจแจกฟรี (ของฟรีใครว่าไม่มีในโลก)
นักเศรษฐศาสตร์บอกว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” และผู้บริโภคอย่างเราก็รู้ด แต่เชื่อหรือไม่ว่าในยุคนี้ ทั้งนี้เพราะความก้าวหน้าขอ :::::::::::::::: Episode I “การแจกฟรี” นั้นเป็นพื้นฐานของอุตสาหกร โดยยกกรณีศึกษาของนายคิง ยิลเลตต์ ผู้คิดค้นใบมีดโกนแบบใช้แล้ ในปีแรกที่ออกวางขาย (ค.ศ.1903) ยิลเลตต์ขายมีดโกนนี้ได้เพี จนกระทั่งในปีหนึ่งที่ยิลเล จนในที่สุดนวัตกรรมมีดโกนขอ ความฟรีแบบให้ไปก่อนเพื่อจะ - แจกซิมฟรี (แต่ขายแพคเกจโทรรายเดือน) - ขายเครื่องเล่นเกมแบบถูกๆ (แต่ขายตัวเกมแพงกว่า) - ให้ดาวน์โหลดเล่นเกมฟรี (แต่ขายไอเท็มพิเศษในเกม) - ร้านอาหารแถมน้ำดื่มฟรี (แต่ขายเครื่องดื่มอื่นราคา - ตั้งตู้ให้กดกาแฟฟรีในออฟฟิ ฯลฯ เหล่านี้ถือเป็นของฟรีรูปแบ โดยหลักการแล้ว ของฟรีรูปแบบนี้ได้ผ่านการค ผู้บริโภคต่างหากคือฝ่ายที่ :::::::::::::::::: Episode II `เศรษฐกิจแจกฟรีในศตวรรษที่ ในศตวรรษที่ 21 นี้ เศรษฐกิจแจกฟรีจะไม่ใช่แค่ล ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสม ซึ่งปรากฏการณ์นี้ทำให้ต้นท ปัจจุบันบนโลกของ “เว็บ” มีการให้เปล่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น E-mail Account พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี, ตัวอย่างข้างต้นนี้ คงพอทำให้เรานึกออกว่า โลกไซเบอร์นั้นมีสินค้าและบ ฉะนั้น เมื่อธุรกิจบนเว็บต่างตั้งม อย่างไรก็ดี การทำธุรกิจกับความฟรีนี้ก็ :::::::::::::::::::: เราลองมาดูกลยุทธ์และเทคนิค 1. ฟรีในโมเดลธุรกิจสื่อ เป็นการตลาดแบบรวม 3 ฝ่ายเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ...ผู้ให้บริการขอ ยกตัวอย่างเช่น รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ และนิตยสารแจกฟรี บริการเหล่านี้จะให้ผู้บริโ เช่น การขายฐานข้อมูลผู้บริโภค การรับสมัครสมาชิก การจัดกิจกรรมเสริม และการขายตรง เป็นต้น ตัวอย่างธุรกิจที่นำโมเดลฟร - ผับ บาร์ สถานบันเทิง : ประเภทผู้หญิงเข้าฟรี ผู้ชายเสียเงิน (“ดึง” ลูกค้าผู้หญิงเข้ามาเป็นสีส - เกมส์ออนไลน์ ละครซิทคอม : แจกคอนเทนท์ให้ผู้บริโภคเสพ :::::::::::::::::::: 2. ฟรีเมียม (Freemium) เป็นโมเดลที่ต่อยอดมาจากการ หลักการคือ ผู้ให้บริการจะมอบคอนเทนท์ท ของระดับพรีเมียมที่ว่า จะมีหลายระดับหลายราคา อาทิเช่น ระดับ Bronze, Silver, Gold, Platinum หรืออะไรที่ยิ่งกว่านั้น พูดง่ายๆ คือ เป็นการแจกของฟรีให้ใช้ก่อน การนำกลยุทธ์ฟรีเมียมมาปรับ - ให้ฟรีแบบจำกัดเวลา คือ ฟรีในระยะทดลองใช้ หลังจากเกินเวลาที่กำหนดก็ต เกมส์ที่ให้ทดลองเล่นก่อนแค - ฟรีแบบจำกัดลักษณะการใช้งาน :::::::::::::::::::: 3. ฟรีด้วยต้นทุนที่เข้าใกล้ศู ไม่มีตัวอย่างใดจะอธิบายสิน ด้วยเหตุนี้ ศิลปินส่วนใหญ่จึงหันมาแจกเ ในปี 2007 วง Radiohead เปิดให้ผู้ฟังดาวน์โหลดอัลบ ผลปรากฏว่า...มีเพียงหนึ่งใ สรุปว่า...ยอดดาวน์โหลดเองก :::::::::::::::::::: กล่าวโดยสรุปว่าความสำเร็จข 1. ความสามารถที่จะลดต้นทุนสำค 2. ความสามารถที่จะหารายได้คู่ 3. ความสามารถในการพัฒนากลยุทธ 4. ความรวดเร็วในการเข้าสู่วงจ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เห็นว่า เพราะแม้ผู้บริโภคจะถูกดึงด สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยค :::::::::::::::::::: Credit : เรียบเรียงข้อมูลจาก หนังสือ MACROTRENDS ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกใหม่แล |
............................................................................................................................
........................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น